22/5/59






เว็บไซต์ เซี่ยงไฮ้อิสต์ ของจีนรายงานว่า นักเรียนหญิงวัย 12 ขวบ ถูกมีดปักเข้าศีรษะด้านหลัง ในเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ทีมแพทย์ดึงมีดซึ่งมีความยาว 15 ซ.ม. ออกมาจากศีรษะอย่างช้าๆ




รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บาดเจ็บและเพื่อนๆ จัดปาร์ตี้กันในสวนสาธารณะของเมือง เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเพื่อนของผู้บาดเจ็บคนหนึ่งทะเลาะวิวาทกับเพื่อนผู้ชาย จากนั้นเมื่อเพื่อนทุกคนหันหน้าเดินออกไป เด็กชายคนนั้นจึงเอามีดเขวี้ยงออกไปโดยไม่เล็งเป้าหมาย ซึ่งไปเสียบเข้าข้างหลังศีรษะของหนูน้อยวัย 12 ขวบ คนดังกล่าวพอดี


เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดตามผู้ก่อเหตุเป็นเด็กชายวัย 13 ขวบ แต่ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมาย เนื่องจากเป็นเยาวชน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายตัดสินใจพูดคุยกันนอกศาล โดยครอบครัวฝ่ายชายต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล 8,000 หยวน (ราว 43,000 บาท) ส่วนเด็กที่ถูกมีดเสียบเข้าที่ศีรษะอาการปลอดภัยและพ้นขีดอันตรายอย่าง ปาฏิหาริย์











ที่มา :http://www.siamupdate.com/news-182930

21/5/59






เว็บไซต์ นูร์ ของคาซัคสถานรายงานว่า ในโซเชี่ยลมีเดียมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของเด็กชายวัย 3-4 ขวบ ขณะนั่งอยู่ในรถยนต์และใช้มือคีบก้านบุหรี่ที่จุดไฟ จากนั้นนำไปจ่อปาก แกล้งทำเป็นสูบบุหรี่แล้วพ่นควันออกมา ก่อนหัวเราะอย่างสนุกสนาน

 คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นหนูน้อยซึ่งเรียกคนขับรถและบันทึกวิดีโอว่า "พ่อ" ซึ่งโน้มน้าวให้ลูกชายตัวเองสูบบุหรี่ โดยได้ยินเสียงคล้ายไอของลูกชายด้วย




 คลิปดังกล่าวทำให้สังคมออนไลน์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยควันบุหรี่ทำร้ายสุขภาพของเด็กเล็ก และพ่อของเด็กต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว






ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1463559139





เว็บไซต์เดลีสตาร์ของอังกฤษรายงานว่า คลิปอื้อฉาวที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงนี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เป็นคลิปที่อาจารย์หนุ่มของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกำลังลักลอบมีมีเพศสัมพันธ์กับนักศึกษาสาวภายในชั้นเรียน ตอนเวลากลางวันแสกๆ




โดยในคลิปจะเห็นนักศึกษาสาวนอนอยู่บนโต๊ะทำงานของอาจารย์หน้าชั้นเรียนแล้วมีความสัมพันธ์กับอาจารย์หนุ่ม ซึ่งคลิปนี้ถ่ายโดนมือถือจากช่องหน้าต่างของชั้นเรียน อย่างไรก็ตาม  เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และเรียกร้องให้ลงโทษอาจารย์หนุ่มรายนี้อย่างเฉียบขาด









ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1463751239

20/5/59






ค่อยหายแค้น ! ย้อนดู บัวขาว VS Masato นักมวยญี่ปุ่น ซัดจนน่วมหลังโดนโกงให้เสมอ











ที่มา:https://www.youtube.com/watch?v=MkXbSzNwn9Y






เว็บไซต์เดลีเมล์ รายงานเรื่องราวของนายไบรอัน เซมบิก นักพนันและนักมายากลชาวแคนาดาวัย 55 ปี ที่รับคำท้าแปลกๆจากเพื่อน เสริมหน้าอกแลกกับเงินพนันจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.5 ล้านบาท แถมยังใช้ชีวิตอยู่กับหน้าอกขนาด 38 คัพซี มานานถึง 20 ปี ก่อนตัดสินใจเฉือนทิ้ง

นายไบรอัน เล่าว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1996 ระหว่างไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนอีก 2 คน และแฟนของเพื่อนได้คุยเรื่องหน้าอก ตนก็เลยพูดขำๆว่า ถ้ามีหน้าอกแบบพวกเธอบ้างก็คงดี คงจะมีคนสนใจมากมาย





 เมื่อเพื่อได้ยินก็ยื่นคำท้าพร้อมข้อเสนอจะจ่าย 100,000 เหรียญสหรัฐ หากเขาทำหน้าอกจริง และห้ามเฉือนออกในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งไบรอัน จับมือตกลงทันที หลังจากนั้นไบรอันเดินทางไปพบศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมความงามที่นิวยอร์ก ที่เขารู้จักและเป็นนักพนันเช่นกัน

"ผมไปหาเขาที่คลินิกและบอกว่า คุณช่วยทำหน้าอกให้ผมได้ไหม และเขาตอบกลับมาว่า นี่คือการพนันใช่ไหม?" ไบรอัน เผย และเขายังชวนหมอเล่นพนันเป็นชั่วโมงก่อนชนะเงิน 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 178,000 บาท ได้ทำหน้าอกฟรี จากนั้นก็ตื่นมาพร้อมหน้าอก ในเดือนต.ค.ปี 1996

