29/12/60








ความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้หญิงมีอายุเข้าไปในอุโบสถเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ของวัดศรีสุพรรณ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งที่มีป้ายห้ามผู้หญิงเข้าแจ้งบอกไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นความเชื่อและจารีตประเพณีของชาวล้านนา แต่ยังฝ่าฝืน และต่อมีการนำเรื่องราวพร้อมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวอย่างกว้างขวาง

โดยอีกหนึ่งประเด็นที่มีการกล่าวถึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่โฆษกของวัดได้แสดงอาการโกรธเกรี้ยวกราด ตะโกนโวยวายไล่ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวลงจากอุโบสถ พร้อมทั้งมีเสียงสิ่งของในอุโบสถตกกระทบพื้น และประตูถูกกระแทกอย่างแรงด้วย

ซึ่งโฆษกของวัดอ้างว่าพฤติกรรมดังกล่าวกระทำไปอย่างไม่รู้ตัว และเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงในร่างทำให้แสดงพฤติกรรรมเช่นนั้นออกมา ซึ่งมีผู้คนและชาวชุมชนใกล้เคียงแสดงความเห็นไปต่างๆ นานา ทั้งเชื่อและมองว่าเป็นเรื่องงมงายหรือหลอกลวง




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ธ.ค.) พระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ เปิดเผยว่า ในส่วนของเรื่องที่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับโฆษกของวัด ว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงในร่างหรือไม่ จึงทำให้แสดงพฤติกรรรมดังกล่าวออกมานั้น มองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลและวิจารณญาณของแต่ละคน ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ซึ่งไม่สามารถไปชี้นำกันได้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความเชื่อที่ห้ามผู้หญิงขึ้นไปบนพระอุโบสถนั้น เป็นสิ่งที่ทางวัดห้ามและชาวล้านนายึดถือปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่โบราณอย่างแน่นอน เพราะเชื่อกันว่า หากผู้หญิงขึ้นไปบนพระอุโบสถ จะทำให้เครื่องรางของขลังที่ถูกฝังใต้พระอุโบสถจะเสื่อม และตัวผู้หญิงเองจะมีอันเป็นไป

ซึ่งทางวัดเตรียมที่จะจัดพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุโบสถเงินหลังดังกล่าวในวันที่ 31 ธ.ค.60 ในช่วงที่ทางวัดมีการจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี เพื่อความเป็นศิริมงคลและความสบายใจของทุกฝ่าย

ขณะที่ นายสวรรค์ แคว้นไธสง โฆษกของวัดศรีสุพรรณ ซึ่งเป็นผู้ที่ไล่กลุ่มผู้หญิงที่ฝ่าฝืนข้อห้ามและความเชื่อลงจากพระอุโบสถ ยืนยันว่า พฤติกรรมที่แสดงออกไปในช่วงที่ไล่ผู้หญิงลงจากพระอุโบสถนั้น กระทำไปโดยไม่รู้สึกตัวจริงๆ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยเชื่อถือเรื่องเกี่ยวกับการเข้าทรงเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น

แต่จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักษ์รักษาวัดอยู่อย่างแน่นอน ที่มาเข้าร่างของตัวเองแล้วแสดงพฤติกรรมดังกล่าวออกมา เพื่อขับไล่คนที่มาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธ์ของวัด และความเชื่อที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ทั้งนี้ เชื่อด้วยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าร่างของตัวเองนั้น น่าจะเป็นยักษ์กุมภัณฑ์ที่ปกปักษ์รักษาวัดอยู่














ที่มา: http://news.sanook.com/4783522/

24/12/60











การตำหนิติเตียนผู้อื่นถึงเขาจะผิดจริง
ก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย
ความเดือดร้อนวุ่นวายใจ ที่คิดแต่ตำหนิผู้อื่น จนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น
นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย
จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนา มาทรมานอย่างไม่คาดฝัน

การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง
เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตน ให้ได้รับความทุกข์
จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน
งดความเห็น ที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย
ความทุกข์ เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว
แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง

เมื่อเกิดมาอาภัพชาติแล้ว อย่าให้ใจอาภัพอีก
ผู้เกิดมาชาตินี้อาภัพแล้ว อย่าให้ใจอาภัพ
คิดแต่ผลิตโทษทำบาปอกุศลเผาผลาญตน
ให้ได้ทุกข์เป็นบาปกรรมอีกเลย
คนชั่ว ทำชั่วได้ง่าย และติดใจไม่ยอมลดละแก้ไขให้ดี
คนดี ทำดีง่าย และติดใจกลายเป็นคนรักธรรมตลอดไป

คติธรรมคำสอนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต














ที่มา: http://www.84000.org/supatipanno/katitam.html

23/12/60










เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดดวงดี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใกล้กับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์กลางเมืองเชียงใหม่ พระปลัดอาทิตย์ อภิวฑฒโน เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะตำบลศรีภูมิ ได้นำพระเจ้าดวงดี องค์จริง พระพุทธรูปสำคัญคู่วัดและเมีองเชียงใหม่ ออกมาให้ประชาชนได้กราบไหวสักการะ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และไม่เคยนำออกมาไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนมีเพียงองค์จำลองตั้งให้กราบไหว้แทน แม้กระทั่งพระและสามเณรในวัดหากไม่ใช้ที่บวชมานานจริงๆก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากใครเห็นและกราบไหว้ขอพระพระเจ้าดวงดี ที่จะดวงดีตลอดทั้งปี โดยเฉพาะพระพักตร์ขององค์งดงามมาก

จากการสอบถามพระลูกวัด บอกว่า หลังจากการบูรณะวิหารเก่าแก่อายุ 650 ปี เมื่อเกือบ40ปีก่อน ก็ไม่มีการนำพระเจ้าดวงดีองค์จริงออกมาให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรทำบุญ เนื่องจากเป็นประพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัดมีศิลปะสวยงามจึงไม่กล้านำออกมาไว้ในวิหารเกรงจะสูญหาย ไม่กล้าเปิดให้คนเข้าไปชม เพราะมีโบราณวัตถุล้ำค่ามาก แต่ในปีนี้ครบ 650 ปี ของการก่อสร้างวัด การบูรณะปฎิสังขรพระวิหารที่เก่าแก่ และฉลองตราตั้งเจ้าคณะตำบลศรีภูมิ ในวันที่ 23 และ 24 ธ.ค.




จะเป็นโอกาสที่ชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงจะได้กราบสักการะขอพระเจ้าดวงดี องค์จริงที่มีความสวยงามที่พระพักตร์ยิ้ม ศิลปะขององค์พระที่ไม่เหมือนเพราะทั่วไป สังเกตุที่ชายสังฆาฏิเหนืออังสา เป็นริ้วพลีทแบบสุโขทัย ไม่ได้ปลายตัดเป็นเขี้ยวตะขาบแบบพระสิงห์ทั่วไป

การอัญเชิญพระพุทธเจ้าดวงดีออกมาต้องใช้คนมากกว่า 10 คนเพราะองค์พระหนักมาก โดยองค์พระยังคงสภาพเดิมโดยไม่มีการปิดทององค์พระ โดยทางเจ้าอาวาสจะนำมาให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรในช่วงปีใหม่นี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค. 2561 นับเป็นโอกาสที่ดีจะได้ชื่นชมกกราบไหว้ขอพรเนื่องในวันปีใหม่ 2561 ต่อองค์พระเจ้าดวงดี องค์จริงเพราะที่ใต้ฐานจะมีจารึกยันต์ดวงดีและอักษรตัวเมืองที่คาดว่ามีอายุ 500-600 ปี เอาไว้
















ที่มา: https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_679975









สาวผู้โดยสารอัดคลิปเหตุการณ์ รถเมล์ถูกหนุ่มขับรถเก๋งปาดหน้า ลงมาขอชื่อ-นามสกุล อ้างว่าอยู่กรมขนส่ง จะขอชื่อไปสลักหลังบัตรพร้อมบอกจะให้โชเฟอร์ไม่ได้ขับรถอีก

(22 ธ.ค) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปและข้อความว่า "เหตุเกิดบนรถสาย 516 ระหว่างหน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า รถเมล์จะเข้าจอดป้ายตามปกติ ก็มีรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ขับมาปาดหน้าถึง 2 รอบ เพื่อที่จะเข้าห้าง (ที่เห็นเพราะนั่งข้างฝั่งกระจก) แล้วก็จอดไม่ยอมถอยหรือเดินหน้าออก สักพักโชเฟอร์ก็เรียกตำรวจจราจรแถวนั้นมา เพื่อให้ถอยหรือขยับออก เพราะผู้โดยสารนั่งอยู่เต็มคันรถ"

"คนขับรถเก๋งเปิดกระจกมาด่าชี้หน้า แล้วบอกให้โชเฟอร์ลงจากรถ แต่ทางโชเฟอร์ไม่ลง คนขับรถเก๋งจึงเดินมาโวยวายขึ้นมึงกูแถมบอกเรียนสูง อยู่กรมขนส่ง จะขอชื่อไปสลักหลังบัตรพร้อมบอกจะให้โชเฟอร์ไม่ได้ขับรถอีก โชเฟอร์และพี่กระเป๋าพูดจาดีมาก"

"ย้ำ! พูดจาดีมาก แต่ก็โดนด่าพร้อมเน้นว่าขอชื่อ พี่กระเป๋าเลยบอกให้ไปเอาหมายเลขรถ เพราะถ้าใหญ่จริงก็เช็คเลขรถ เช็กชื่อคนขับได้ แต่ทางคนขับรถเก๋งไม่ยอมจะเอาชื่อ สุดท้ายพี่โชเฟอร์เลยให้ไป และคนขับเก๋งก็จากไปแบบงงๆ #คือเขาเป็นใครใหญ่ขนาดไหน"

เมื่อคลิปดังกล่าวเผยเเพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาเเสดงความคิดเห็นจำนวนมาก หลายความคิดเห็นโพสต์ชื่นชมโชเฟอร์รถเมล์กับกระเป๋ารถเมล์ที่สามารถควบคุมอารมณ์และโต้ตอบอย่างสุภาพ















ที่มา: http://news.sanook.com/4700926/

20/12/60









ผมถึงกับช็อค มาก เพราะมันเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อได้ฟังจากปากคุณหมอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแค่ 8 ปี ในตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เมอๆ ลอยๆ ผมไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจ มาก่อน ในหัวผมคิดแต่ว่า ผมจะร้องเพลงต่อได้อย่างไร ผมรักในการร้องเพลงอย่างมากที่คอยมอบความสุขให้กับแฟนๆ อยู่เสมอ คำว่า 8 ปี มันไม่ได้นานเลยนะครับ ยิ่งเราสนุกกับอาชีพนี้ทุกวันมันยิ่งผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว

ทำไมหมอถึงบอกว่าผมอยู่ได้แค่ 8 ปี ก็เพราะเกิดขึ้นมาจากช่วงที่ผมโหมงานหนักทั้งงานแสดง เล่นคอนเสิร์ต อัดรายการต่างๆ  เพราะว่าตอนนั้นผมอายุประมาณ 45-46 ก็เลยอยากเร่งเก็บเงินเพื่อครอบครัว เพื่ออนาคตลูก จนลืมดูแลตัวเอง ทั้งกินและนอนก็ไม่เป็นเวลา ประทังชีวิตด้วยเครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ ยังไม่พองานเลี้ยงงานคอนเสิร์ตต่างๆ ทีมงานก็ชวนดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปอีก  เวลาปวดหัวก็กินยาเอา แค่นั้นแหละครับ แล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือผม วูบ หน้ามืด สลบลงไปบนพื้น  ดีนะครับที่หัวไม่ฟาดกับพื้น  พอเริ่มรู้สึกตัว ผมรีบไปหาหมออย่างด่วน จนได้คำตอบว่า มีภาวะตับโต มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นมะเร็งตับ และประโยคที่โหดร้ายที่สุดก็คือ จะมีชีวิตอีกได้ไม่นาน



ช็อคมาก แต่จะให้ไปโทษใครได้ ของที่เรากินเข้าไปทำลายตับทั้งนั้น ในเวลานั้นต้องยอมรับสภาพ ตอนนั้นตันมากๆ ไม่รู้จะทำยังไง จนปล่อยตัวเองยิ่งไปกว่าเดิมอีก  พอเริ่มคิดได้ผมเลยกลับมาลุกขึ้นสู้ เพราะยังไงยังอยากเก็บเงินก้อนสุดท้ายไว้ให้ลูก เลยหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น อะไรที่วางขายในท้องตลาดที่คิดว่าดีผมจัดมาหมดเหมือนกัน แต่สภาพก็ยังเหมือนเดิม และหนักกว่าเดิมคือเป็นไข้บ่อยขึ้น ตาเหลือง ผิวดำกร้าน เจ็บจุกบริเวณชายโครง แล้วมีวันหนึ่งได้เจอแฟนคลับที่ไปดูผมร้องเพลง แฟนๆ ทักว่า ทำไมพ่อยิ่งดูโทรมจัง ดูไม่มีเรี่ยวแรง สร้างความสนุกไม่เหมือนเดิม ผมเลยบอกแฟนคลับไปอย่างตรงๆ ว่าตอนนี้ร่างกายไม่ค่อยโอเค เพราะค่าตับมันสูงขึ้น ทำงานได้น้อยลง  แฟนคลับผมฟังแล้วถึงกับอึ้งและน้ำตาซึมๆ เขาเลยพูดขึ้นมาให้กำลังใจ เลยแนะนำอาหารเสริมมาตัวนึง เป็นโสมผสมเห็ดหลินจือแดง แอบคิดในใจนะยายังเอาไม่อยู่อาหารเสริมจะไหวหรอ แต่มาสะกิดกับคำพูดของพี่คนนี้ว่า “พี่อายุมากกว่าพ่อยิ่งอีก ยังแข็งแรง พ่อยิ่งต้องสู้ อย่าหมดกำลังใจ แฟนคลับทุกคนอยากกลับมาดูพ่อยิ่งคนเดิม พี่เชื่อว่าพ่อยิ่งกลับมาแข็งแรงได้” มันโดนใจผมมากๆ  ผมเลยตัดสินใจลองสักตั้งไปหามาลองกิน


 ผลปรากฏว่าแค่ 2 เดือน มันรู่สึกว่า กระปรี่กระเปร่าขึ้น  สมองโล่ง ผ่อนคลายมาก ผิวกลับเป็นเหมือนเดิม อาการเจ็บจุกที่ตับลดลง ผมเลยยังมีหวังกับการสร้างความสนุกให้กับแฟนคลับและเก็บเงินให้ลูกเพิ่มขึ้น จากคำว่า 8 ปี ตอนนี้ผมสามารถอยู่ได้ใช้ชีวิตกลับมาเป็นปกติได้อย่างสมบูรณ์ ลองไปตรวจตับอีกครั้ง ผลออกมา หมอยังถาม ไปทำอะไรทำไม ค่าตับลดลงจนปกติได้เร็วขนาดนี้ ผมทานโสมผสมเห็ดหลินจือสกัดครับ นี่คือคำตอบ




ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าโสมเกาหลีที่กล่าวขานกันมานาน ช่วยอะไร บำรุงร่างกายยังไง โดยเฉพาะ โสมเกาหลีผสมเห็ดหลินจือสกัดของ จีทูเอ็กซ์ ที่ช่วยชีวิตผมเนี้ย คือโสมแดงเกาหลี ปลูกให้ได้อายุ 6 ปี แล้วเก็บมาอบด้วยอุณหภูมิ 50 -60 องศา ก่อนนำมาสกัดด้วยนวตกรรมขั้นสูง ที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ ยังไงคนที่มีอาการเหมือนผมหรือคล้ายๆ ก็สามารถลองทานได้เช่นกันนะครับ วันนี้ผมอยากมาบอกต่อ สร้างสุขภาพที่ดี ต่อยอดชีวิตให้กับคนทางบ้าน ดูผมไว้นะครับ ยิ่งยง ยอดบัวงาม ที่จะมีชีวิตได้อีกไม่กี่ปี แต่ปัจจุบันนี้ผมอยู่เกินจุดนั้นมาแล้ว แล้วคุณจะรอกันจนกลับไปแก้ไขไม่ได้กันอีกหรือ














ที่มา: https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_673229

16/12/60










ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ธ.ค.) ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ ภายในวัดม่วง ถ.สุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งได้มีการนำซากไม้ต้นตะเคียนโบราณ อายุกว่า 1,000 ปี มาตั้งไว้ภายในศาลา และตั้งชื่อซากไม้ตะเคียนว่า “เจ้าแม่สุมาลัย-เจ้าแม่สุมาลี”


โดยซากไม้ตะเคียนดังกล่าว เคยให้โชคลาภชาวบ้านมาแล้วหลายงวด ทำให้งวดนี้มีชาวบ้านเดินทางมาขอโชคลาภกันอย่างต่อเนื่อง โดยชาวบ้านหลายคนที่มา ต่างก็ได้เสี่ยงเซียมซี บางรายก็จุดธูปอธิษฐาน เพื่อขอเลขเด็ด เพราะใกล้จะถึงวันหวยออกในวันพรุ่งนี้แล้ว




จากการสอบถาม นายสุพล อายุ 62 ปี มัคทายกวัดม่วง กล่าวว่า ไม้ตะเคียนคู่นี้ได้มาจากเถ้าแก่ไทยศิลป์ ซึ่งถูกขุดพบที่บ่อทราย อ.ท่าช้าง จ.นครราชสีมา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้นำมาถวายเนื่องจากว่าพระมหาอำนาจ รองเจ้าอาวาสวัดม่วง ได้ฝันว่ามีเจ้าแม่ตะเคียนมาเข้าฝันขอมาอยู่ที่วัด จึงได้เดินทางไปดูและขอกับเถ้าแก่ไทยศิลป์ให้เจ้าแม่ตะเคียนมาอยู่ที่วัดม่วง


โดยเจ้าแม่ตะเคียนมีชื่อว่า เจ้าแม่สุมาลัยและเจ้าแม่สุมาลี ซึ่งเป็น 2 พี่น้อง ขนาดความยาวของต้นตะเคียนเจ้าแม่สุมาลัยมีความยาว 11 เมตร ส่วนเจ้าแม่สุมาลี มีความยาว 9 เมตร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านผู้ศรัทธา มาขอโชคลาภได้ผลสำเร็จแล้วหลายงวด

ด้าน น.ส.สุพินทา อายุ 39 ปี กล่าวว่า ตนเองนั้นได้มาขอโชคลาภกับเจ้าแม่สุมาลัย-เจ้าแม่สุมาลี ซึ่งได้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลเลขท้าย 2 ตัวตรง เมื่องวดที่แล้ว (1 ธ.ค.) ดังนั้นงวดนี้จึงมาขอโชคลาภอีก ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

โดยครั้งนี้ได้นำชุดไทยสีชมพูมาถวายแก่เจ้าแม่สุมาลัย-เจ้าแม่สุมาลี วิธีการของตนนั้นคือจะเขย่าเสี่ยงเซียมซี ปรากฏว่าเลขของไม้เซียมซีครั้งนี้ ได้แก่เลข 21 ก็จะไปหาเสี่ยงโชค รอลุ้นผลการออกรางวัลในวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) ต่อไป












ที่มา: http://news.sanook.com/4615618/









คนสุรินทร์ไม่พลาดไปที่นา สอ กระดูกผี ส่องเลขเด็ดแห่งแรงบันดาลใจ หลังพบปลีกล้วยน้ำว้าผุดขึ้นมาจากใต้ดิน

เมื่อคืนวานนี้ (15 ธ.ค.) หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าวการพบปลีกล้วยประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ใกล้กับต้นกล้วยต้นใหญ่ในที่นา ซึ่งปลูกพืชแบบผสมผสาน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยเป็นที่นาของนายอนุรักษ์ อายุ 49 ปี หรือที่ชาวบ้านยางเรียกกันว่า สอ กระดูกผี


โดยปลีกล้วยประหลาดมีลักษณะขึ้นโผล่จากพื้นดิน สูงประมาณ 1 ฟุตกว่า ลำต้นโค้งงอเอนลงด้วยน้ำหนักของหัวปลี และยังมีเครือกล้วย ออกผลกล้วยอีก 2 หวี หวีแรกมีผล 3 ลูก และอีกหนึ่งหวี มีผลกล้วย 5 ลูก ซึ่งเจ้าของที่นาได้นำตุ๊กตากุมารผมจุกมาตั้งวางไว้ เพื่อให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวมากราบไหว้บูชา




นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณดังกล่าว เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา สอ กระดูกผี ได้เริ่มลงมือปรับพื้นที่ เพื่อทำไร่นาสวนผสม ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมจ้างรถแบ็คโฮมาขุดลอก เพื่อปรับพื้นที่ทำเป็นไร่นาส่วนผสม และกลับขุดพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยโบราณสมัยยุคเหล็กบรรจุอยู่ในไหดิน อายุประมาณ 1,500 ปี ตามที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เคยเข้าไปตรวจสอบและระบุไว้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุดตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา พบว่ามีชาวบ้านจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งอำเภอที่ทราบข่าว ต่างได้พากันทยอยเดินทางมาเพื่อจุดธูปเทียนกราบไหว้ เพื่อขอโชคลาภตามความเชื่อของชาวบ้าน โดยเฉพาะเลขเด็ด ก่อนผลสลากกินแบ่งรัฐบาลจะประกาศในช่วงบ่ายวันนี้ ก็เพื่อนำไปชื้อหวยรัฐบาลต่อไป ซึ่งทุกคนหวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนี้จะดลใจให้โชค












ที่มา: http://news.sanook.com/4618515/

15/12/60









ชาวบ้านขนหัวลุก พบบ้านผี 6 หลัง วางเรียงรายสุดวังเวงริมถนน สร้างความหวาดผวาในยามค่ำคืน


(15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนนำเอาบ้านน้อย หรือ เฮือนน้อย กลายกับศาลพระภูมิแต่เป็นที่ศาลไว้สำหรับในวิญญาณเร่ร่อนสิงสถิตตามความเชื่อ โดยพบว่ามีการนำมาทิ้งไว้ริมถนนสายแม่สอด-ทุ่งหลวง อ.แม่ระมาด จ.ตาก สร้างความหวาดผวาแก่คนท้องที่เป็นอย่างมาก

เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบกับเฮือนน้อย ขนาดประมาณ 3 คูณ 3 ศอก วางเรียงรายอยู่ 6 หลัง โดยพบว่าสภาพยังค่อนข้างใหม่ ถูกนำมาตั้งทิ้งไว้ในทุ่งหญ้าข้างทาง พร้อมกับมีรอยปากกาเขียนตัวอักษรระบุชื่อไว้ที่ฝาบ้านเฮือนน้อยด้วย ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นชื่อของคนเสียชีวิต




นางหม่องเล ชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ห่างออกไปราวๆ 500 เมตร ก่อนจะมาพบกับเฮือนน้อยเหล่านี้วางเรียงรายอยู่ในป่าหญ้า ทำให้รู้สึกหวาดกลัวอาถรรพ์ โดยเฉพาะยามค่ำคืนเมื่อต้องผ่านเส้นทางดังกล่าว รู้สึกวังเวงและสะพรึงกลัวทุกครั้ง

ขณะที่ผู้สูงอายุได้เล่าถึงที่มาที่ไปของเฮือนน้อยเหล่านี้ว่า คนโบราณจะเรียกว่า ตานเฮือนน้อย หรือ ปอยข้าวสังข์ เป็นพิธ๊กรรมของชาวบ้านทางภาคเหนือ คำว่า "เฮือนน้อย" เป็นภาษาถิ่นหมายถึง “บ้านหลังน้อย" ในที่นี้หมายถึง เล็ก ส่วน ตาน หมายถึง ถวายทานนั่นเอง

ตานเฮือนน้อย หมายถึง การทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการสร้างบ้านจำลองหลังเล็กไปให้ เป็นความเชื่อของคนไทยภาคเหนือ เกรงว่า เมื่อตายไปแล้วดวงวิญญาณอาจจะตกทุกข์ได้ยาก อดอยากหรือได้รับทุกข์เวทนา ทางญาติพี่น้องจึงได้ทำบุญ โดยใช้ประเพณีทำตานเฮือนน้อยส่งไปให้ เมื่องานเสร็จงานก็จะไปทิ้งไกลๆ จากหมู่บ้านหรือตามป่าช้า














ที่มา: http://news.sanook.com/4606891/

13/12/60









เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี จางวาง มหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ที่บ้าน

ครั้นพลบค่ำ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆังมายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์ “เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์”

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยเจ้ามีคุณเช่นไรการสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผลจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ

• เมื่อฟังธรรม

• เมื่อแสดงธรรม

• เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์

• เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น

• เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ





การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน

การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

• กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม

• ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย

• วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว

อาตมาภาพ ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดังพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

* ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

* ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอยได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์มีอยู่จำนวนมาก ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดาทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดี จะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล..

จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต พรหมรังษี










ที่มา: http://www.winnews.tv/news/21093

12/12/60







บรรดาคอหวยไม่พลาด วันพระแรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย แห่ทำบุญสักการะปู่ย่าที่เกาะคำชะโนด พบเลขเด็ดโผล่ออกมาจากต้นชะโนด

(11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี รายงานว่า บริเวณต้นมะเดื่อยักษ์อายุนับร้อยปี ภายในเกาะคำชะโนดดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ วังพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีประทุมมา ซึ่งตรงกับวันพระแรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย หรือเดือน 1 มีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ที่เกาะคำชะโนดวังนาคินทร์ บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อขอพรขอโชคลาภถือว่าวันพระเป็นวันสำคัญ


หลังจากนักท่องเที่ยวมาถึงเกาะคำชะโนดแล้ว จะเดินเข้าไปภายในเกาะเพื่อไหว้ปู่และย่า เชื่อว่าปู่และย่าคงให้โชคลาภกันตามความเชื่อ และเข้าไปภายในบริเวณต้นมะเดื่อยักษ์ อายุนับร้อยปี เพื่อกราบขอพร จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามบริเวณเพื่อหาเลขเด็ด ทุกวันนี้อาวุธที่สำคัญหาเลขเด็ดคือโทรศัพท์ เนื่องจากทางกรรมการห้ามนำแป้งมาทาต้นไม้




สำหรับบรรดาคอหวยหาเลขเด็ดที่เพิ่งเดินทางมายังเกาะคำชะโนดเป็นครั้งแรก เมื่อได้เห็นกับตาว่าการหาเลขเด็ดเป็นเรื่องยากมาก เพราะอยู่กับโชคลาภของแต่ละคน อย่างเช่น คนกลุ่มหนึ่งที่เดินไปเจอเลขเด็ดที่ต้นชะโนด ซึ่งทุกคนบอกว่ามองไปเห็นเลข 4 บนต้นชะโนดชัดเจนมาก แต่ตัวที่สองไม่ค่อยแน่ใจ บางคนก็มองเห็นเป็นเลข 8 จึงหยิบมือถือมาถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนจะร่วมกันตัดสินใจว่าเป็นเลข 48 หรือ 34 แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน










ที่มา: http://news.sanook.com/4568730/

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget