เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2559 เว็บไซต์เฟิร์สโพสต์ รายงานว่า หนุ่มรายนี้มีนามว่า สุรัจ เมห์ตา วัย 22 ปี ได้แต่งงานและใช้ชีวิตคู่อยู่กับ ลลิตา กุมารี หญิงสาววัย 19 ปี มาตั้งแต่ปี 2556 โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่แล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นางอาชา เทวี แม่วัย 42 ปีของลลิตา ได้มาเยี่ยมบ้านในหมู่บ้านปุไรนี รัฐพิหาร และแล้วเรื่องราวที่ทำให้ความรักระหว่างสุรัจและลลิตาสั่นคลอนอย่างไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในช่วงที่นางอาชามาพักที่บ้าน เป็นช่วงที่สุรัจป่วยพอดี นางอาชาจึงคอยช่วยดูแลเขา และไป ๆ มา ๆ ความรู้สึกดี ๆ ก็ได้บังเกิดขึ้นในหัวใจ สุรัจตกหลุมรักแม่ยายตัวเอง เช่นเดียวกับนางอาชา ผู้เป็นแม่ยาย ก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ ทั้งคู่มีสัมพันธ์ถลำลึกกันนับแต่นั้น
หลังจากที่นางอาชากลับบ้านของเธอซึ่งอยู่คนละหมู่บ้าน นายสุรัจก็ทนความคิดถึงไม่ไหว เขาโทรศัพท์คุยกับนางอาชาเป็นชั่วโมงโดยไม่สนใจสามีของเธอ (พ่อตาของตัวเอง) ที่ห่างบ้านไปทำงานอยู่ในกรุงเดลีเลยแม้แต่น้อย เขาทำแม้กระทั่งหาเรื่องไปเยี่ยมนางอาชาที่บ้านต่อมาไม่นานลลิตาก็ระแคะระคายความสัมพันธ์ของสามีและแม่ ก่อนจะค้นพบความจริงสุดช็อกว่าทั้งคู่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกันจริง เธอจึงบอกให้ผู้เป็นแม่อยู่ห่างจากสามีของเธอ อย่าทำลายชีวิตครอบครัวเลย แต่นางอาชากลับปฏิเสธ เพราะรักลูกเขยตัวเองอย่างหมดใจไปแล้ว !!
ส่วนทางด้านสามีของนางอาชาเองก็ไม่สามารถหยุดยั้งรักต้องห้ามระหว่างนางอาชา กับลูกเขยได้ เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยอมจำนนปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปกระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน 2559 การแต่งงานระหว่างนายสุรัจและนางอาชาก็ถูกจัดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของคนไม่ กี่คน ท่ามกลางเสียงต่อต้านของชาวบ้านเพราะไม่มีใครเห็นด้วยกับความรักของทั้งคู่ และข่าวการแต่งงานสุดฉาวของทั้งคู่ก็ตกเป็นข่าวในหน้าสื่อท้องถิ่น สร้างความอึ้งให้กับผู้คนอีกมากมาย
อย่างไรก็ดีหลังจากที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้เพียง 17 วัน ทั้งนายสุรัจและนางอาชาก็ได้เดินเรื่องหย่า เมื่อพบว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเลวร้ายมาก และไม่ได้รู้สึกต่อกันในฐานะสามี-ภรรยาอีกต่อไป โดยเขาเผยว่า ผมตระหนักถึงความโง่เขลาของตัวเองแล้ว ผมยอมรับแล้วว่าผมได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตไปและผมจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้น อีกครั้ง ตอนนี้ผมไม่ได้ปฏิบัติกับเธอในฐานะภรรยาอีกต่อไปแล้ว ผมให้ความเคารพเธอในฐานะแม่มากกว่า จากนี้ผมจะไปคุกเข่าขอคืนดีกับลลิตา ให้เรากลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับนางอาชา เธอได้เผยว่า ตอนนี้ฉันไม่ได้ปฏิบัติกับเขาในฐานะสามีแล้ว แต่ในฐานะลูกเขย เรากำลังยื่นฟ้องหย่าอยู่ และฉันเองอยากจะกลับไปใช้ชีวิตกับสามีเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทั้งคู่กลับเข้าหมู่บ้านก็ถูกชาวบ้านต้อนรับด้วยความ เกลียดชัง ฝ่ายนางอาชาก็ได้ร่ำไห้ขอโทษสามีและขอให้กลับมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเหมือน เดิม ส่วนนายสุรัจก็เข้าไปขอโทษลลิตาให้ให้อภัยเขา แต่ทั้งลลิตาและพ่อตาต่างยืนยันหนักแน่นว่าไม่ต้องการอดีตคู่ชีวิตของตัว เองกลับคืน ฉันต้องการเงินและทรัพย์สินที่พ่อฉันให้เขาไว้เป็นสินสอดในวันแต่งงาน และไม่ว่าจะยังไงฉันไม่กลับไปอยู่กับเขาแล้ว ลลิตา เผย
ที่มา:www.siamdrama.com/
0 comments:
แสดงความคิดเห็น