เมื่อเสริมหน้าอกเสร็จแล้ว ไบรอันก็โชว์ให้เพื่อนดูพร้อมทวงเงินพนัน โดยเขาต้องอยู่กับหน้าอกที่ทำมา 1 ปีเพื่อได้เงินจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ แต่เพื่อนของเขาอ้อนวอนให้ไปเอาออกและขอจ่าย 50,000 เหรียญสหรัฐ ทว่าไบรอันยืนกรานข้อตกลงเดิมจึงได้เงินรางวัลมาครองสมใจ


 "ครั้งแรกที่ผมเปิดให้เพื่อนดู เขาหัวเราะขำอยู่ประมาณ 10 นาที พร้อมบอกว่า นั่นคือหน้าอกมูลค่า 100,000 เหรียญสหรัฐที่ดีที่สุดที่เขาต้องเสียไป" ไบรอัน กล่าว

 จากวันนั้นเมื่อครบ 1 ปีตามที่ตกลงกับเพื่อนไว้ แต่ไบรอันไม่กลับชื่นชอบการมีหน้าอกอวบอิ่มและไม่ยอมเอาออก จนผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้ว ปัจจุบันมีภรรยาและลูกสาว 1 คนอายุ 16 ปี

 ล่าสุดดูเหมือนว่าไบรอัน อยากกลับมาใช้ชีวิตปกติแบบเดิมแล้ว โดยได้ไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐที่ชื่อ "บอชท์" ซึ่งมีหมอช่วยดำเนินการแก้ไขการศัลยกรรมที่ผิดพลาด เพื่อตัดเต้านมศัลยกรรมทั้งสองข้างออก

 ทั้งนี้วีกรรมของไบรอัน นอกจากเสริมหน้าอกแล้วเขายังเคยรับคำท้าเพื่อน ใช้ชีวิตแต่ในห้องน้ำเป็นเวลา 1 เดือนและนอนใต้สะพาน  เพื่อเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 356,000 บาท












ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1463663759





สำนักข่าวซีซีทีวีของจีน เผยแพร่ภาพสุนัขจรจัดสีดำถูกยิงด้วยธนู ลูกดอกปักทะลุหัว โชคดีเจ้าตูบตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและตอนนี้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำลูกดอกธนูออกแล้ว

 มีผู้พบเห็นสุนัขตัวนี้เดินบนถนนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันพุธที่ 18 พ.ค. มันพยายามสบัดหัวเพื่อให้ลูกดอกธนูหลุดออก และได้โทร.แจ้งตำรวจและศูนย์พักพิงสัตว์ ให้มาช่วยสุนัข โดยตอนแรกเจ้าตูบกลัววิ่งหนี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ช่วยให้มันสงบลงแล้วส่งไปผ่าตัดที่คลินิกรักษาสัตว์




 เจ้าหน้าที่อาสาเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า สุนัขได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิต แต่ยังต้องทำการตรวจเช็กสุขภาพต่อ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ชาวเน็ตต่างเรียกร้องให้ผู้คนอย่าทำร้ายสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและแมวจรจัด สมาชิกเว็บไซต์เวย์ปั๋วรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า "แม้จะไม่รักหมา รักแมว แต่ก็อย่าทำร้ายมันเลย"












ที่มา:http://www.khaosod.co.th

19/5/59







เว็บไซต์เดลีเมล์ ของอังกฤษรายงานว่า เจ้าบ่าวป้ายแดงชาวซาอุดิอาระเบีย ตัดสินใจขอหย่าขาดกับเจ้าสาว หลังเสร็จสิ้นพิธีวิวาห์ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากฝ่ายหญิงมัวแต่แชทตอบเพื่อนๆที่ส่งข้อความร่วมแสดงความยินดี โดยไม่สนใจเขาเลยในคืนวันแต่งงาน     




ทั้งนี้ หลังจากพิธีแต่งงาน ทั้งคู่ได้กลับไปยังห้องพักในโรงแรมเมืองญิดดะฮ์ หรือเจดดาห์ และฝ่ายหญิงบอกว่าขอตอบข้อความของเพื่อนที่ร่วมแสดงความยินดีก่อน ทำเอาเจ้าบ่าวถึงกับอึ้งเพราะเจ้าสาวเห็นเพื่อนสำคัญกว่าตนในคืนวันวิวาห์ เมื่อเขาเข้าไปคลอเคลีย ฝ่ายหญิงก็พลักออกมา เมื่อเขาขอร้องให้หยุดแชท เธอก็โกรธจนมีปากเสียงทะเลาะกัน   ญาติของคู่บ่าวสาวเผยกับหนังสือพิมพ์ซาอุฯว่า "เจ้าบ่าวอยากคลอเคลียใกล้ชิดเจ้าสาว แต่เขากลับต้องช็อกเมื่อถูกหญิงฝ่ายหญิงเมิน ไม่สนใจเขาเลย มัวแต่แชท ปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเจ้าบ่าว เมื่อฝ่ายชายลองใจถามว่า เพื่อนของเธอสำคัญกว่าเขาใช่ไหม ซึ่งเจ้าสาวตอบว่าเพื่อนสำคัญกว่า ทำให้เขายิ่งโกรธมากขึ้น ทะเลาะกันรุนแรง ก่อนเจ้าบ่าวบอกกับเจ้าสาวว่าเขาต้องการหย่าทันที และออกจากโรงแรมไป"

เมื่อฝ่ายชายยื่นฟ้องต่อศาลขอหย่า ศาลได้มีคำสั่งให้ทั้งสองประนีประนอมกัน แต่สามียืนกรานต้องกานหย่าจากผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยให้ได้     ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของซาอุดิอาระเบียเผยว่า ปัจจุบันคู่แต่งงานใหม่ มีอัตราหย่าร้างสูงมาก เกือบร้อยละ 50 ของการแต่งงานที่เกิดขึ้นเลยทีเดียว








ที่มา:http://www.siamupdate.com/news-182878

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget