29/4/60






เลขเด็ดเชียงใหม่ มาแล้ว 7,8,0,5 มาแรงสุด ตรงกันหลายสำนัก รวมทั้งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เลขตรงกัน ส่วนอดีตรัฐมนตรีปรีดา แอบให้เลขเด็ดงวดที่แล้ว 29 ก็ออกตรงเผง ตำรวจ-นักข่าวถูกหวยกันทั่วหน้างวดที่แล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่ในเชียงใหม่ ประชาชนเริ่มออกมาหาซื้อเลขเด็ดกันแล้วอย่างไม่ขาดสาย ทำให้พ่อค้าแม่ค้า ย่านต่างๆ ในเชียงใหม่ ทั้งประตูเชียงใหม่ ประตูช้างเผือก ย่านสุสานหายยา ถ.มหิดล อ.เมืองเชียงใหม่ ย่านสถานีรถไฟ ขนส่งอาเขต รวมทั้งตลาดต่างๆ ในเชียงใหม่ พ่อค้าแม่ค้าหวยนั่งขายหวยกันอย่างคึกคักแล้ว โดยมีประชาชนพากันออกหาซื้อหวยกันอย่างต่อเนื่องจากบรรยากาศการขายหวยงวดที่แล้วซึ่งค่อนข้างซบเซา


นางสาวพลอยไพรินทร์ นักคำนวณเลขเด็ดจากการต่อยอดและหลักโหราศาสตร์ดวงดาว เปิดเผยว่า งวดที่แล้ว ตนได้ให้เลขเด็ดตัวเดียวไปเป็น 7 ก็มีเลข 7 ออกผสมเกือบทุกรางวัล แสดงว่า การคำนวณหวยจากเลขดวงดาวนั้นใกล้เคียง มางวดนี้ ตนได้คำนวณต่อยอดจากบรรดาเซียนหวยที่ออกมาระบุเลขเด็ดต่างๆ แล้ว ปรากฏว่า เลขเด็ดและเลขเด่นในงวดนี้ ก็จะมี 8,7,0,5 งวดนี้เลขเด็ดจะใกล้เคียงกับงวดที่แล้ว หลายสำนักเซียนหวยให้เลขออกมาใกล้เคียงและตรงกันเป็นส่วนมากทั้ง 54,53 70,75,47,48,70,71,81 ก็พิจารณากันเอง ในส่วนของตนนั้น ตนได้นำเลขเด็ดจากหลายสำนักมาผสมกัน ก็ได้เลข 858,880,770,701,507 นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์อุบัติเหตุที่รถไฟชนกระบะที่ภาคเหนือเมื่อไม่กี่วัน และจุดที่เกิดเหตุนั้นเคยปรากฏว่าเลขรถที่เกิดอุบัติเหตุบริเวณใกล้ๆ นั้น เลขทะเบียนรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุก็มีคนเอาไปแทงหวยถูกแล้ว มาครั้งนี้ จุดที่เกิดเหตุเป็นจุดรถไฟที่ 357 ก็ตัวเลขใกล้เคียงกับเลขดวงดาวและเซียนหวยด้วย นอกจากนี้ ที่วัดมงคลวนาราม หรือ วัดป่าแดด ก็เกิดไฟไหม้วิหารเมื่อไม่กี่วัน เลขที่วัดก็คือ 76 หมู่ 1 ต.ป่าแดด อ.สารภีเชียงใหม่ ซึ่งเลขที่วัดนั้น ก็มีเลขใกล้เคียงกับเลขเด็ดด้วย เลขที่คนเอามาคำนวณรวมกันของวัด คือ 761 ก็ลุ้นกันไป ควรใช้วิจารณญาณด้วย ขอให้โชคดีทุกคน




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร ลูกชายของ อดีตรัฐมนตรีปรีดา พัฒนถาบุตร ได้นำเลขของพ่อตนเองมาบอกเลขเด็ดให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจและสื่อมวลชนก่อนวันหวยออก 1 วัน คือ 29 ประกอบกับงวดที่แล้วเลข 7 เป็นเลขคู่มิตรและเด่น เหล่าข้าราชการตำรวจและคนที่ทราบต่างนำเลขมารวมกันและซื้อหวย 729 ก็ถูกท้ายที่ 1 รวยกันไปหลายคนและงวดนี้ ทุกคนก็ยังคงรอคอยได้พบกับ พล.ต.ต.นิธิพัฒน์ ลูกชายอดีตรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อมีความหวังได้เลขเด็ดจากท่านอดีตรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากที่ท่านเคยให้เลขพลาดติดต่อกันมาหลายงวดและเงียบหายไปพักใหญ่ กระทั่งโผล่มาให้เลขเด็ดงวดที่แล้วและก็ถูกทุกคน

นางสาวนิตยา จันทร์ติ๊ก ผู้ค้าสลากฯ เปิดเผยว่า หวยงวดที่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงสลากฯขายไม่ดี ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่เดินเร่ขายนั้นจะขายดีและขายหมด เนื่องจากเป็นเทศกาลสงกรานต์ ตอนนี้ก็เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว สำหรับราคาหวยก็เหมือนเดิม คู่ละ 80 บาท หากเป็นหวยชุด 5 คู่ ก็ 500 บาท หาก 10 คู่ ก็ 1,200-1,300 บาท แล้วแต่จะตกลง สำหรับเลขเด็ดนั้นก็จะมีออกมาเรื่อยๆ ทุกคนก็เฝ้าจับตาดูอยู่








ที่มา: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_323928

28/4/60






ชาวบ้านฮือฮา รูปปั้นเก่าแก่โผล่ขึ้นลำน้ำชีขอนแก่น ชาวบ้านแห่กราบไหว้ขอโชคลาภกันอย่างเนืองแน่น เชื่อว่าเป็นพระนางอุมาราวดี พระสนมปู่ศรีสุทโธ วัดป่าคำชะโนด

สืบเนื่องจากเฟซบุ๊ค บุญตา สุดโต ได้ลงข้อความในโลกโซเชียลว่า พบพระพุทธรูปมีพญานาคปกป้องคุ้มครอง 1 องค์ ได้นำขึ้นมาจากลำน้ำชี ในเขตพื้นที่บ้านชีวังแคน หมู่ 13 ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรนี จ.ขอนแก่น ซึ่งได้นำมาตั้งบวงสรวงอยู่ในวัดป่าสวรรค์คงคาราม จึงได้ไปตรวจสอบในสถานที่ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าตรงหน้าอุโบสถ มีชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมาดูและกราบไหว้อย่างเนืองแน่นตลอดเวลา โดยด้านหน้าอุโบสถจะเขียนว่า “ขอเชิญบริจาคดอกไม้, ธูป, เทียน เพื่อสมทบทุนสร้าง “หอโฮง” ให้พระนางอุมาราวดีเทวี พระสนมปู่ศรีสุทโธ วัดป่าคำชะโนด”




เมื่อเข้าไปในอุโบสถพบว่า มีพระอาจารย์ประเสริฐ คุณสุวณโณ อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าสวรรรค์คงคาราม ได้จัดตั้งให้มีการทำพิธีบวงสรวงพระพุทธรูปพระนางอุมาราวดีเทวี โดยพระนางอุมาราวดีเทวี พระสนมปู่ศรีสุทโธ วัดป่าคำชะโนด เป็นพระพุทธรูปที่มีอายุประมาณ 100 กว่าปี พระนางนั่งพับเพียบทรงศีล มีพญานาคอยู่ด้านหลัง ชูเศียรปกป้องคุ้มครอง ความสูง 13 นิ้ว ฐาน 6 นิ้ว ความยาว – กว้าง 6 คูณ 6 นิ้ว อยู่บนถาดเงินและลอยอยู่ในอ่างบัวขนาดเล็ก

แม่ของ ด.ช.ตุ้ย อายุ 12 ปี บอกว่า ในช่วงเย็นวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ลูกชายได้ไปเล่นน้ำในลำน้ำชีที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 เมตร ซึ่งน้ำมีไม่มากนัก พบมีกระทงบวงสรวงพญานาค 9 ตัว 9 เศียรลอยอยู่ตรงบริเวณนั้น โดยไม่มีใครทราบว่าลอยมาจากไหน และมาอยู่ในจุดดังกล่าวได้อย่างไร

ด.ช.ตุ้ยพร้อมเพื่อนจึงได้ลงเล่นน้ำตรงนั้น แต่เพื่อนบอกว่ามีขาข้างหนึ่งเหมือนถูกดึง ด.ช.ตุ้ยจึงดำลงไปดูก็พบว่าเพื่อนเหยียบรูปปั้นอยู่ ด.ช.ตุ้ยจึงได้นำขาเพื่อนออกมา แล้วก็อุ้มสิ่งของดังกล่าวขึ้นมาไว้บนริมฝั่ง เมื่อเห็นเต็มตา ด.ช.ตุ้ยเชื่อว่าเป็น เจ้าแม่นาคี ก็กราบไหว้แล้วก็ไปเรียกผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับชาวบ้านมาตรวจดู และพิสูจน์ว่าสิ่งที่พบ ต้องมีอะไรแน่ ทำไมดึงขาเพื่อนให้จมลงไปในน้ำได้

นายสุรพล  ศรีบุญเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 จึงเล่าต่อว่า หลังจากได้พบเห็นพระนางอุมาราวดีเทวีในลำน้ำชีแล้ว จู่ๆ ก็มีหมอพราหมณ์เดินทางมาจาก อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น มาที่วัดพร้อมกับขอทำพิธีเรียกเทพพญานาคจากวัดป่าคำชะโนดมาประทับ แล้วก็บอกว่าเป็นพญานาคที่ชื่อว่า “พระนางอุมาราวดีเทวี พระสนมปู่ศรีสุทโธ วัดป่าคำชะโนด” มาตามหาลูกชายในสถานที่ดังกล่าว พร้อมกับบริวารอีก 5 ตัว ตอนนี้ได้พบลูกชายแล้ว และจะขออยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ไปอีก 2-3 ปี ก็จะขอกลับไปที่วัดป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี เพื่อให้ชาวบ้านและคนที่เคารพศรัทธาปู่ศรีสุทโธได้กราบไหว้ อยู่ร่มเย็นเป็นสุขมั่งมีเงินทอง โดยเฉพาะชาวบ้าน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่ประสบภัยแห้งแล้งมาโดยตลอด

ชาวบ้านที่ทราบข่าวพบรูปปั้นเจ้าแม่นาคี หรือ พระนางอุมาราวดีเทวี พระสนมปู่ ศรีสุทโธ วัดป่าคำชะโนด ในลำน้ำชี อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้ทยอยมากราบไหว้อย่างเนืองแน่น ตลอดทั้งวัน เพราะเชื่อว่าเป็นจริงตามความเชื่อและความศรัทธา จึงได้มากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะโชคลาภเช่นกัน










ที่มา: http://news.sanook.com/2205510/

27/4/60






จากกรณีเฟซบุกใช้ชื่อ สพ้อย'ยยย ลงคลิป หญิงสาวใช้ปืนขู่ผู้ชายแล้วโพสว่า “เตือนภัย ผญ. เจอกับตัว กลางวันแสกๆ !! สำหรับ ผญ.ที่อยู่บ้านคนเดียว มันปีนหน้าต่างเข้ามา จะข่มขืน แต่สู้ค่ะ มันบีบคอ จับกด แต่ สู้ ไม่ยอม กระเสือกกระสน ไปหยิบปืน ใจกล้าพอ !! บ้านใกล้เรือนเคียงกัน หน่ำซ้ำ พิการ !!#ตอนนี้ปลอดภัยดีค่ะ#เจ็บตัวนิดหน่อย” พร้อมได้แชร์ภาพหญิงสาวถือปืนจ่อผู้ชายที่จะเข้ามาข่มขืน ด้านนางสาวพจนารถ  ผู้เสียหายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการที่โพสคลิปเหตุการณ์ที่ตนเองใช้ปืนขู่นายสงคราม นั้นไม่ได้อยากจะดังแต่หากจะเตือนผู้หญิงว่าถึงจะเป็นบ้านตัวเองก็อย่าไปไว้ใจควรที่จะล็อคประตู หน้าต่างอย่าได้ประมาท รวมทั้งผู้ก่อเหตุเป็นญาติของตัวเองด้วยเพราะในข่าวที่ผู้หญิงถูกข่มขืนส่วนใหญ่จะมาจากญาติหรือผู้ใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่จึงขอเตือนผู้หญิงให้ระวังตัวเองไว้และไม่ให้คนอื่นตกเป็นเช่นนี้อีกด้วย







ที่มา: http://www.johjae.com/highlight-details.php?item=4151

26/4/60






วันที่ 25 เม.ย. ผู้ปกครองของหนูน้อยนักเรียนเตรียมอนุบาลคนหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ได้เข้าร้องเรียนต่อสมาคมผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช ถึงกรณีลูกสาววัย 2 ขวบ 4 เดือน ถูกครูผู้ช่วยทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำทั้งตัว ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวนั้นเป็นโรงเรียนเตรียมอนุบาลเอกชนชื่อดัง อยู่ริมถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

โดยผู้ปกครองของเด็กได้เปิดเผยว่า ลูกสาวของตนอายุ 2 ขวบ 4 เดือน เรียนชั้นเตรียมอนุบาลของโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีค่าเทอมแพงที่สุดในจ.นครศรีธรรมราช ถือว่าเป็นสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือ หลังเกิดเหตุการณ์ก็ได้แจ้งความไว้กับตำรวจที่ สภ.เมือง แล้ว ก่อนจะมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่โรงเรียนยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ อ้างเพียงว่าได้ไล่ครูที่ก่อเหตุออกจากโรงเรียนไปแล้วเท่านั้น

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย. หลังจากไปรับลูกสาวกลับจากโรงเรียนได้พบว่า ลูกอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนัก และร้องให้สะอึกสะอื้นตลอดเวลา พอถึงบ้านก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกเพื่อจะพาไปอาบน้ำ ปรากฏว่าตามร่างกายแขนขาเต็มไปด้วยรอยช้ำทั้งตัว เหมือนกับถูกทำร้าย จึงรีบติดต่อกับโรงเรียน ครั้งแรกทางโรงเรียนยืนยันว่าไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น และจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้





ต่อมาตนจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมือง หลังจากนั้นทางพนักงานสอบสวนขอภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดและพบว่าลูกสาวถูกครูผู้ช่วยคนหนึ่งทำร้ายอย่างต่อเนื่องในขณะช่วงนอนกลางวัน ทั้งบีบ หยิก กระชากอย่างรุนแรง โดยในภาพได้บันทึกเวลาไว้ตั้งแต่เวลา 11.30 น.จนถึง 12.20 น. ลูกถูกกระทำรุนแรงเป็นเวลารวมเกือบ 50 นาที ก่อนจะนำไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งไม่รู้ว่าในห้องน้ำโดนทำร้ายอีกหรือไม่

ต่อมาหลังออกจากห้องน้ำแล้วลูกสาวของตนก็อยู่ในอาการหวาดกลัวและวิ่งหนีครูคนนี้ไปรอบห้องเรียน ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นมีในห้องเรียนพบว่ามีครูประจำชั้นและครูผู้ช่วยรวม 3 คนอยู่ด้วย แต่ไม่มีการห้ามปรามหรือช่วยเหลือลูกสาวของตนแต่อย่างใด ในที่สุดทางโรงเรียนพยายามที่จะเจรจาให้ลูกเรียนต่อไปและยินดีจะคืนเงินค่าเทอมจำนวนกว่า 14,000 บาท และค่าเรียนซัมเมอร์แคมคือช่วงเดือนเมษายนอีกราว 2 พันบาทให้

ผู้ปกครองของเด็กยังกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนก็ไม่ได้ถามไถ่เรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนที่อยู่ในสภาพอารมณ์เปลี่ยนไป เมื่อถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นลูกบอกเพียงขอให้พ่อแม่ไปรับกลับจากโรงเรียนเร็วๆ ไม่อยากออกจากบ้านไปโรงเรียน ซึ่งมันสะเทือนใจมาก เพราะโรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งนี้ถ้ามองภายนอกมีความน่าเชื่อถือมาก แต่หละหลวมเรื่องการดูแลเด็ก จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

“โรงเรียนควรมีมาตรการในการรับบุคลากรที่ชัดเจน และระมัดระวังเหตุการณ์ให้มากกว่านี้ ผู้ปกครองไว้ใจเพราะเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่เหตุการณ์กลับเกิดขึ้นจากภายในโรงเรียน ส่วนท่าทีของโรงเรียนนั้นไม่ได้มีความรับผิดชอบดูแลใดๆ อ้างเพียงว่าได้ไล่ครูคนที่ทำร้ายออกไปแล้ว และยังจะให้ลูกเรียนต่อที่นั่นซึ่งเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ผู้ปกครองเด็กกล่าว








ที่มา: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_318846

25/4/60






กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดสะเทือนใจคนทั่วโลก เมื่อในการชกมวยชิงแชมเปี้ยน รุ่นจูเนียร์ ฟลายเวท ในศึก KTPI ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่าง ทูบากัส เซเทีย แซคตี กับ อิคอล โทเบียดา ซึ่งในยกที่ 8 นั้น ทูบากัส ยกมือขึ้นเพื่อขอยอมแพ้ แต่ อิคอล โทเบียดา ยังคงไม่หยุดชก และชกเข้าไปที่ศรีษะอีก 4 หมัด ก่อนที่กรรมการจะเข้ามาหยุดการชกไว้ โดยหลังจากที่หยุดการแข่งขัน ทูบากัส ก็ถึงกับหมดสติทรุดลงบนเวทีทันที ในเวลาต่อมา หลังจากที่นำตัว ทูบากัส ส่งโรงพยาบาล แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตของเขาไว้ได้ โดยได้ออกมาระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากอาการเลือดออกในสมองนั่นเอง







ที่มา: http://www.johjae.com/highlight-details.php?item=4127






เป็นเรื่องราวที่เป็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับทารกน้อย ทางสำนักข่าว The sun รายงานข่าวที่น่าตกใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ กรณีพบทารกน้อยเพศชายถูกฝังทั้งเป็นใกล้กับโรงงานแห่งหนึ่ง ก่อนจะพบว่าเป็นฝีมือของแม่แท้ๆ หลังนำลูกไปฝังไว้ในดินนานกว่า 3 วัน แต่เขากลับรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ หนูน้อยได้ส่งเสียงร้องจนมีคนได้ยินและเข้ามาช่วยเหลือ




เบื้องต้น หญิงสาววัย 25 ปี ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเด็กให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ก่อเหตุฝังทารกน้อยทั้งเป็น เพราะกลัวพ่อแม่จะรู้ว่าตัวเองมีลูก ซึ่งเด็กทารกคนนี้เป็นลูกคนที่สองของเธอ ส่วนลูกคนโตนั้นมีอายุได้ 4 ขวบแล้ว แต่เธออ้างว่าพ่อแม่ของเธอไม่ต้องการหลานเพิ่ม ขณะที่ทารกน้อยนำตัวไปส่งโรงพยาบาล แม่ของเด็กก็ถูกพาไปที่นั่นด้วย ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าเธอถูกตั้งข้อหาหรือจะได้รับตัวเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูหรือไม่










ที่มา: เรื่องเล่าเช้านี้

24/4/60






การไหว้แม่ย่านางรถ ประเภทใช้ผลไม้ วัดเนินทอง เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
สิ่งที่ต้องจัดเตรียมดังนี้

 1.ผลไม้ 5 อย่าง โดยเอากล้วยน้ำว้าสุก 2 หวี และผลไม้อย่างอื่นๆอีก 4 อย่าง
 2.ข้าว 1 ถ้วย
 3. น้ำ 1. แก้ว
 4. หมาก ,พูล,ยาเส้นสีฟัน 3 คำ
 5. ยาสูบ 3 มวน
 วันเวลาที่ควรไหว้ ตามธรรมเนียมแต่โบราณ คือ ช่วงสงกรานต์ หรือแล้วแต่จะประยุกต์เอาเดือนไหนก็ได้ หากเป็นรถใหญ่ รถทัวร์ การงานการเงินดี อาจจะต้องไหว้ปีละ 2 ครั้ง รถยนต์ก็ปกติปีละครั้ง เวลาเช้าจัดโต๊ะที่หน้ารถ สตาร์ทเครื่องยนต์ บีบแตร 3 ที จุดธูป 9 ดอกบอกถวายเฉพาะแม่ย่านางรถอย่างเดียวเท่านั้น




คำถวายของไหว้แม่ย่านางรถ
 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ…ว่า 3 จบ
 สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
 ทุติยัมปิ สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
 ตะติยัม สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ….

ลูกขอถวายสิ่งของเหล่านี้แก่แม่ย่านางรถ ขอท่านจงรับซึ่งสิ่งของเหล่านี้เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ลูกทั้งหลายเทอญ สาธุ…ตอนนี้เราก็พูดในสิ่งที่ดีๆมีโชค ร่ำรวย ทำมาค้าขายให้เงินไหลกอง ทองไหลมา จงเกิดมีแก่เรา และรอประมาณ 20 นาที แล้วจุดยาสูบ 3 มวนให้เจ้าที่ด้วย และรอประมาณ 3 นาที แล้วมาว่าคำลา

คำลาของไหว้แม่ย่านางรถ
 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ….ว่า 3 จบ
 พุทธังลา ธัมมังลา สังฆังลา ข้าพเจ้าขอลาสิ่งของเหล่านี้เพื่อให้เป็นทานต่อไป เป็นยารักษาโรค อย่าให้เกิดโทษเลยนะ เสสัง มังคะลา ยาจามะ












ที่มา: http://kapooza.com

23/4/60






พระสงฆ์พิการตัดขานั่งรถเข็นไฟฟ้าออกบิณฑบาต และปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่บกพร่อง กวาดลานกุฏิ ใช้ชีวิตอย่างปกติทั่วไป แม้จะถูกตัดขาแล้ว แต่ใจท่านสู้มาก ยังออกบิณฑบาตอยู่เรื่อย ไม่ท้อแท้ หน้าตาก็ยิ้มสู้ เป็นแบบอย่างให้คนพิการคนทั่วไปลุกขึ้นมาสู้ ยังมีหนทาง

วันที่ 22 เมษายน 2560 เวลา 06.30 น.พระสังกาศ สุภาศักดิ์ พระลูกวัดนิโครธาราม ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง อายุ 67 ปี ซึ่งพิการถูกตัดขาซ้ายนั่งรถเข็นไฟฟ้าออกบิณฑบาต ตลอดเส้นทางจากถนนเพลินพิทักษ์ ยาวเรื่อยไปจนถึงถนนรักษ์จันทร์ เขตเทศบาลนครตรัง ระยะทางกว่า 3 กม. สร้างความเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งถึงแม้จะพิการขาขาดแต่พระพระสังกาศ สุภาศักดิ์ ก็ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่บกพร่อง กวาดลานกุฏิ ใช้ชีวิตอย่างปกติทั่วไป ซึ่งพระสังกาศ สุภาศักดิ์ เคยตกเป็นข่าวใหญ่โต เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ เมื่อประมาณเดือน พ.ค. 2559 หลังท่านได้เดินเหยียบเศษก้อนหินระหว่างออกบิณฑบาต บนถนนรักษ์จันทน์ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งผู้รับเหมางานกำลังปรับปรุงผิวจราจร จนเท้ามีอาการระบม และไปพบแพทย์พบว่า ก้อนหินฝังลงไปในนิ้วเท้า ประกอบกับเป็นโรคเบาหวาน ทำให้แพทย์ต้องตัดนิ้วเท้า 2 นิ้ว คือ นิ้วก้อย และนิ้วนางขาข้างซ้าย





พระสังกาศ สุภาศักดิ์ กล่าวว่า เคยเป็นข่าวใหญ่โต ตัดนิ้วเท้า 2 นิ้ว นอน รพ.อยู่ 51 วัน กลับมาวัดก็ได้มาช่วยงานวัดทำอิฐบล็อคแล้วพลัดตกลงไปในหลุมเสา ประมาณ 3 เดือน ต่อมาเกิดการอักเสบข้างแผลเดิมขึ้นมา รีบไปหาหมอ ครั้งแรกผ่าแผลไม่มาก ประมาณ 2 สัปดาห์ หมอพบว่าอักเสบอีก รักษาเกือบเดือนก็ไม่ดีขึ้น หมอที่รับผิดชอบติดภารกิจ และมีหมอใหม่มาดูแลรักษาตั้งแต่ 26 พ.ย. 59 ก็ปวดมาก ต้องขึ้นไป รพ.ตรัง วางยาสลบล้างแผลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จึงขอหมอตัดขา ตอนแรกหมอไม่ยอม จะปรึกษาแพทย์พลาสติกให้ เพื่อตัดเนื้อเอาไปปะแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะกลับมาเดินได้ตามปกติหรือไม่ จึงขอร้องให้หมอตัดขาอีก สุดท้ายหมอก็ยอมตัดขาให้ เข้ารับการผ่าตัดและรักษาตัวตั้งแต่ 24 ธ.ค. 2559 นานเกือบ 2 เดือน ออกจาก รพ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2560

ปัจจุบันกลับมาอยู่ที่วัด พระครูเมธีวรวัฒน์ ท่านเจ้าอาวาสกรุณาบอกบุญญาติโยมรับบริจาคเงินซื้อขาเทียมให้ เป็นวัสดุอย่างดีประมาณ 3 หมื่นบาท รอไปวัดขนาดขาเดือนหน้า ระหว่างนี้ก็มีคุณวิชญ์ ลีละวิวัฒน์ เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรข้างวัดและเพื่อน ๆ เอารถเข็นไฟฟ้ามาถวายให้ ราคา 27,000 บาท อาตมาจะให้เงินก็ไม่เอา คุณโยมวิชญ์ ลีละวิวัฒน์ ยังได้เทคอนกรีตทำทางเดินเพื่อสะดวกในการใช้รถเข็นไฟฟ้าภายในวัด ซึ่งมีรถเข็นไฟฟ้าก็ทำกิจได้หลายอย่าง ถึงจะไม่สมบูรณ์ ก็ได้ทำกิจของสงฆ์ การออกบิณฑบาต ก็เป็น 1 ใน 10 กิจของสงฆ์ ระยะทางที่บิณฑบาตประมาณ 3 กิโลเมตร ไปตามถนนรักษ์จันทร์ สามแยกรักษ์จันทร์ เข้าซอยจำปี ในเขตเทศบาลนครตรัง อาตมาก็จะชิดซ้ายถนนไปอย่างช้า ๆ ออกบิณฑบาตตั้งแต่ ตี 05.50 น. ของทุกวัน

ใช้เวลาทั้งหมดประมาณชั่วโมงเศษ ก็กลับวัดมาฉันท์เช้าและทำวัตรเช้า ตอนแรกก็กังวลว่าการนั่งรถเข็นไฟฟ้าจะผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ แต่ก็สงสารญาติโยมรอตักบาตร เพราะไม่ค่อยมีพระเดินบาตรในชุมชนที่เดินผ่าน บางครั้งต้องใช้รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเนิน และก็มีหลายคนทักท้วงว่าจะอันตราย แต่อาตมาก็ไม่ลำบาก ได้ติดไฟฉายส่องสว่างด้านหน้าข้างราวจับรถเข็นไฟฟ้า ข้างหลังรถก็มีไฟกะพริบที่ทำขึ้นเองเพื่อความปลอดภัย หากต้องออกไปบิณฑบาตเช้ามืด ตอนออกไปบิณฑบาตก็ไปรูปเดียว บาตรวางบนตัก รัดเข็มขัด มีย่าม 2 ใบ ถ้ามีของมากก็จะฝากญาติโยมที่รู้จักไว้ แล้วก็จะเอาเข้ามาให้ที่วัด


