26/1/60






สมาชิกเฟซบุ๊ก “อาทิวราห์ สุโคตร” โพสต์คลิปสุดฮาแบบคาดไม่ถึง หลังลูกชายตัวดีตั้งกล้องถ่ายตัวเอง แล้วหันไปคุยกับแม่ ที่กำลังยืนรีดผ้าอยู่ โดยมีพ่อนั่งอยู่ที่ประตู พร้อมกับพูดว่า “มามี้ๆ ตอนตั้มไปเที่ยวงานวันเด็กกับปาป๋า แม่ใหม่โคตรใจดีเลย ตามใจตั้มทุกอย่างด้วย” แต่ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงดี แม่ถึงกับยกเท้าถีบพ่อที่นั่งอยู่จนถาดกระเด็นเสียงดังลั่น ขณะเดียวกันพ่อก็พูดว่า “เด็กมันก็พูดไปเรื่อย โอ้โหคุณนี่อะไรเนี่ย” ซึ่งหลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการแชร์ออกไปกว่าแสนครั้ง โดยที่ไม่ทราบว่าคลิปดังกล่าวเป็นการทำขึ้นเพื่อความบันเทิง หรือเรื่องจริง












https://www.khaosod.co.th/clips/news_195292

25/1/60






โลกออนไล์แห่แชร์ภาพหนุ่มวินจยย.ใจหล่อ หลังพาผู้โดยสารสาวสวยซึ่งอยู่ในอาการเมามายไม่ได้สติ มาส่งที่หอพัก แต่สาวเจ้าเกิดเมาไม่ได้สติ จึงต้องนั่งเฝ้าเป็นเพื่อนจนเช้า ก่อนจะพาหญิงสาวไปส่งที่ห้อง ทำให้เกิดกระแสชื่นชมหนุ่มคนดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยหนุ่มวิน จยย.รายนี้ชื่อนายราชการ หรือหม่ำ พิดขุนทด อายุ 20 ปี ซึ่งในวันเกิดเหตุหญิงสาวคนดังกล่าว ได้โบกเรียกหนุ่มวินจยย.จากย่านอาร์ซีเอ เพื่อให้ไปส่งที่ห้องพักย่านพญาไท

แต่ระหว่างทางสาวคนดังกล่าวก็เริ่มไม่ได้สติ และทำท่าจะตกรถตลอดเวลา หนุ่มวินจยย. จึงได้ไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อน้ำไปล้างหน้าล้างตาหญิงสาว จากนั้นหญิงสาวก็อาเจียนออกมาและหลับไปทันที ซึ่งหนุ่มวิน ก็พยายามเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น ด้วยความเป็นห่วง เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้นั่งเฝ้าจนถึงเช้า กระทั่งหญิงสาวตื่นและได้สติ หนุ่มวินจึงพาไปส่งที่หน้าห้องพักจนปลอดภัย







https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_193530

19/1/60







จากกรณีที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาน.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี เข้าพบพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และพ.ต.อ.พิทักษ์ ปัญญาพร ผกก.สน.บุปผาราม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่น.ส.น้อยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าด.ญ.ขนม (นามสมมุติ) อายุ 5 เดือนหลานสาว ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมอง โดยมีเพื่อนบ้านเป็นพยานรู้เห็นว่าหลานสาวน่าจะถูกน.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสะใภ้ทำร้ายร่างกาย และได้นำด.ญ.ขนมไปรักษาตัวอยู่ในห้องไอซีอยู่ รพ.ศิริราช ต่อมาเมื่อกลางดึกวันที่ 18 ม.ค. ด.ญ.ขนมได้เสียชีวิตลงที่รพ.ศิริราช

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น .วันที่ 18 ม.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมนางน้อย (นามสมมติ) ผู้เป็นย่าของเด็ก นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พ่อเด็ก ได้เดินทางไปรับศพน้องขนม. ที่นิติเวช รพ.ศิริราช

นางน้อยกล่าวว่า ตนเป็นแค่แม่บ้านของรพ.ศิริราช เงินทองก็ไม่ได้มากมายอะไร แม้แต่โลงศพของน้องยังไม่มีปัญญาซื้อ แต่เมื่อคนใกล้ชิดทราบข่าวก็ให้กำลังใจและช่วยเหลือเงินมาบางส่วน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ตนเสียใจเป็นอย่างมากเพราะหลานคนเดียว อยู่ในวัยน่ารัก เลี้ยงง่าย รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันเกิดเหตุ ไม่มีคนอยู่บ้านลูกชายกับตนต่างไปทำงาน แต่มีคนในชุมชนเห็นกันหลายคนบอกว่าลูกสะใภ้เป็นคนทำร้ายหลานสาว

นางน้อยกล่าวว่า ตนยอมรับว่าเคยมีปากเสียงกับลูกสะใภ้คนนี้บ่อยครั้ง สาเหตุมาจากการเลี้ยงลูก หากลูกสะใภ้โกรธหรือมีปัญหาอะไรก็จะมาลงกับลูก ตีลูก คนในชุมชนแถวบ้านทุกคนก็รักหลานและเป็นห่วงหลานสาวตนเอง และจะต่อว่าลูกสะใภ้ตนในเรื่องการเลี้ยงเด็ก





นางน้อยกล่าวว่า ถ้าอากาศเย็นก็จะบอกว่าทำไมไม่หาเสื้อหนาวให้เด็กใส่ ทำให้ลูกสะใภ้ไม่พอใจไปด้วย ที่ถูกเพื่อนบ้านติติงแล้วตัวสะใภ้ก็มักจะกลับมาตีหลานโทษว่า เป็นตัวการที่ทำให้ถูกชาวบ้านด่า และลูกสะใภ้ก็มักจะตีและด่าหลานสาวว่าเป็นคนที่แย่งความรักของตนเองไปจากตัวลูกชาย ซึ่งลูกและตนก็อธิบายพูดคุยหลายครั้งว่า รักทั้งแม่และลูก

นส.น้อยกล่าวว่า อยากจะถามผู้กระทำว่าทำไปเพื่ออะไร แม้แต่หมอโทรเรียกให้มาดูใจลูก ก็ตอบไปว่าไม่อยากไป หากจะมาเป็นห่วงลูกตอนนี้มันสายไปแล้ว หากเด็กรอด แต่พิการจะรับได้ไหม ก่อนหน้านั้นเคยบอกว่าตนจะอาสารับไว้เลี้ยงเอง แต่ก็ไม่ยอมบอกว่า คลอดเองเลี้ยงเองได้ เพราะหากลูกอยู่กับย่าลูกจะนิสัยไม่ดี แต่หากอยู่กับตนลูกจะไม่เลว แต่จะตายเลย ตนจึงวิงวอนขอความเป็นธรรมที่ต้องเสียหลานสาวที่น่ารักไป

นายเล็กกล่าวว่า ตนคบกับแฟนสาวได้ประมาณ 2 ปีเศษ แฟนสาวนิสัยส่วนตัวเป็นคนอามรมณ์รุนแรงและขี้หึงมาก ตนอยากมีลูกมานานแล้ว แต่แฟนสาวไม่อยากมี โดยขณะท้องพยามที่จะเอาลูกออกด้วยการทำแท้ง บางครั้งทุบท้องตัวเอง แกล้งตกบันไดเพื่อให้แท้งลูก แต่ตนก็ได้สอนเรื่องของบาปบุณคุณโทษกับแฟนจนคลอดลูกออกมา

นายเล็กกล่าวว่า เรื่องการทำร้ายลูกตนก็ได้ยินจากชาวบ้านมาบ่อยครั้งขณะที่ตนไปทำงานเป็นรปภ. แต่ทุกครั้งก็จะรีบไปดูลูกพร้อมสอบถามว่าทำลูกไปทำไม แต่ไม่เคยได้เหตุผลจากปากแฟนสาวแม้แต่ครั้งเดียว และยังด่าตนว่าอย่ามายุ่ง ซึ่งทุกครั้งลูกจะมีบาดแผล ที่บริเวณแขน ขา ใบหน้าทุกครั้ง ต่อจากนี้ก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายอยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะว่าอย่างไร

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก.น.8 เผยว่า จากการเข้ารับฟังผลการผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียพร้อมญาตินั้น ทางแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ได้เปิดเผยว่าสาเหตุการณ์เสียชีวิตมาจากเลือดคั่งในสมองเนื่องจากกระโหลกศรีษะแตก ในส่วนของคดีนั้นเบื้องต้นสอบสวนพยานไปบางส่วนแล้ว ในส่วนการสอบปากคำแม่ของเด็กซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ต้องทำการประสานอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบปากคำแม่ว่าเป็นผู้กระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดี จะได้ทำการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นางปวีณาเปิดเผยว่า ภายหลังจากคุณย่าและผู้หวังดีเข้าแจ้งกับมูลนิธิ ตนได้สอบถามรายละเอียดด้วยตนเอง และพาย่าของเด็กเข้าพบผบก.น.8ก่อนที่จะเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ จนทราบข่าวที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้องได้เสียชีวิตลงแล้วจึงได้เดินทางมาเพื่อรับฟังผลการผ่าพิสูจน์ และให้การช่วยเหลือ โดยในส่วนของการช่วยเหลือและดูแลทางมูลนิธิฯได้ช่วยเหลือเงินจำนวน 10,000 บาท

ส่วนทางพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ได้มอบสมทบเป็นค่าทำศพอีกจำนวน 5,000 บาท เนื่องจากทราบมาว่าครอบครัวค่อนข้างยากจนแม้แต่ค่าโลงยังไม่มี ต่อจากนี้ในส่วนของคดีนั้นคงต้องมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินคดีและค้นหาความจริง ส่วนการช่วยเหลือและเยียวยานั้นทางมูลนิธิฯก็พร้อมที่จะดูแลต่อไป สำหรับศพของเด็กนั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอนงคาราม 1 คืน และพรุ่งนี้ (19ม.ค.)จะเผาเวลา 12.00 น.







https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_186592

17/1/60






ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องออกมากล่าวทั้งน้ำตา คิดไม่ถึงว่าเด็กวัยเพียงเท่านี้จะต้องเจอกับอะไรเหล่านี้ด้วย.. เมื่อพบว่ามีเด็กหญิงวัย 4 ขวบรายหนึ่งมีอาการเลือดออกจากร่างกาย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากได้รับการตรวจร่างกายทีมแพทย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อพบว่ามีขาตุ๊กตาบาร์บี้คู่หนึ่งอยู่ในช่องคลอด ซึ่งหลังจากการผ่าตัดแพทย์ได้สอบถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ซึ่งคำตอบที่ได้จากเด็กหญิงวัย 4 ขวบคนนี้ทำให้แพทย์ถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้งโดยเธอบอกว่า หนูเอาตุ๊กตาบาร์บี้ใส่เข้าไปในท้องของหนู พอมันคลอดออกมาหนูก็จะดูแลมันให้ดี ๆ เพราะว่าหนูจะเป็นคุณแม่ที่ดีค่ะโดยทางพ่อกับแม่ของเด็กหญิงคนนี้บอกอีกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกของพวกเขาเอาตุ๊กตาบาร์บี้ใส่เข้าไปในช่องคลอดของตัวเอง

โดยภายหลังเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่ศูนย์บำบัด เธอมีอาการชอบทำร้ายตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับความทุกข์ทรมานจากการเลี้ยงดูของทางบ้าน ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับผู้ปกครองของเธอโดยตรง เธอร้องไห้และกล่าวว่า หนูโดนตีตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนกินข้าว อาบน้ำ ไปเที่ยวเล่นหรือแม้กระทั่งเวลานอนหนูก็ยังโดนตี..ซึ่งพ่อแม่ของเด็กอ้างว่าเพราะเธอนั้นดื้อมากและไม่ค่อยเชื่อฟัง หลังจากได้ยินคำอธิบายของเด็ก ๆ ทำเอาผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่ศูนย์บำบัดถึงกับต้องรู้สึกเสียใจมาก และเพิ่งเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าการตีเด็กนั้นส่งผลให้เด็กเป็นโรคทางจิตและทำร้ายตัวเอง

ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวต่างประเทศนิวยอร์กไทม์เคยรายงานว่า มีคุณแม่เชื้อสายจีนท่านหนึ่ง เธอตีลูกชายวัย 8 ขวบด้วยไม้กวาดจนเป็นแผล เพียงเพราะว่าลูกชายของเธอไม่ยอมทำการบ้าน จนวันรุ่งขึ้นลูกชายไปโรงเรียน ครูได้สังเกตเห็นรอยช้ำบนร่างกาย จึงรีบรายงานเรื่องนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเย็นของวันนั้นตำรวจก็มาพาลูกทั้งสามคนของเธอไปให้หน่วยงานรับเลี้ยงเด็กเลี้ยงดูแลทั้งหมด





จากมุมมองของนักจิตวิทยาว่าบอก ถ้าผู้เป็นพ่อเป็นแม่กดดันเด็กมากเกินไปอาจทำให้เด็กเกิดความคิดและอารมณ์ต่อต้านขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลให้เด็กโกรธง่าย จนกลายเป็นเด็กก้าวร้าว และจะชอบใช้ความรุนแรงกับคนอื่น เพราะเด็กอาจเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านี้จากพ่อแม่ หากพ่อแม่ผู้ปกครองตีหรือด่าว่าเด็กมากเกินไป เด็กก็จะเลียนแบบ และทำตามโดยการไปด่าว่าคนอื่น มีบางคนถึงกับต้องไปทำร้ายสัตว์ขนาดเล็กเพื่อระบายอารมณ์ของตัวเอง บางครั้งอาจจะเลวร้ายถึงขั้นว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองแสดงออกมา เพียงเพื่อต้องการบรรเทาความหวาดกลัวและความวิตกกังวลของตัวเอง

และการที่เด็กถูกตีหรือด่ามากเกินไปอาจทำให้เด็กสามารถกลายเป็นคนที่ไม่เชื่อฟังใคร เด็กอาจจะรู้สึกอึดอัด และจะยิ่งเบื่อพ่อแม่มากขึ้น จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกแย่ลงไปอีก และยังส่งผลให้ความภาคภูมิใจต่อตัวเองของเด็กจะหายไป เพราะจิตใจของเด็กนั้นเปราะบางกว่าผู้ใหญ่มาก การที่ถูกผู้เป็นพ่อเป็นแม่ตีหรือด่ามากเกินไปนั้น อาจทำให้จิตใจของเด็กต้องบอบช้ำจนส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เด็กจะรรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าคนอื่น

บางทีคำพูดของคนโบร่ำโบราณที่มักจะบอกว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตีอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดนี้ใหม่ เพราะใครจะรู้ว่าการลงโทษเด็กด้วย การตีหรือ การด่านั้นจะสามารถส่งผลต่อจิตใจของเด็กได้ถึงเพียงนี้ การอบรมเด็กนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยาก ก่อนอื่นผู้เป็นพ่อเป็นแม่ควรปรับทัศนคติใหม่เสียดาย เราไม่ควรด่วนตัดสินเด็กจากการกระทำ ควรคำนึงถึงจิตใจเด็กมาเป็นอันดับแรก ถ้าเห็นว่าเด็กแสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ลองคิดในมุมของเด็กดู เพราะเด็กคือผ้าขาวที่ได้รับอะไรมาก็สะท้อนออกมาอย่างนั้น เมื่อคิดได้อย่างนี้พ่อแม่จะเข้าใจและอยากช่วยแนะนำสั่งสอนให้เด็กทำตัวดี ๆ เป็นที่รักของทุกคนมากกว่าที่จะดุด่าหรือดูถูก







http://hot.muslimthaipost.com/news/30072

12/1/60






เด็กชาย 12 ปีบุกข่มขืนเด็กหญิง 9 ปีในบ้านแล้วขู่ฆ่า หัวหน้าบ้านพักเด็กนำตัวเหยื่อไปแจ้งความกับ ตร.สภ.บึงมะลู

ที่ สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.จันที สมนา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ และ นางทอง (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นยายของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เพื่อให้ดำเนินคคีตามกฎหมายกับ ด.ช.บี (นามสมุติ) อายุ 12 ปี น.ร.ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร.ร.แห่งหนึ่ง เนื่องจาก ด.ช.บี ได้บุกเข้าไปในบ้านของ ด.ญ.เอ และได้ใช้เชือกมัดมือมัดเท้าก่อนข่มขืน ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่ และได้ข่มขู่ ด.ญ.เอ ว่า หากนำเรื่องนี้ไปบอกใคร จะกลับมาเอามีดฆ่าปาดคอให้ตาย แล้วหลบหนีไป




น.ส.จันที สมนา หัวหน้าศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้นำตัว ด.ญ.เอ มาอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากว่า ด.ญ.เอ มีสภาพร่างกายที่ผอมเหลือง คล้ายกับขาดสารอาหาร และอยู่ในสภาพที่ยังไม่คลายจากอาการหวาดผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนจะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวน ด.ญ.เอ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด

จากนั้น จะนำตัว ด.ญ.เอ ไปพบจิตแพทย์ เพื่อให้การเยียวยาด้านจิตใจ รวมทั้งจะให้การช่วยเหลือดูแล ด.ญ.เอ ตามระเบียบของบ้านพักเด็กและครอบครัวอย่างเต็มที่ต่อไป ส่วนด้านคดีความนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการตามกฏหมายต่อไป






 www.youtube.com





เขาคนนี้คือใคร? โหดกว่าบัวขาว ฟัดโคตรหนัก เห็นแผลนักมวยญี่ปุ่นแล้ว บอกเลยคงรักษาตัวไปอีกนาน ดูแต่หมัดที่ปล่อยออกไป หลบไม่ทันมีเลือดแน่นอน (ชมคลิป)










 www.youtube.com





ฮากันอีกครั้ง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Spice Zaa และเพจ YouLike (คลิปเด็ด) ได้แชร์คลิปวีดีโอของอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่ยอมลงทุนไลฟ์สตรีมผ่านเฟซบุ๊กตามหาลูกศิษย์คนหนึ่งที่ไม่ยอมมาเข้าชั้นเรียน โดยอาจารย์ท่านนี้ถามว่า “คุ้นๆไหม หน้าดเหมือนอาจารย์ประจำชั้นไหม รู้ตัวไหม ไม่ได้เรียนอยู่คนเดียวในโลก” ทำเอาชาวเน็ตคอมเม้นต์ฮากันกระจาย





https://www.khaosod.co.th/clips/news_178965

11/1/60







แชร์ว่อนโลกออนไลน์ เป็นแชทที่หญิงสาวรายหนึ่งระบุว่าอายุ 14 ปีเท่านั้น แชทคุยกับหนุ่มเจ้าของร้านขายมือถือ โดยเด็กสาวต้องการซื้อไอโฟน 6 แต่ไม่มีตังค์เลยโพสต์ภาพเปลือยอกแล้วเสนอตัวแลกกับมือถือไอโฟน 6 จนเจ้าของร้านหนุ่มทนไม่ไหวสอนให้เเด็กหญิงรายนี้รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเรียกร้องให้สังคมหันมาใส่ใจเรื่องของศิลธรรมจริยธรรม ไม่ควรยึดติดกับวัตถุ หรือค่านิยมผิดๆ















https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_175968

8/1/60







เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่วัดสันกลาง ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พระครูวิมล ธรรมานุศาสน์ เจ้าคณะอำเภอพร้าว นำพระสงฆ์ปิดทองและอาบน้ำศพท่านพระครูวิจิต ธรรมาภินันท์ หรือครูบา อินหวัน อภินนโท อดีตเจ้าคณะตำบลป่าไหน่ และอดีตเจ้าอาวาสวัดสันกลาง ที่มรณภาพโดยละสังขารลงเมื่อเวลา 14.29 น.วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา อายุ 66 ปี ก่อนหน้านี้ได้ป่วยด้วยอัมพฤกษ์ และโรคมะเร็งในช่องท้อง

วันเดียวกันนายนิคม ถุงคำ ผู้ใหญ่บ้านสันกลาง พร้อมนายชาตรี สุวรรณพันธ์ ที่ปรึกษากรรมการวัดสันกลาง พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านประชุมหารือสรุปว่า ในช่วงในช่วงวันที่ 8-14 ม.ค. ได้เปิดโอกาสให้ญาติโยม และลูกศิษย์ลูกหาเข้ากราบไหว้ศพได้ทุกวัน และในวันที่ 14 ม.ค. จะประกอบพิธีปิดศพ และจะเก็บศพไว้ประมาณ 1 ปี จากนั้นจะหาวันเวลาที่เหมาะสมประกอบพิธีตามศาสนาต่อไป

พระครูวิจิต ธรรมาภินันท์ หรือครูบา อินหวัน อภินนโท อดีตเจ้าคณะตำบลป่าไหน่ และอดีตเจ้าอาวาสวัดสันกลาง เป็นพระนักพัฒนา ได้พัฒนาวัดสันกลางจากที่ไม่มีอะไรเลย ได้สร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิหาร ศาลา และล่าสุดหาเงินงบประมาณจัดสร้างพระมหาธาตุเจดีย์วิจิตรอภินันนท์ ใกล้จะแล้วเสร็จ แต่ก็มามรณภาพละสังขารไปเสียก่อน


พระครูวิจิต ธรรมาภินันท์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสันกลาง พร้อมพระมนตรี ขันติชโย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสวัดสันกลาง ได้จัดงานบุญมงคลครั้งใหญ่ก่อนมรณะภาพคือ ทำบุญ “สืบสานประเพณีทอดผ้าป่าสามัคคี เชื่อมสัมพันธ์ไทย-เมียนมา กระชับความผูกพันธ์ชาวใต้สู่ชาวเหนือ” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีนายจิรศักดิ์ พรหมทอง อัยการอาวุโส สนง.อัยการสูงสุด อดีตอธิบดีอัยการภาค 8 มาเป็นประธานใหญ่

พร้อมกันนั้น (เสธต๋อง) พ.อ.จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย, นายทนุธรรม สุระกำแหง, พ่อเลี้ยงคำ จันทร์บุญ เจ้าของท่า 23 อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมอาจารย์สมบูรณ์ บุญโรจน์ ครูเพลงศิลปินล้านนาเชียงใหม่ เป็นประธานอุปถัมภ์งานทอดผ้าป่า ได้เงินกว่า 100,000 บาท สมทบทุนการก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์วิจิตรอภินันนท์ ที่ขาดเงินงบประมาณรวม 800,000 บาท ขณะที่ช่างเร่งมือก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์วิจิตรอภินันนท์เพื่อให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเจดีย์ให้กับพระครูวิจิต ธรรมาภินันท์ แต่ยังไม่เสร็จสิ้นท่านพระครู มรณะภาพไปก่อนดังกล่าว

สำหรับญาติโยม ลูกศิษย์พระครูวิจิต ธรรมาภินันท์ จะเดินทางไปเคารพศพที่วัดสันกลาง ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์นายชาตรี สุวรรณพันธ์ ที่ปรึกษากรรมการวัดสันกลาง เบอร์ 087-1791632 ได้






https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_175265

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget