31/5/60






คำเตือนภัยที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ส่อความจริงเข้ามาทุกที จากคำทำนายของหลวงปู่สังวาลย์ ที่เคยทำนายใว้ ท่านสนทนากับหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ไว้ว่าว่าจะเกิดภัยพิบัติต่อประเทศของเรา ซึ่งเป็นคำทำนายที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หรือเกิดเหตุการณ์ตามคำทำนายใว ซึ่งหลวงปู่สังวาลย์ได้ทำนายใว้ว่า สัญญาณเตือนภัยก่อนที่ภัยพิบัติใหญ่จะมาคือ

เราจะเห็นพระสงฆ์ทะเลาะกันวุ่นวายไปหมด จากนั้นจะเกิดน้ำท่วมใหญ่คนตายเป็นเบือที่ภาคใต้แต่ไม่เท่ากรุงเทพ เพราะจากนั้นไม่นานจะมีคลื่นยักษ์ซัดมาจากฝั่งตะวันออก มาทีเดียวน้ำจะท่วม เสาไฟฟ้า





สมัยที่หลวงพ่อสนอง กตปุญโญท่านยังอยู่ท่านก็ย้ำคำของหลวงปู่สังวาลย์ไว้ดังนี้ว่า
 “เหลือ อีกสองอย่าง ที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับ น้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะ ตายมากกว่าคราวนี้ ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือน บอกให้ระวังตัว เตือนเราว่า ให้ดูฝนตก 7 วัน 7 คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด”หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟังว่า…สนอง…ไม่ช้าพวกเราก็ตาย แล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง “น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ เป็นครั้งที่ 1 แต่ก็ตายไม่มากเท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย”

คำทำนายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ทำไมมันส่อความจริงเข้ามาทุกที ภาคใต้ก็น้ำท่วม พระสงทะเลาะกันเอง เหลือสิ่งนี้ที่ยังไม่เกิด น้ำท่วมกรุงเทพ คลื่นยักษ์ มาถึง ชลบุรี ท่วมภูเขามาเลยท่วมตึก4ชั้น คนจะตายมากมาย ยังก็ขออย่าให้มันเกิดขึ้นเลยนะคะ และเชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้น









ที่มา: kaijeaw





ขนลุก ชัดมากๆ พญานาคมาให้โชคแล้ว..ได้มาปรากฎตัวให้เห็นที่บ้านโนนบ่อ จ.อุดรธานี

เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พ.ค 2560 ผู้ใช้เฟสบุ๊คนามว่า บาหยัน ทาสีดำ ได้บันทึกภาพพญานาคได้ด้วยตัวเองที่บ้านคนรู้จัก ขณะที่พญานาคกำลังขึ้นตู้เย็นทางเข้าห้องพระ ภาพชัดเจนมาก พญานาคมาให้โชคแล้ว ใครเห็นภาพนี้ขอให้รวยๆ กันทุกคนนะคะ.. บ้านเลขที่ที่พญานาคขึ้นมาคือ บ้านเลขที่ 155 บ้านโนนบ่อ ต.หมู่ม่น อ.เมือง.จ.อุดรธานี. บ้านคุณแม่ผู้ช่วยนะคะ













ที่มา: เฟสบุ๊คบาหยัน ทาสีดำ





ชาวบ้านในจีนอึ้งไปตาม ๆ กัน หลังพบคู่คนแปลกหน้าป้วนเปี้ยนใกล้หมู่บ้าน เป็นชายวัยกลางคนกับเด็กสาวอายุ 15 อาศัยอยู่ด้วยกันในถ้ำ เข้าใจว่าเป็นพ่อ-ลูกกัน แต่สุดท้ายพบเป็นคู่รักหนีตามกันมา หนำซ้ำฝ่ายหญิงกำลังตั้งท้อง !

เว็บไซต์ People ของจีน รายงานข่าวชายหญิงหนีตามกันที่ชวนตระหนกตกใจ หลังชาวบ้านในเมืองกานซี มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ได้เผยเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า เห็นคู่คนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยนแถวหมู่บ้านมาระยะหนึ่งแล้ว เป็นชายวัยกลางคนกับเด็กสาววัยรุ่น เมื่อลองตามสังเกตดูก็พบว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันในถ้ำตรงชายป่า ดูท่าทางแล้วเหมือนว่าจะเป็นพ่อ-ลูกกัน





แต่เมื่อทางการได้สืบเสาะตามเบาะแส กลับเป็นที่ปรากฏว่า แท้จริงชายหญิงต่างวัยคู่นี้ เป็นคู่รักที่หนีตามกันมาจากนครฉงชิ่งได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว โดยฝ่ายชายชื่อ หรัน อายุ 46 ปี ขณะที่ฝ่ายหญิงชื่อ หลิว อายุ 15 ปีเท่านั้น หนำซ้ำยังพบว่าในขณะนี้เด็กสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วย

ก่อนหน้านี้ หลิวทำงานเป็นลูกจ้างในร้านขายของ ของนายหรัน และก็เกิดตกหลุมรักกัน แต่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงไม่เห็นชอบด้วย จึงตัดสินใจหนีตามกันมาและมาอาศัยในถ้ำเช่นนี้ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตด้วยกัน

ทั้งนี้ หลังทราบเรื่องคู่รักต่างวัยทั้งสองถูกทางการท้องถิ่นส่งตัวกลับไปยังนคร ฉงชิ่งแล้ว ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทั้งคู่จะถูกดำเนินการอย่างไรต่อไป








ที่มา: doosod

29/5/60





(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา)

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 เว็บไซต์ "ซันเดย์รีจิสเตอร์" ของสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่เรื่องราวชวนให้อึ้งไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาว "ปาซีร์ ริส" สาววัย 28 ปี ได้รับบาดเจ็บตรงอวัยวะเพศฉีกขาด เนื่องจากโดนปูลมใหญ่กัด ขณะนอนแก้ผ้าอาบแดดริมชายหาดชางงีของสิงคโปร์

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาบ่าย ขณะที่ "ปาซีร์ ริส" พร้อมเพื่อนผู้หญิงอีก 2 ราย ได้พากันไปเปลือยผ้านอนอาบแดดที่ชายหาดดังกล่าว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ถือว่าผิดกฎหมายในสิงคโปร์ แต่ทว่าทั้ง 3 คน ทำไปเพราะอยากให้ผิวหนังของตัวเองเป็นสีแทน โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้างทั้งนั้น

กระทั่ง "ปาซีร์ ริส" เผลอนอนหลับผ่านไป 15 นาที เธอตื่นขึ้นมากรีดร้องเสียงดังเหมือนโดนโดนอะไรกัดเข้า จนหันไปก็เห็นว่ามีปูเกาะอยู่ที่ส่วนล่างของเธอ เมื่อเพื่อนๆ ได้ยินเสียงก็สะดุ้งตื่น รีบช่วยกันดึงปูออกมา และปฐมพยาบาลทันที จนแพทย์เข้ามาช่วยเหลือในเวลาต่อมา








ที่มา: http://www.jadjaan.com/contents/160704/

23/5/60






กำลังเป็นกระแสดังไปทั่วแล้วตอนนี้ เมื่อล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอของเด็กน้อยคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นคลิปที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับบรรดาเหล่าโซเชียลเป็นอย่างมาก เพราะในคลิปได้เป็นวินาทีที่เด็กคนนี้ได้มาเล่าให้ญาติๆ ฟังว่าได้เห็นพ่อทับขาแม่ แล้วเจ้าตัวก็ได้ทำท่าในวินาทีที่แม่ทำเสียงร้องแบบได้ใจเหล่าโซเชียลแบบสุดๆ แม่เขาจะร้องแบบไหนกันน่ะเดียวไปลองฟังกันดู




















ที่มา: http://fb.upyim.co/107019/

18/5/60






งานนี้จะมาดราม่าไหม? ทรงผมนักเรียนถูกระเบียบ สามารถการันตีการเรียนที่ดีได้ไหม? โดยเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ ได้แชร์ภาพนักเรียนชายโดนครูกล้อนผม เนื่องจากยาวผิดระเบียบ และได้โพสท์ระบุว่า ......

โคตรเกลียดเลยครูที่กล้อนผมนักเรียน กูถามคำ ไอ้ทรงผมนี่มันทำให้เด็กเรียนเก่งยังไง สุดท้ายการตรวจตราชุดนักเรียนมันคือความล้าสมัยของระบบการศึกษาไทย ถ้าครูจะสอนให้เด็กหวาดกลัว มากกว่าการใช้เหตุผลในการอธิบาย ประเทศชาติคงยากจะเจริญได้




ครูคนนี้ทุเรศเข้าไปอีก ด้วยการถ่ายรูปความเผด็จการของตัวเอง ประจานเด็กนักเรียนให้ได้รับความอับอายบนสื่อโซเชียล ถามจริงค่ะครู จับสลากหรือสอบเข้ามา ที่ทำอยู่ได้อะไร นอกจากสำเร็จความใคร่ความสะใจของตนเองบนความทุกข์ของเด็ก


อย่าพ่นคำประเภท ต้องสอนให้เด็กรู้จักกฎระเบียบ แล้วดูต่างประเทศที่เจริญแล้ว เด็กไว้ผมยาวถึงดาก แต่เขาพัฒนาระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต เช่น เก็บกวาดขยะ วางของเป็นที่เป็นทาง ดูแลตนเองเบื้องต้น ไม่ใช่กล้อนผม แล้วใส่ถุงเท้าขาว มาเป็นภาระให้พ่อแม่ต้องซัก รำคาญ!!!


ป.ล. ระเบียบกระทรวงฯ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน...โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี 4 สถาน ดังนี้

1.ว่ากล่าวตักเตือน
2.ทำทัณฑ์บน
3.ตัดคะแนนความประพฤติ
4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ไหนกล้อนผมวะ???

เฟซบุ๊คคุณครูได้โพสท์ว่า "ไอ้พวกอยากลองของ ครูจัดการลงของให้เรียบร้อย" งานนี้จะมาดราม่าไหมเนี่ย???

ปรกติไม่โพสต์หรือแชร์เรื่องพวกนี้นะ แต่เห็นแล้วมันขึ้น ถึงคุณจะมีอาชีพเป็นครู คุณมีสิทธิอะไรมาลงโทษเด็กด้วยวิธีการแบบนี้ครับ แถมภาษาที่คุณเขียน "ไอ้พวกอยากลองของ ครูจัดการลงของให้เรียบร้อย" มันชัดเจนว่า ทำไปด้วยอารมณ์นะ


ตาม "ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548" อนุญาตให้ลงโทษนักเรียน ได้แค่ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และห้ามลงโทษนักเรียนด้วยวิธีรุนแรง กลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธหรือพยาบาท


และการลงโทษนั้น ให้เฉพาะผู้บริหารโรงเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น เป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษ (ครูคณิตศาสตร์ท่านนี้ ได้รับมอบหมายหรือไม่)

และกรณีที่เกิดขึ้นนี้ คือการที่เด็กไม่ตัดผมมาให้เรียบร้อย ดังนั้น จึงน่าจะเป็นความผิดไม่ร้ายแรง ให้ทำได้แค่ว่ากล่าวตักเตือน / หรือถ้าเคยเป็นคนที่ถูกตักเตือนแล้ว แต่ไม่เข็ดหลาบ ก็ให้ทำทัณฑ์บน

บางทีก็คิดนะว่าเราถูกกระแสสังคมทำให้เฉยเมยกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ หรือเปล่า ... แต่ถึงวันนี้แล้ว มันน่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างแล้ว









ที่มา: https://board.postjung.com/1027536.html






เอ๋ พรทิพย์ แก้เผ็ดสามีหนุ่ม ป๋อ ณัฐวุฒิ ขุดภาพวัยเด็กทั้งคล้ำและขี้เหร่ของสามีอวดชาวโซเชียล ทำป๋ออับอายอย่างแรง!!

เปิดกรุภาพวัยเด็กของพระเอกรูปหล่อ ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่ถูกภรรยาสาวคนสวย เอ๋ พรทิพย์ แกล้งด้วยการลงรูปสมัยเด็กๆ ของหนุ่มป๋อ แบบชุดใหญ่ไฟกะพริบหลายรูป ซึ่งแต่ละภาพล้วนเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ





ป๋อเห็นรูปแล้วเมนต์กลับเอ๋ทันที

งานนี้ทำเอาพระเอกหนุ่มป๋อถึงกับอึ้งที่ถูกภรรยาแกล้ง เลยต้องคอมเมนต์ตอบโต้กลับภรรยาแบบขำๆ ว่า “โอ้โห!!!!!!! อับอายแบบชุดคอมโบ้!!!! อีห้อยยยยยยยยยยย!!! กรูพระเอกนะเฟ้ยยยยยยยยยย”

ส่วนแฟนๆ ของหนุ่มป๋อ ก็เข้ามาคอมเมนต์ชมในความหล่อ คม เข้ม เสมอต้นเสมอปลายของหนุ่มป๋อกันมากมาย งานนี้เชื่อว่าอีกไม่นานคงมีภาพวัยเด็กของสาวเอ๋ออกมาให้ได้เห็นอย่างแน่นอน

ป๋อ ณัฐวุฒิ วัยเด็ก

ภาพนี้ดูก็รู้ว่าเป็นใคร

เริ่มมีเค้า ป๋อ ณัฐวุฒิ

โตมาแล้วอย่างหล่อ








ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

17/5/60






ภาพอ้าง ผอ.สาว ขับรถล้ม ขณะไปเรียน เหตุจากถนนพัง เป็นหลุมเป็นบ่อขับลำบาก ด้านชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ เป็น ผอ.ต้องอดทน แนะเปลี่ยนรถใหม่เพื่อความคล่องตัว

วันนี้ (17 พ.ค. 60) ผู้คนในโลกออนไลน์ได้พากันเข้าไปแสดงความเห็นส่งกำลังใจให้ผู้อำนวยการโรงเรียนสาวท่านหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุรถล้มระหว่างไปสอนหนังสือ เนื่องจากเส้นทางที่ใช้นั้นเป็นหลุมเป็นบ่อ ยากจะขี่หลบหลีกได้




โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Parit Radchanavee‘  ที่ได้เผยให้เห็น ผอ.สาวคนดังกล่าวมีสภาพเนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยโคลนกำลังพยายามลุกประคองรถให้กลับมาขี่ได้เหมือนปกติ ขณะที่ผู้โพสต์ได้มีข้อความระบุว่า ‘ซอย ..ผอ. เเน่!!!! บ่ถึงง่ายดอกโรงเรียนมื้อนิ..!!’












ที่มา: http://news.mthai.com/social-news/564724.html

16/5/60








ชาวบ้านแห่คอหวย ‘เจ้าแม่ตะเคียนทอง’ บริเวณบ้านท้องคุ้ง หมู่ 11 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เผยเลข 13 มาแรง

วันที่ 16 พ.ค. 60 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยนาท รายงานบรรยากาศก่อนการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ว่า ที่วัดศาลาขาว ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีนักเสี่ยงโชค และเซียนหวย ทยอยเดินทางกันมาขอเลขเด็ด จากเจ้าแม่ตะเคียนทอง ความยาว 13.63 เมตร กว้าง 3 เมตร ที่นำขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณบ้านท้องคุ้ง หมู่ 11 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมาจำนวนมาก

ซึ่งสาเหตุทำให้เหล่าบรรดา เซียนหวยให้ความสนใจต้นตะเคียนดังกล่าว เนื่องจากวันที่ นำขึ้นจากน้ำและระหว่างพิธีบวงสรวงต้นตะเคียนนั้น มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับ ด.ญ.ภาวินี สุขน่วม อายุ 14 ปี ที่มาอยู้ในพิธีเกิดอาการเหมือนถูกวิญญาณเข้าสิง และบอกกับชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ด้วยท่าทีเหมือนคนแก่ว่า “เอา น้องสาวขึ้นมาด้วย” จนชาวบ้านแตกตื่น ทำให้เซียนหวย ต่างก็เดินทางมาขอโชคลาภ และเก็งเลขเด็ดกันจำนวนมาก ซึ่งเลขงวดนี้ที่กระแสมาแรงก็คือเลข 13 และ63 ซึ่งเป็นความยาวของต้นตะเคียน

ขณะที่ ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งก็เดินทางไปยังริมแม่น้ำเจ้าพระจุดที่นำต้นตะเคียนขึ้นมา เพื่อค้นหาต้นตะเคียนอีกต้นหนึ่ง ที่ทางเจ้าแม่ตะเคียนทองได้สิงร่างเด็กหญิงในวันบวงสรวง ที่คาดว่าจะมีอีกต้นอยู่ใต้น้ำ แต่หมอทำพิธีบอกว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการค้นหาสักระยะ และหากเจอตามคำบอกกล่าวของเจ้าแม่ตะเคียนทองจริง ก็จะรีบนำขึ้นมาทันที เพื่อให้พี่กับน้องได้มาอยู่ด้วยกัน








ที่มา: http://news.mthai.com/general-news/564221.html

13/5/60






สระแก้ว - เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดทุ่งพระ ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว มีพระมรณภาพ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า

ภายในบริเวณวัดมีญาติโยมจำนวนมากหลายร้อยคนมารวมกับบริเวณกุฏิสงฆ์ ภายในพบร่างของ พระครูประภัสร์วุฒิคุณ หรือหลวงปู่สนธิ์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งพระ อดีตเจ้าคณะตำบลท่าเกษม อายุ 89 ปี 68 พรรษา มรณภาพด้วยอาการสงบ โดยมีพระรัตนสราธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว วัดหนองกะพ้อ อ.เมือง จ.สระแก้ว เดินทางมากราบสังขารด้วย

ทั้งนี้หลวงปู่สนธิ์ถือเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาสูงที่สุดใน จ.สระแก้ว และเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านวัตถุมงคลด้วยมีรายงานแจ้งว่า นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผวจ.สระแก้ว ได้มอบหมายให้สำนักพุทธศาสนา จ.สระแก้ว อำนวยการจัดการพิธีการงานศพ และดำเนินการขอพระราชทานน้ำหลวงสรงศพด้วย ส่วนประวัติของ หลวงปู่สนธิ์ เป็นพระเกจิเมืองสระแก้วที่มีชื่อเสียงในด้านพุทธคุณ มีอาคมภาษาขอม ลงเลขยันต์อักขระขอม รวมถึงการปลุกเสกวัตถุมงคล โดยมีวัตถุมงคลที่หลวงปู่สนธิ์ได้สร้างไว้ไม่น้อย และเป็นที่ต้องการของผู้นิยมเครื่องลางของขลังอย่างมาก








ที่มา: Nation Channel

วันที่ (12 พ.ค. 60) ผู้สื่อข่าว MThai ได้เดินทางไปที่วัดพระธาตุจอมทอง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาครอบคลุมอาณาเขต 3 ตำบล คือ ต.เวียง ต.ต๋อม ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา หลังจากทราบว่ามีการพบเห็น แมลงคล้ายแมลงสาบ แต่แตกต่างตรงที่มีสีไม่เหมือนกัน โดยพบว่ามีสีแดงทั้งตัวมีหนวดยาว ขายาว และบริเวณปีกจะมีสีสันต่างๆ แต่ที่สำคัญคือมีลักษณะเหมือนรูปใบหน้าคน




โดยลำตัวยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เดินไต่ไปมาตามขั้นบันไดพญานาควัดพระธาตุจอมทองเต็มไปหมด และเดินไต่ไปมารวดเร็ว เพื่อหาเศษอาหารและซากสัตว์ที่ตายกินเป็นอาหาร โดยผู้พบเห็นบอกว่า เป็นแมลงหน้าคนเพราะมีรูปคล้ายใบหน้าคนที่บริเวณบนปีก ทำให้บางคนจับไปเพื่อเอาไปเลี้ยง บางคนเอาไปให้เพื่อนดู เพราะไม่ค่อยจะพบเห็นในตัวเมืองพะเยา

สำหรับวัดพระธาตุจอมทอง ตั้งยู่บนเขาสูงโดยมีป่าไม้ล้อมรอบทั่วบริเวณ ทำให้มีสัตว์ชนิดต่างๆพากันมาอยู่อาศัยโดยเฉพาะสัตว์เล็กๆ รวมทั้งแมลงหน้าคน ซึ่งสามารถมาชมกันได้บริเวณบันไดพญานาควัดพระธาตุจอมทอง ในช่วงเช้าและเย็นเพราะแมลงใบหน้าคนจะออกมาหากินซากสัตว์เล็กๆ ที่ตายแล้วตามบันไดและแถวป่าไม้ทุกวัน

เบื้องต้นจากการสังเกต แมลงดังกล่าว มีลักษณะคล้าย มวนแดง ซึ่งมวนแดงจะเป็นมวนที่มีขนาดเล็ก ขนาดความยาวประมาณ 2 เชนติเมตร หัวสีแดง ปีกแข็ง ส่วนหน้าสีส้ม มีจุดดำตรงกึ่งกลางข้างละจุด ส่วนปลายสีดำ ท้องสีแดงพาดขาว ลำตัวและขามีสีแดง ตรงปลายปีกมีสีดำ มวนแดงบางชนิดเป็นศัตรูของพืช เช่น มวนแดงฝ้ายเป็นศัตรูสำคัญของฝ้ายในประเทศเขตร้อน








ที่มา: http://news.mthai.com/general-news/563700.html

12/5/60






เป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้น สร้างความชุลมุนกันอย่างหนัก เมื่อ ร.ต.อ.วิชิตพงษ์ คล้ายธาณาสงค์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ชุมชนวัดโมลีโลกยาราม ซอยอรุณอมรินทร์ 8 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ จึงประสานรถน้ำดับเพลิง 12 คัน รุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทันที




ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุ เป็นชุมชมวัดโมลีโลกยาราม พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจากชั้นที่ 2 ของบ้านเลขที่ 417 ซึ่งอยู่ด้านหน้าชุมชน ก่อนลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงรีบระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นาน 30 นาที เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบบ้านเรือนประชาชนถูกเพลิงไหม้เสียหาย 7 หลัง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

จากการสอบสวน น.ส.ปทุมวัน โตสมบัติ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง ให้การว่าก่อนเกิดเหตุนั่งเล่นอยู่ชั้นล่าง จากนั้นก็ได้กลิ่นควันไฟลอยมาจากชั้น 2 ก่อนจะมีแสงเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงรีบหนีตายออกมาตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง


ย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชน พระณัฐชัย วรญฺชโย กับสามเณรทีปกร อย่านอนใจ พระและเณรลูกวัดโมลีโลกยาราม ได้ฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยอุ้มร่างของ นางเชื้อ หร่ามอุไร อายุ 87 ปี หญิงชราที่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในบ้านเลขที่ 419 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง ออกมาได้อย่างปลอดภัย โดย พ.ต.อ.จารุภัชร ทองโกมล ผกก.สน.บางกอกใหญ่ กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุว่าจะพิจารณามอบประกาศนียบัตร เชิดชูการทำความดีให้พระและเณรทั้ง 2 รูป ที่ยอมผิดศีลฝ่ากองเพลิงเข้าไปอุ้มคุณยายจากความเป็นความตายด้วย.










ที่มา: http://www.tnews.co.th/contents/aw/318407





(11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากนำของเซ่นไหว้มาแก้บนย่าตะเคียน ที่บริเวณวังสักหลง หมู่ที่ 6 ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังจากพบอยู่ใต้คลองสักหลงและได้อัญเชิญขึ้นมาไว้บริเวณศาลปู่อินทมาศ ซึ่งอยู่ริมตลิ่งใกล้กับบริเวณที่พบต้นตะเคียน จากนั้นได้มีชาวบ้านได้มาทำพิธีขอขมาและขอโชคขอลาภ ปรากฏว่าโชคดีถูกหวยกันเกือบทั้งหมู่บ้าน พร้อมกันนี้จะมีพิธีอัญเชิญต้นตะเคียนที่ขุดพบในคลองดังกล่าวขึ้นมาอีก 5 ต้น




ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังนำของเซ่นไหว้ เช่น ไก่ต้ม ขนมหวาน และผลไม้ รวมทั้งชุดไทยหลากหลายสี มาวางและแขวนไว้ใกล้กับต้นตะเคียนเพื่อเป็นการแก้บน นายแดน (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ม.3 บ้านวังโป่ง ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งโชคดีถูกหวยนับแสนบาท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้าที่จะพบต้นตะเคียนนั้น ตนเองเป็นลูกจ้างขับรถแม็คโคร และได้มาขุดลอกคลองบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2560 ซึ่งก่อนที่จะใช้รถขุดนั้น ตนได้ทำพิธีขอขมาเจ้าที่เจ้าทางแล้ว จากนั้นจึงลงมือขุดผ่านไปหลายวัน


เมื่อขุดมาถึงบริเวณหน้าศาลปู่อินทมาศ ปรากฏว่าได้ขุดไปโดนต้นไม้แต่ก็ไม่สนใจทำงานไปตามปกติ และเมื่อเลิกงานตนรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอย่างแปลกประหลาด วันต่อมาร่างกายก็ไม่มีแรง ต้องนอนซมอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถลุกขึ้นไปทำงานได้ กินอาหารก็ไม่ได้นานนับเดือน จนร่างกายซูบผอม  ต่อมามีหมอดูมาทักว่าที่ตนใช้รถแม็คโครขุดโดนต้นไม้จนฉีกขาดนั้นเป็นต้นตะเคียน ให้นำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมา และให้ชาวบ้านนำขึ้นมาจากคลอง เมื่อทำตามอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนในขณะนี้หายเป็นปกติแล้ว


จากนั้น ตนจึงได้ชักชวนชาวบ้านขอโชคขอลาภจากย่าตะเคียน ปรากฏว่าโชคดีถูกหวยกันเกือบทุกคน จึงได้นัดแนะกันเพื่อนำของเซ่นไหว้ และของแก้บนมาถวายย่าตะเคียน นอกจากนั้นยังได้มีการขุดพบต้นตะเคียนบริเวณคลองวังสักหลงอีกจำนวน 5 ต้น จึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญขึ้นมาไว้คู่กับต้นตะเคียนที่พบก่อนหน้านี้ 3 ต้น รวมทั้งหมดเป็น 8 ต้น ซึ่งชาวบ้านก็ได้นำผ้าสีมาผูก รวมทั้งใช้แป้งโรยตามลำต้นเพื่อหาเลขเด็ด ซึ่งแต่ละคนก็เห็นและตีเป็นตัวเลขต่างๆ เช่น 25 , 58 , 685 , 578 , 573 จากนั้นก็ไปเลือกซื้อลอตเตอรี่ที่นำมาวางแผงขายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีร้านค้านำสินค้ามาขายจนบริเวณดังกล่าวคึกคักราวกับตลาดนัดเลยทีเดียว











ที่มา: http://news.sanook.com/2218318/

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget