ยอมรื้อแล้ว เศียรพระพุทธรูปแต่งรั้วบ้าน ที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าของบ้านขอโทษ เผยชื่นชอบพุทธศิลป์ ไม่คิดลบหลู่ศาสนา ส่วนเศียรพระพุทธรูปขอเก็บไว้ตกแต่งบ้านเป็นการส่วนตัว
ความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.หางดง พร้อมตำรวจ สภ.หางดง เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง บ้านแพะขวาง หมู่ 3 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าว นำเศียรพระพุทธมาตกแต่งกำแพงบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่ผ่านไปพบเห็นรู้สึกสะเทือนใจและมองว่าเป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนา โดยเจ้าหน้าที่พบเศียรพระพุทธรูปจำนวนมากถูกวางเรียงบนกำแพงบ้าน จึงขอความร่วมมือให้รื้อออก เนื่องจากเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุด (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าเจ้าของบ้านได้เริ่มนำเศียรพระพุทธรูปออกแล้วบางส่วน ขณะที่นางนวลจันทร์ อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและสามีชาวอเมริกันวัย 68 ปี รู้สึกเสียใจที่ถูกชาวบ้านและชาวเน็ตรุมด่า พร้อมกับชี้แจงว่าตนเองกับสามี ซื้อที่ดินพร้อมบ้านหลังนี้มาได้ประมาณ 8 เดือน ด้วยความที่ตนเองและสามีชื่นชอบในพุทธศิลป์อยู่แล้ว จึงอยากจะตกแต่งบ้านตามความชอบ โดยซื้อเศียรพระพุทธรูปจากแหล่งผลิตแห่งหนึ่งใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปปูนที่ถูกทิ้งไปแล้ว จึงซื้อเหมามาในราคาประมาณ 35,000 บาท นำมาให้ช่างทาสีทองสวยงาม ก่อนจะนำไปประดับไว้ที่รั้วบ้าน แต่ก็มาทราบภายหลังว่ามีเพื่อนบ้านถ่ายภาพเอาไปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์จนถูกร้องเรียน
นางนวลจันทร์ ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาลบหลู่หรือดูหมิ่นศาสนาพุทธ เพราะตนเองก็นับถือศาสนาพุทธ แต่มองว่าพระพุทธรูปอยู่ที่ไหนก็งดงามควรค่าแก่การเคารพ ส่วนประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ไม่ทราบมาก่อนว่าทางภาคเหนือจะมองว่าเรื่องแบบนี้ไม่เหมาะสม มาทราบก็ตอนที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจที่บ้าน ตนเองและสามีรู้สึกตกใจมาก และยืนยันว่าตนเองและสามีเคารพศรัทธาในพุทธศาสนา ตนเองเข้าวัดมาตั้งแต่เด็ก ส่วนสามี แม้จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ก็เข้าวัดบ่อยครั้งที่มีโอกาส สิ่งที่เกิดขึ้นก็อยากขอโทษทุกคน
Advertisement Replay Ad
นางนวลจันทร์ บอกอีกว่า นอกจากชื่นชอบในพุทธศิลป์ อีกสาเหตุหนึ่งที่นำเศียรพระพุทธรูปมาประดับรั้วโดยหันหน้าเศียรพระเข้ามาในตัวบ้าน ก็เพราะว่าบ้านของตนเองตั้งอยู่ด้านหลังสุสานประจำหมู่บ้าน จึงเชื่อว่าเศียรพระพุทธรูปที่หันหน้าเข้าตัวบ้านจะช่วยปกปักรักษาให้คนในบ้านปลอดภัยไร้สิ่งรบกวน
สำหรับเศียรพระพุทธรูปที่ซื้อมามีทั้งหมดประมาณ 70 ชิ้น ทาสีและนำขึ้นตกแต่งบนรั้วแล้ว 33 ชิ้น ส่วนที่เหลือรอช่างมาทาสีและตั้งใจนำไปประดับตกแต่งทั่วบริเวณบ้าน แต่เมื่อถูกทักท้วงก็ยินดีร่วมมือ โดยจะนำเศียรพระพุทธรูปลงจากรั้วทั้งหมดและจะนำไปตกแต่งภายในบริเวณบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว ส่วนใครที่อยากได้ก็ยินดีจะขายให้ในราคาต้นทุน
ด้านนายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่เข้าข่ายการดูหมิ่นหรือย่ำยีพุทธศาสนา แต่เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากพระพุทธรูปเป็นสิ่งเคารพบูชา ไม่ใชของประดับตกแต่งทั่วไป เมื่อเจ้าของให้ความร่วมมือก็ต้องขอบคุณ แต่หากยังพบว่ามีการกระทำที่ยังไม่เหมาะสมก็จะต้องให้ฝ่ายปกครองท้องที่ใช้กฎหมายที่ถืออยู่เข้าดำเนินการ
ส่วนหลังจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะประสานงานไปยังวัดทุกแห่งให้ช่วยกันสอดส่องและช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
ที่มา: http://news.sanook.com/3656418/
0 comments:
แสดงความคิดเห็น