พระสังกาศ สุภาศักดิ์ กล่าวอีกว่า สังขารแบบนี้เราต้องปลง ใจสบายมากอยู่แล้ว ความสุข ความทุกข์อยู่ที่ใจ ทำตัวให้สุขก็สุข ปลงว่าสังขารไม่เที่ยง เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา เมื่อเราดูแลอย่างดีที่สุดแล้ว มันไม่อยู่กับเราก็ปล่อยไป ส่วนเทศบาลนครตรังก็ไม่เคยถือสาอะไรแล้ว รองนายกเทศมนตรีนครตรังและเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน เคยเข้าไปเยี่ยมตอนตัดนิ้ว 2 นิ้ว เอานมหมีไปให้ 3 แพ็คแล้วก็ไม่เคยมาเยี่ยมอีกเลย ผู้รับเหมาทำถนนก็เคยมาเยี่ยมกับวิศวกรของ รพ.ตรัง อาตมาพูดให้ฟังว่าตอนอยู่ กทม. เคยเห็นการทำถนนแบบนี้ ทำถนนเขาบดอัดอย่างดีไม่มีสิ่งแหลมคม ซึ่งตอนนั้นชาวบ้านบ่นกันมาก ที่ถูกตัดนิ้วผู้รับเหมาก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร ถือว่าเป็นวิบากกรรมของอาตมาเอง ไม่เคยคิดร้องเรียนเทศบาลนครตรังแม้จะมีคนเคยพูดให้ฟ้องร้อง

นางชุติมา สุชาติพงค์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/154 ถนนวัดนิโครธาราม ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งออกมาบิณฑบาตกับพระสังกาศ สุภาศักดิ์ เป็นประจำทุกเช้า กล่าวว่า ใส่บาตรกับหลวงตามาตั้งแต่ท่านยังปกติ จนถูกตัดนิ้ว และถูกตัดขา เคยไปเยี่ยมท่านที่กุฏิ แม้จะถูกตัดขาแล้ว แต่ใจท่านสู้มาก ยังออกบิณฑบาตอยู่เรื่อย ไม่ท้อแท้ หน้าตาก็ยิ้มสู้ เป็นแบบอย่างให้คนพิการคนทั่วไปลุกขึ้นมาสู้ ยังมีหนทาง ชาวบ้านแถวนี้เลื่อมใสท่านเพราะท่านพูดจาดี อัธยาศัยดี ความคิดดี ไม่มีอคติ ไม่ทุกข์ใจ








ที่มา: http://news.mthai.com/general-news/560288.html






อีกไม่นานได้รู้กัน! หญิงร่างทรงเผย ไม้ตะเคียนฝังดินใน ต.แม่นะ จ.เชียงใหม่ เป็นเรือเทวดามาโปรด ตกแรงไปหน่อยเลยจมดิน ทำชาวบ้านฮาครืน ด้านเจ้าของที่ยอมให้ขุดพิสูจน์ แต่ต้องลงขันกันเองและไถกลบดังเดิม...

วันที่ 22 เม.ย. 60 นายรุ่งโรจน์ ดวงดี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่นะ, จ่าสิบเอกเอกชัย ปารมี หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแม่นะ สมาชิกเทศบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชม.9 ได้เดินทางไปที่บริเวณทุ่งนา ติดริมตลิ่งลำน้ำแม่แมะ บ้านจอมคีรี ม.3 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จุดที่พบลำต้นของไม้ที่มีลักษณะโผล่ส่วนหัวออกมาจากพื้นดินคล้ายกับหัวเรือ ที่ชาวบ้านคาดกันว่าอาจจะเป็นเรือโบราณ หรือต้นตะเคียนนั้น ()




เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ตะเคียน ถูกฝังลึกจากผิวดินประมาณ 2 เมตร แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นซากเรือโบราณหรือลำต้นตะเคียนที่ล้มในอดีตหรือไม่ ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาดูอย่างต่อเนื่อง และที่เรียกเสียงฮือฮาแก่ชาวบ้าน คือ มีหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปี อ้างตัวเป็นร่างทรง บอกว่า ไม้ดังกล่าวเป็นเรือเทวดาที่มาโปรดชาวบ้าน แต่บังเอิญลงมาแรงไปหน่อยหัวเรือเลยจมดินไปกว่า 3 เมตร สร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวบ้านที่ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็บอกว่าเป็นเรือโบราณ แต่บ้างก็บอกว่าน่าจะเป็นลำต้นตะเคียนที่อาจจะขึ้นในพื้นที่เมื่อหลายร้อยปี ก่อนจะล้มแล้วถูกฝังอยู่ใต้ดิน อีกส่วนหนึ่งว่าน่าจะเป็นไม้ใหญ่ที่อาจจะถูกพัดพามาในช่วงที่น้ำป่าไหล่ลงจากยอดดอยถล่มพื้นที่บ้านจอมคีรี เมื่อ พ.ศ.2521

ทั้งนี้ ชาวบ้านลงความเห็นว่าน่าจะมีการขุดไม้ตะเคียนขึ้นมาพิสูจน์ว่าเป็นเรือหรือลำต้นตะเคียนโบราณ หากเป็นจริงก็จะมีการบวงสรวงอัญเชิญไปไว้ที่วัดในหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ตามความเชื่อส่วนบุคคล แต่ในขณะที่การจะดำเนินการขุดพิสูจน์ตามความต้องการของชาวบ้านได้หรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่เจ้าของที่นาว่าจะให้ขุดหรือไม่

ด้าน น.ส.จรินดา พูลพิทักษ์ ในฐานะตัวแทนเจ้าของที่นา บอกว่า ทางครอบครัวไม่ขัดข้องหากชาวบ้านต้องการขุดเพื่อนำไม้ดังกล่าวขึ้นพิสูจน์ แต่ขอให้รวบรวมเงินค่าจ้างรถขุดกันเองเพื่อนำไม้ออกจากพื้นดิน และต้องถมปรับผิวหน้าดินให้ดังเดิมเพราะครอบครัวจะได้ทำนาต่อไปได้

ขณะที่ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่นะ เปิดเผยว่า ขึ้นอยู่กับชาวบ้านว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้นำไม้ตะเคียนขึ้นมาหรือไม่ โดย นายสวัสดิ์ แข็งแรง และ นายสิงห์คำ แก้วใจมา สมาชิกเทศบาลระบุว่า จะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมของหมู่บ้านเพื่อลงมติ หากส่วนใหญ่ต้องการนำขึ้นมาก็จะประกาศบอกบุญลงขันเรี่ยไรเงินจ้างรถขุดขึ้นมาและไถกลบให้เจ้าของที่นาดังเดิม








ที่มา ไทยรัฐ





กลายเป็นข่าวที่ใครได้ฟังก็ต้องสลดใจ เมื่อมีเหตุการณ์ที่ลุงแท้ๆ ฆ่าข่มขืนหลานสาววัย 5 ขวบ ทิ้งศพในป่าข้างบ้าน แม่กับย่าเห็นฆาตกรเดินเปลือยออกมา วิ่งไปดูเจอภาพหัวใจแตกสลาย ร้องให้ชาวบ้านช่วยกันรุมจับตัวก่อนรุมกระทืบแล้วส่งตำรวจทันที








ที่มา http://www.johjae.com

21/4/60






ภาพนี้เกิดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งกำลังกอดโลงศพของผู้เป็นแม่ ทางญาติได้ถ่ายภาพคู่นี้ไว้เพื่อเป็นที่ระลึกเป็นครั้งสุดท้ายของความรักที่ลูกน้อยมีต่อแม่


ป้าของเด็ก เป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความว่าผ่านเฟสบุคของเธอว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เมื่อหลานถามว่า ทำไมแม่ทิ้งหนู ไม่ยอมมานอนกับหนู ฉันคิดว่าหลานรู้ว่าแม่จะไม่กลับมาอีกแล้วแต่เด็กยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่าตาย เห็นแบบนี้แล้วเศร้าสะเทือนใจจริงๆ”


“เด็กลากเก้าอี้มาเอง แล้วปืนขึ้นไปเพื่อกอดโลงศพแม่ เขาคงอยากจะกอดแม่อีกครั้ง…”





ข้อมูลจาก : thanaza.com





หลวงพ่อภัตร อริโย เกจิดังภาคใต้ เกิดนิมิตเห็นรอยเท้าหลวงปู่ทวดข้างที่พักศพจุดที่ 10 รอยต่อระหว่างมาเลเซียและไทย จัดคณะขึ้นไปตามหา สุดอึ้งพบรอยเท้าจริงๆ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 60 หลวงพ่อภัตร อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เกจิดังภาคใต้, พระครูสุเมธาพิมล เจ้าอาวาสวัดวังโต้ ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ นายสุธี สังข์ทอง นายก อบต.นาหมอศรี พร้อมคณะได้เดินทางไปยังหมู่ที่ 3 ต.ประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบที่พักศพสมเด็จหลวงปู่ทวด (ที่พบใหม่จุดที่ 10) เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่รั้วรอยต่อระหว่างประเทศมาเลเซียและประเทศไทย





อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ หลวงพ่อภัตร ได้จำวัดและฝันว่า มีคนเก่าแก่ในหมู่บ้านดุเรียนดุโหรง หรือบ้านทุเรียนนก ในสมัยนั้น  ซึ่งยังไม่เป็นเขตรอยต่อระหว่างประเทศ แต่เป็นแผ่นดินสยาม โดยชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว เล่าในฝันว่า ที่พักศพดังนี้ ไม่มีบุคคลใดกล้าเข้าไป ในนิมิต ยังมีการบอกถึงคนในอดีตเข้าไปลักลอบตัดต้นไม้ใหญ่ใกล้ที่พักศพ แต่ปรากฏว่าต้นไม้ที่ตัดไม่ตาย และคนเข้าไปตัดต้นไม้ก็เกิดป่วยหนัก ต้องเข้าไปขอขมาจุดที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ จึงหายป่วย


ทั้งนี้ หลังหลวงพ่อภัตร ตื่นขึ้นมา จึงได้ให้พระครูสุเมธาพิมล นำคณะเดินทางขึ้นเขาเพื่อไปค้นหารอยเท้าสมเด็จหลวงปู่ทวด ซึ่งในนิมิต บอกว่าอยู่ในหินใกล้ที่พักศพสมเด็จหลวงปู่ทวด เมื่อคณะไปถึงพบที่หินก้อนหนึ่งมีรอยเท้าจริง คณะจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรอยเท้าสมเด็จหลวงปู่ทวดที่ในนิมิตจริง คณะจึงได้ทำพิธีบวงสรวง พร้อมติดทองที่รอยเท้าสมเด็จหลวงปู่ทวด

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะได้เดินทางไปค้นหาเป็นที่น่าอัศจรรย์ เพราะคณะเดินทางไปท้องฟ้าแจ่มใส แต่กลับมีฝนตกลงมาให้เย็นชื่นฉ่ำ นับว่าเป็นนิมิตที่ดีการพบที่พักศพและรอยเท้าสมเด็จหลวงปู่ทวดในครั้งนี้ ซึ่งทางคณะจะได้ดำเนินการจัดหาทุนเพื่อมาจัดสร้างที่พักศพและรอยเท้าสมเด็จหลวงปู่ทวดให้เป็นสถานที่ให้ผู้คนสามารถขึ้นไปกราบไหว้บูชา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย






ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

20/4/60






ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น หลังโซเชียลแชร์ภาพและคลิป วัยรุ่นชาย 2 คน รุมทำอนาจารหญิงสาวเมาขาดสติในที่สาธารณะ งานวันไหลพัทยา ชี้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย

วันที่ 20 เม.ย. 2560 โลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ภาพและคลิป กรณีของกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 2 คน กำลังทำอนาจารหญิงสาวรายหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคนเมาไม่ได้สติ  พร้อมระบุข้อความว่า "วันไหลพัทยา ไหลจริงๆ # ขอบคุณคลิปจากทางบ้านด้วย" ซึ่งในภาพคลิปดังกล่าวเป็นภาพหญิงสาวสวมกางเกงขาสั้นกำลังนั่งพิงประตูเหล็กดัดหน้าสถานประกอบการแห่งหนึ่งไม่ระบุสถานที่




โดยชายวัยรุ่นรายหนึ่งกำลังระดมจูบอย่างดูดดื่ม ขณะที่อีกรายใช้มือลูบหน้าอกและอวัยวะเพศของหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นเวลานาน และกลุ่มคนอีกส่วนหนึ่งถ่ายภาพและส่งเสียงแซวให้ไปทำกันไปในที่ลับตา ท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม คาดว่าน่าจะเป็นช่วงการเล่นน้ำในเทศกาลวันไหลพัทยา เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พบว่าภาพคลิปดังกล่าวมีคนเข้ามารับชมเป็นจำนวนมาก และนำไปแชร์ต่อจำนวนนับพันครั้ง ขณะที่ความคิดเห็นส่วนใหญ่ ต่างออกมาตำหนิถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดูแย่ลง พร้อมฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามจับตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป







http://news.sanook.com/2203142/





จากกระแสข่าวพระเอกลูกทุ่งชื่อดัง เอ ไชยา มิตรชัย แอบซุกลูกไว้ถึง 2 คน ซึ่งเจ้าตัวก็อ้ำอึ้งไม่ยอมให้คำตอบที่ชัดเจนต่อกระแสข่าวดังกล่าว จนเกิดความสับสนในหมู่ชาวเน็ตและบรรดาแม่ยกของพระเอกลิเกหนุ่ม




ล่าสุด ทีวีพูลออนไลน์ เปิดเผยว่า ผู้สื่อข่าวทีวีพูลได้ติดต่อไปยัง คนสนิทของพระเอกลิเกและพยายามสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว โดยแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพียงแต่ เอ ไชยา อยากจะโปรโมทหลานสาว ซึ่งกำลังจะมีละครเล่นทางช่องหนึ่งกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก้อง ห้วยไร่ จึงทำให้กระแสข่าวนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามคงต้องรอเจ้าตัวออกมาพูดเองอีกครั้งหนึ่ง












ที่มา ทีวีพูลออนไลน์





จากกรณีกระแสข่าว พระเอกลิเกชื่อดัง ไชยา มิตรชัย ซุกลูก จนสร้างความฮือฮาไปในหมู่แฟนคลับและแม่ยก ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ได้ปิดปากเงียบไม่ได้ชี้แจงมาตลอดนั้น

ล่าสุด เอ ไชยา โพสต์ในเฟซบุ๊ก Chaiya Mitchai ยอมรับแล้วว่าตนเองมีลูกแล้วจริงๆ โดยพระเอกลิเก ชื่อดัง ระบุว่า




“ผมไชยา มิตรชัย สำหรับเรื่องลูกที่เป็นข่าวอยู่ ขอตอบว่าใช่ครับ ลูกผมครับ ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาสามัญทั่วไป ผมไม่ได้เปิดอะไรมากเพราะไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอะไรกับครอบครัว อยากอยู่กันตามปกติชนธรรมดา มีคนอยากเปิดเรื่องของผม แต่จริงๆผมก็ไม่ได้ปิดอะไร แฟนคลับที่ใกล้ชิดติดตามกันมายาวนานเขาก็ทราบเรื่องนี้ครับ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือก็ทราบดี ผมก็บอกตามปกติ รวมถึงเพื่อนในวงการหลายคนก็รู้ ผมแค่อยากอยู่กันสงบๆ ในตอนนี้ผมตอบคำถามแล้วนะครับ

ส่วนเรื่องอื่นๆผมขอมีพื้นที่ส่วนตัวไว้สักนิดครับขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน
 ส่วนเมื่อวานผมติดภาระกิจถ่ายรายการทั้งวัน และไม่ได้รับโทรศัพท์ใครเลย ไม่ได้คิดว่าอยู่ดีๆจะมีใครมาสนใจเรื่องนี้ เพราะจริงๆเคยมีข่าวลงไปแล้วเรื่องไชยามีลูก 2 คน เคยลงหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีอะไร ก็เหมือนเขียนแซวๆกัน ผมก็ไม่ได้คิดว่าคราวนี้จะมีคนสนใจขนาดนี้ พอเมื่อเช้าถึงได้ทราบจากพี่ตุ้ม ผจก. ว่านักข่าวโทรมากันมาก ผมจึงขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจง ใช้เวลาเขียนบนรถ และกำลังมุ่งหน้าไปงานต่อ

ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ๆ สื่อจนเกินไป ขอรบกวนพาดหัวข่าวว่า ไชยา ตอบสื่อด้วยความสุขว่า ลูกผมเองครับ (ฉีกยิ้ม) หรือ ลูกสาวไชยา สวยปังมาก จะกราบขอบคุณอย่างมากครับ

ปล. ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนอีกครั้งจากใจครับ แล้วพบกันในงานแถลงข่าว ลิเกธรรมมะประวัติ 8พฤษภาคม ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (หอเล็กครับ)
 รายละเอียดทีมจะแจ้งพี่ๆสื่อมวลชนอีกครั้งครับ

ไชยา มิตรชัย”







https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_308710







ศพอดีตเจ้าอาวาสวัดในอำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ซึ่งมรณภาพเมื่อปลาย ม.ค.ที่ผ่านมา ตั้งสวดพระอภิธรรม 100 วันก่อนพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 22 เม.ย.นี้ หายไปตอนไหนไม่มีใครทราบ มาทราบเมื่อจะนำศพออกจากโลงเย็นมาตกแต่ง พบในโลงมีเพียงหมอนที่มีจีวรคลุมไว้

(18 เม.ย.) พระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ (พระมหายนตฺ พุทธสโล ) อดีตเจ้าอาวาสวัดศิริมงคล บ้านหนองหญ้าปล้อง ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 27 มกราคม ปี 60 และตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดแห่งนี้มาตลอดโดยมีกำหนดพิธีพระราชทานเพลิง ในวันที่ 22 เมษายน ที่จะถึงนี้ แต่ขณะที่คณะกรรมการวัด พร้อมด้วยพระ เณร ได้ร่วมกันนำสรีระพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ ออกจากโลงเย็น ต่างต้องตกตะลึงเนื่องจากศพอดีตเจ้าอาวาส ได้อันตรธานหายไป มีเพียงจีวรสีเหลืองคลุมผ้าห่มและหมอนไว้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนรับไม่ได้




พระปลัดแดนสกล ปภาโส เจ้าอาวาสวัดตาลกง จังหวัดสกลนคร อดีตพระเลขาพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ กล่าวว่าพระอาจารย์มรณภาพ เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา บรรดาญาติโยมทั้งใกล้-ไกล พากันเดินทางมาฟังสวดพระอภิธรรม มีกำหนด 100 วัน จึงจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เนื่องจากท่านเป็นพระผู้ใหญ่มีผู้คนเคารพศรัทธามาก และเตรียมการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงในวันที่ 22 เมษายน นี้ ซึ่งมีการตกแต่งสถานที่ ทำเมรุมาศลอยทั่วบริเวณวัด

ต่อมาเมื่อวาน (18 เม.ย.) ทางวัดได้เตรียมนำศพออกมาตกแต่ง โดยนำออกมาจากโลงเย็นเพื่อนำไปบรรจุในโลงไม้และขึ้นไปตั้งไว้ที่เมรุมาศ แต่เมื่อเปิดโลงเย็นออกมา ทุกคนถึงกับตกตะลึง เมื่อพบว่าภายในโลงมีเพียงจีวรคลุมหมอนไว้เท่านั้น จึงได้แจ้งตำตรวจมาตรวจสอบ







http://news.sanook.com/2202234/

18/4/60







วันที่ 18 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์เรื่องราวสุดประทับใจ ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ของสาวสมาชิกเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า Mika Okz Porz ที่เธอได้มีโอกาสพบพ่อบังเกิดเกล้าอีกครั้ง หลังพลัดพรากจากกันนานถึง 16 ปี ขณะเดินทางไปทำบุญวันสงกรานต์กับครอบครัว ที่วัดแห่งหนึ่ง โดยพบว่าพ่อของเธอ ได้นุ่งเหลืองห่มเหลือง บวชเป็นพระและได้มาจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ


โดยเรื่องราวสุดประทับใจนี้ ถูกเผยแพร่โดย น.ส.เปมิกา ชัยกุลเทวินทร หรือน้องปอ อายุ 23 ปี โดยเธอได้เล่าว่า เธอของเธอ ชื่อ นายอุทัย สายบุญ อายุ 61 ปี แยกทางกับแม่ขณะตนมีอายุ 4 ขวบ ที่ บ้านกลาง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และยังจำได้ว่าอายุ 8 ขวบ ยังพบพ่อบวชเป็นพระอยู่ที่วัดสว่าง บ้านกลาง จ.เพชรบูรณ์ โดยพ่อบอกว่าต้องการที่จะศึกษาเรื่องธรรมะ




จากนั้นพ่อได้หายออกไปจากวัด ไม่มีใครทราบว่าหายไปอยู่วัดไหน สอบถามแม่ก็ไม่ทราบ คิดว่าคงไม่มีโอกาสพบกันแล้ว จนกระทั่งตนและแม่คือ นางอามีนา เพชรสัมฤทธิ์ ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อให้ตนเรียนหนังสือจนอายุ 18 ปี ก็ไปหางานทำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ก็ยังนึกถึงพ่อตลอด พยายามไปทำบุญตามวัดต่างๆ เผื่อจะได้พบกับพ่อ แต่ก็ไม่มีวีแววว่าจะพบ


ต่อมา วันที่ 14 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครอบครัว เธอกับแม่ น้องสาว และหลานๆ ได้พากันไปทำบุญที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ปากซอย 54 ซอยวัดหัวคู้ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ปรากฏว่าขณะนั่งทำบุญใส่บาตรอยู่นั้น มีพระภิกษุรูปหนึ่งนั่งจ้องมองมาที่ตนและน้องสาว อย่างแปลกๆ อยู่นาน จนกระทั่งแม่สังเกตเห็น และถามตนว่าอยากเจอพ่อไหม ตนก็ตกใจ แม่ก็บอกว่าพระรูปนั้นคือ พ่อของลูก


ตนถึงกับน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ เมื่อทำบุญเสร็จจึงพากันเข้าไปกราบ พ่อบอกว่าพ่อสอบได้เปรียญ 9 ประโยค และได้ไปจำพรรษาที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดียหลายปีแล้ว โดยมาติดต่อเรื่องเกี่ยวกับการเข้ารับพระราชทานเปรียญธรรม ก่อนหน้าที่จะมาพบกับลูกสาว กำลังจะไปขึ้นเครื่องกลับในวันที่ 13 เม.ย. ปรากฏว่าตกเครื่องทำให้ต้องเปลี่ยนเที่ยวบิน จึงมาขอจำวัดสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะเดินทางในช่วงกลางคืน ไปยังประเทศอินเดีย ตอนเช้าจึงออกมาร่วมรับบิณฑบาตไม่คิดว่าจะพบกับลูกสาว เชื่อว่า เป็นเรื่องของบุญวาสนาที่ตนเองต้องเดินทางไปจำวัดที่อินเดีย โดยก่อนที่จะมาพบลูกสาวเกิดตกเครื่อง ทำให้ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินและมาจำวัดสุวรรณภูมิ จนมาพบกับลูกสาว ทั้งที่จากเมื่อ 16 ปีที่แล้วที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่มาเจอกันที่นี่ได้

ได้ไปส่งพ่อที่สนามบินสุวรรณภูมิเดินทางไปอินเดียแล้ว พ่อบอกว่าตอนนี้หมดห่วงแล้ว ได้พบกับลูกสาว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยคิดจะไปตามหาลูกที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยได้ทำคัตเอ้าท์ประกาศตามหาด้วย แต่คงไม่ต้องตามแล้ว และเชื่อว่านี่คือ กรรมดีที่ลูกและพ่อได้ทำร่วมกัน มาพบกันในที่สุดรวมเวลาที่ไม่ได้เจอนาน 16 ปี ต่อไปจะมาจำวัดที่วัดสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะรับใช้พระศาสนา น้องปอ กล่าว





http://thaisod.com/2051





ศิลปินจากแดนปลาดิบใช้เวลาถึงหกปี ในการรวบรวมแมลงปีกแข็งหลากหลายสายพันธ์ุกว่า 20,000 ชนิด เพื่อสร้างพระพุทธรูปที่มีความสูง 150 เซนติเมตร

Yoneji Inamura ศิลปินสมัครเล่น จากเมือง Itakura จังหวัด Gunma ประเทศญี่ปุ่น เขาใช้เวลาหลายปีในการจับแมลงจำพวกด้วง แมลงเต่าทอง แมลงปีกแข็งชนิดต่างๆ เพื่อสะสม แต่ในปี ค.ศ. 1970 เขามีความคิดที่จะนำแมลงพวกนี้มาสร้างเป็นผลงานศิลปะ ผลงานชิ้นแรกของเขาคืองานประติมากรรมรูปซามูไร ที่ทำมาจากด้วงและแมลงเต่าทองชนิดต่างๆ กว่า 5,000 ตัว เขาใช้เวลาในการสร้าง 10 เดือน งานของเขาชิ้นนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ส่วนมากจะเป็นในเชิงลบ บางคนยกย่องความสามารถของเขา แต่อีกหลายๆ คน บอกว่าเขาเป็นคนโหดร้ายที่ฆ่าสัตว์พวกนี้





ในปี ค.ศ. 1972 Inamura เริ่มสร้างผลงานปฏิมากรรม พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุดในญี่ปุ่น สูง 150 เซนติเมตร ใช้เวลาสร้าง 6 ปี และใช้แมลง 20,000 กว่าตัว

Yoneji Inamura กล่าวว่า “นี่เป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์ในพุทธศาสนาและยังเป็นอนุสรณ์ของพวกแมลงด้วย” ปฏิมากรรมชิ้นนี้ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในยุคนั้น ผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นเดินทางไปชม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลงานชิ้นนี้ก็ถูกลืม

เมื่อสองปีที่แล้วผลงานชิ้นนี้ได้ถูกค้นพบอีกครั้งโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะในกรุงโตเกียว และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากสื่อในประเทศ ปัจจุบันผลงานชิ้นนี้จัดแสดงที่ Itakura Town Hall บ้านเกิดของ Yoneji Inamura นั่นเอง








https://www.thanaza.com/media/news-beetles-41817/





ไม่น่าเชื่อเรื่องแบบนี้จะมีอยู่ที่ทำเอานักสำรวจทั้งหลายถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ใครที่หลงใหลชื่นชอบกับการไปท่องเที่ยวทะเลสาบ ต้องไม่พลาดที่จะต้องไปเยือน ณ สถานที่แห่งนี้ เพราะที่นี้คุณอาจเจอกับสิ่งที่ต้องทำให้คุณถึงกับตื่นตาทีเดียวมันคือ Roopkund ทะเลสาบที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 16,000 ฟุต บนเทือกเขาหิมาลัย ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย


ถูกค้นพบในปี 1942ทะเลสาบแห่งนี้ดูสวยงามมากทีเดียว แต่ต้องตกใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกระดูกมนุษย์จำนวนมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน




ซึ่งก็คาดเดากันว่าน่าจะเป็นกระดูกมนุษย์ของบรรดาทหารญี่ปุ่น ที่ปล่อยถูกทิ้งให้ตายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เมื่อมีนักชำนาญทางด้านดังกล่าวเข้ามา ตรวจสอบกลับพบว่า เป็นกระดูกของมนุษย์ที่พบอยู่ในช่วง ค.ศ. 850 ซึ่งมันไม่ใช่โครงกระดูกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก็ทำให้ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าตกลงกระดูกมากมายขนาดนี้นั้นอยู่ในช่วงใดแล้วเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้นั้นเอง?










http://kapooza.com

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget