29/4/61










อย่ามองข้าม วิธีแก้ตะคริวได้ผล 100% มีโอกาสหายภายใน 1 นาที

หลายคนเคยเป็นตะคริวด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเป็นตะคริว กล้ามเนื้อจะมีการหดตัวและกระชับแน่น ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดและไม่สบายตัว อาการนี้จะเกิดขึ้นในเวลาแค่ไม่กี่วินาที คนส่วนใหญ่ที่เคยมีประสบการณ์ ก็มักจะตื่นขึ้นมาก่อน หรือไม่ก็เดินเล่นก่อนที่จะเข้านอน

ตะคริวไม่ถือเป็นอาการที่ร้ายแรงทางการแพทย์ เพราะมันสามารถเกิดจากปัญหาสุขภาพได้หลายสาเหตุ ภาวะขาดน้ำคือหนึ่งในนั้น ในเวลาอื่นๆ ตะคริวสามารถเกิดขึ้นได้เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือเกิดจากโรคเท้าแบน ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น พวกเขาจะถูกบ่งชี้ว่าเป็นโรคไต

ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องมาจากผลของการฝึกหนัก กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บ และขาดการออกกำลังกายเป็นระยะเวลานาน






ในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น มันอาจเกิดมาจากผลของการกินยาที่เกี่ยวข้องกับการคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ และสเตียรอยด์ ขณะเดียวกัน การขาดโพแทสเซียมในร่างกายหรือสภาพอากาศหนาวเย็นก็สามารถทำให้เกิดตะคริวได้

วิธีแก้ตะคริวที่น่องหายได้ผล 100% ภายใน 1 นาที ก่อนนี้ผมจะเป็นตะคริวที่น่องประจำ ส่วนมากจะเป็นตอนนอนกำลังฝันดีๆ คนที่บ้านก็เป็น เวลาเป็นนี่บอกเลยทรมานมาก ร้องหาคนมานวดให้ประจำ ได้วิธีแก้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง และได้ทดลองทำตามไม่ถึง 1 นาทีหายจริงๆ

คนที่บ้านได้ทำตามก็หาย และไม่เคยเรียกให้ใครมานวดให้อีกเลย วิธีแก้ นอนราบกับพื้น ให้ยกเท้าที่เป็นตะคริวขึ้นสูงประประมาณสองคืบแล้วเหยียดปลายเท้าให้ตึง

ยกแขนฝั่งที่ไม่เป็นขึ้น แล้วโน้มแขนไปด้านหลังให้ติดใบหูให้ตึง ไม่ถึง 1 นาทีหายแน่นอน สมมุติเป็นตะคริวขาขวา ยกขาขวาขึ้นเหยียดปลายเท้าให้ตึง ยกแขนซ้ายขึ้นโน้มไปด้านหลังให้ตึ่ง

นับ 1-10 ในใจ พอถึง 10 ท่านจะหายปวดทันที


ส่วนคนที่ จะลงว่ายน้ำอันนี้อันตรายมากเพราะเมื่อคุณเป็นตะคริว คุณจะหมดแรงในทันที วิธีป้องกันคือ ยืดหยุ่น หรือ วอมร่างกายก่อน ลงน้ำส่วนที่ตื้น เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย ไม่ใช่กระโดลงทีเดียว และ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว อย่าปล่อยให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ และนี่ยังช่วยคุณควบคุมปัญหาในเรื่องของการขับเหงื่อและคลื่นความร้อนอีกด้วย

สาเหตุของตะคริว

1. มีการออกกำลังกายมากเกินไป หรือใช้กล้ามเนื้อขามากเกินไป

2. ยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน เช่นนั่งนำงาน หรือยืนทำงานนานๆโดยไม่มีการพักขา (ใครเป็นพยาบาล หรือ พนักงานต้อนรับอาจจะมาจากกรณีนี้ได้)

3. ร่างกายขาดเกลือแร่บางชนิดหรือ ได้รับโพแทสเซียม แคลเซียมไม่เพียงพอ

4. มีภาวะการขาดน้ำ ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือร่างกายเสียเหงื่อมากเกินไป (อากาศร้อนๆแบบบ้านเรานี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุได้) ออกกำลังกายเวลาเท่าไรควรดื่มน้ำเท่าไร เรามีคำตอบ??

5. ทานยาบางชนิด เช่น ยาทางจิตเวช ยาคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมัน สเตียรอยด์

6. คนที่มีเท้าแบน (flat feet)

7. คนที่เป็นโรคไทรอยด์






บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน









ที่มา:https://www.share-si.com/2018/04/100-1.html









พระสงฆ์วัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ พร้อมด้วยพระสงฆ์นานาชาติเมืองกุสินารา นำประกอบพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะแก่ชาวอินเดียกว่า 500 คนที่ริมฝั่งแม่น้ำกกุธานที เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก






วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๓๐ น. เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก (ตรงกับประเทศอินเดีย ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒) พระสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ พร้อมด้วยพระสงฆ์นานาชาติเมืองกุสินารา เดินทางไปในพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ของชาวอินเดียท้องถิ่นกว่า ๕๐๐ คน ที่ริมฝั่งแม่น้ำกกุธานที เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ซึ่งตรงกับวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน โดยในปีนี้เมืองกุสินารา ได้จัดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๐ เมษายน ๒๕๖๑ กิจกรรมบิณฑบาต กิจกรรมทำความสะอาดแม่น้ำหิรัญวดี กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียน กิจกรรมแสดงตนเป็นพุทธมามกะ แสดงพระธรรมเทศนา และขบวนแห่พุทธยาตรา สนติภาพโลกรอบเมืองกุสินารา-เมืองกยา ๘ กิโลเมตร


ในมหาปรินิพพานสูตรกล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงเสวยภัตตาหารมื้อสุดท้ายจากบ้านนายจุนทะแล้ว ทรงกระหายน้ำ จึงรับสั่งให้พระอานนท์ตักน้ำมาถวาย พระอานนท์กราบทูลให้พระองค์ทรงไปที่แม่น้ำกกุธานทีซึ่งมีน้ำจืด ใสเย็น ทั้งมีท่ารื่นรมย์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเสวยน้ำและสรงชำระพระกาย ก่อนจะเดินทางถึงสาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน











ที่มา:https://www.winnews.tv/news/23439








เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561 ที่วัดสุริยาราม จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา มีพิธีตัดปอยผม แห่นาค “โครงการบรรพชาสามเณรเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา” ซึ่งพิธีบรรพชาจัดขึ้นในเทศกาลวิสาขบูชา โดยประเทศกัมพูชาจัดงานวันวิสาขบูชาในวันที่ 29 เมษายน ก่อนวันวิสาขบูชาของไทยประมาณ 1 เดือน ระหว่างการอบรมธรรมทายาทได้ฝึกฝนตนเองตามพุทธวิธี ศึกษาธรรมะทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ เช่น การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เรียนรู้พุทธประวัติ กฎแห่งกรรม พระคุณบิดามารดา เป็นต้น โดยใช้ระยะเวลาอบรมระหว่างวันที่ 18 เมษายน - 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 พระอาจารย์สุขคิม เจ้าอาวาสวัดสุริยาราม เปิดเผยว่า เคยเดินทางมาศึกษาดูงานที่วัดพระธรรมกาย จึงเกิดแรงบันดาลใจจัดงานบวชที่เป็นระบบ ระเบียบ เรียบร้อยเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา และเพื่อขยายผลสู่การเป็นงานบรรพชาสามเณรต้นแบบฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศกัมพูชาด้วย






โดยพระอาจารย์สุขคิม เจ้าอาวาสวัดสุริยาราม เปิดเผยว่า เคยเดินทางมาศึกษาดูงานที่วัดพระธรรมกาย จึงเกิดแรงบันดาลใจจัดงานบวชที่เป็นระบบ ระเบียบ เรียบร้อย เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา และเพื่อขยายผลสู่การเป็นงานบรรพชาสามเณรต้นแบบฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศกัมพูชาด้วย














ที่มา:https://www.winnews.tv/news/23440

28/4/61










สะพรึงขั้นสุด สาวจีนซื้อไอศกรีมถั่วแดงมากินแก้ร้อน กัดไปกัดมาเจอบางสิ่งยาว ๆ เหนียว ๆ แถมมีขน พอดูดี ๆ แทบกรี๊ดสลบ เพราะมันคือหางหนู เจ้าตัวเรียกค่าเสียหายเกือบ 250,000 แต่ร้านไม่ยอม สุดท้ายจึงไปจบที่โรงพัก

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หยาง หญิงสาวชาวจีนจากเมืองหวยอัน มณฑลเจียงซู ออกไปเที่ยวกับเพื่อน และได้แวะซื้อไอศกรีมหวานเย็นรสถั่วแดงมากินดับร้อน เธอละเลียดมันด้วยความฟิน ความหวานชุ่มฉ่ำของถั่วแดงกวนเน้น ๆ เต็มคำ เย็นชุ่มฉ่ำ เข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเธอกินไปเรื่อย ๆ ก็กัดไปโดนอะไรบางอย่าง มันให้รสสัมผัสที่แปลกมาก เพราะทั้งเหนียว หนึบ มีขน แถมยาวอีกต่างหาก


หยางเอาไอศกรีมออกจากปากและมองดูมันอย่างฉงน เธอยื่นให้เพื่อนดูพร้อมให้ช่วยวิเคราะห์ว่ามันคืออะไรกันแน่ เพื่อนสาวมั่นใจมาก คิดว่าเป็นหนอนบุ้งชัวร์ ๆ เธอจึงคว้าหมับเข้าให้และจะดึงออกมาให้เห็นชัด ๆ แต่มันติดแน่นมาก ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก สองสาวจึงช่วยกันพิจารณาอีกที ส่องไฟดูให้เห็นชัด ๆ และความอร่อยทั้งหมดที่มีก็มลายหายไป กลายเป็นความสยดสยองมาแทน.....






 โดยจากการรายงานของเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 ระบุว่า บางสิ่งดำ ๆ ยาว ๆ และมีขน ที่อยู่ในไอศกรีมถั่วแดงของหยาง มันเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากหางหนู หยางพะอืดพะอมขมคอสุดทน อยากจะร้องไห้เพราะกินโปรตีนดังกล่าวเข้าไปแล้ว แถมเคี้ยวอีกต่างหาก หลังจากตั้งสติได้ เธอจึงเดินกลับไปที่ร้านค้าพร้อมกับถือไอศกรีมแท่งนั้นกลับไปด้วย และเล่าให้คนขายฟังว่าเธอพบเจออะไรมา

เมื่อคนขายเห็นไอศกรีมที่มีหางหนูโผล่ออกมาชัดเจนขนาดนั้น จะอ้างว่าเป็นถั่วแดงที่กวนนานไปหน่อยก็คงยาก เขาจึงเสนอไอติม 1 โหลให้กับหยางแบบฟรี ๆ เป็นค่าเสียหาย ซึ่งหยางไม่รับ เขาจึงเสนองินค่าเสียหายให้เธอ 800 หยวน หรือประมาณ 4,000 บาท แต่หยางก็ยังปฏิเสธอีก เขาจึงเพิ่มอีกเป็น 2,000 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท หยางก็ยังคงไม่พอใจกับเงินจำนวนนี้ และเรียกร้องเงินค่าเสียจำนวน 50,000 หยวนถ้วน หรือประมาณ 249,200 บาท

คนขายไม่ยอมตกลงกับจำนวนเงินที่หยางเสนอ เพราะมันสูงเกินไป เรื่องจึงไปจบที่สถานีตำรวจ ซึ่งโชคร้ายสำหรับหยาง เพราะเจ้าหน้าที่กล่าวว่า สำหรับกรณีเช่นนี้ ผู้เสียหายจะได้เงินค่าตอบแทนเต็มที่ไม่เกิน 1,000 หยวน หรือแค่ประมาณ 5,000 บาท เท่านั้น แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย และที่แน่ ๆ ก็คือ หยางคงจะเข็ด ไม่กล้ากินไอศกรีมรสถั่วแดงไปอีกนาน











ที่มา:https://hilight.kapook.com/view/171570

27/4/61









ชาวบ้านแห่นำรถเครนยกต้นตะเคียนอายุกว่า 200 ปี กลางเจ้าพระยา อัญเชิญขึ้นฝั่งก่อนนำตั้งบูชาวัดดัง หลังมีบางอย่างดลใจ หญิงสาวบอกอยากขึ้นจากน้ำ ด้านเซียนหวยไม่พลาดส่องเลข

(27 เม.ย.) รถเครนขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านใน ต.ย่านซื่อ และ ต.ตลาดกรวด รอบวัดตาลเจ็ดช่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง รวบรวมเงินกว่า 10,000 บาท จ้างมาเพื่อยกต้นตะเคียนขนาดใหญ่กว่า 3 คนโอบ ซึ่งจมอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการยกต้นตะเคียน


ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนทองขึ้นมาจากน้ำ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีกิ่งก้านยาวกว่า 10 เมตร ก่อนที่จะนำใส่รถบรรทุกและอัญเชิญมาไว้ที่ลานวัด เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมามุงดุเป็นจำนวนมาก






โดยการเคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะขนาดของต้นตะเคียนที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบกับเส้นทางจากจุดที่พบมายังวัดมีทางที่แคบ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้าย


นายต๋อย อายุ 50 ปี ชาวบ้านคนหนึ่งเปิดเผยว่า ตนกับชาวบ้านได้ลงข่ายจับปลา ช่วงน้ำลดมีชาวบ้านหลายคนลงข่ายแล้วไปติดต้นไม้ขนาดใหญ่ใต้น้ำ ด้วยความแปลกใจจึงชวนเพื่อนๆ ดำลงไปดูและพบว่าเป็นต้นตะเคียนขนาดใหญ่ 1 ต้น และมีต้นกระท้อนกับก้ามปูขนาดเล็กอีก 2 ต้น


หลังจากนั้นจึงได้มาคุยปรึกษากับชาวบ้านว่ามีต้นตะเคียนอยู่ด้านล่าง และเมื่อผ่านไปหลายวันจู่ๆ ก็เหมือนมีสิ่งดลใจให้รู้สึกว่ามีผู้หญิงมาบอกให้เอาขึ้นจากน้ำ และขอไปอยู่ที่วัดตาลเจ็ดช่อ ตนจึงปรึกษากับเพื่อนๆ ก่อนช่วยกันนำขึ้นในวันนี้

ขณะที่บรรดาชาวบ้านและเซียนหวยที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปดูเป็นจำนวนมาก บางรายก็รอจนกระทั่งเชิญแม่ตะเคียนขึ้นมาอยู่ที่ลานวัดแล้ว ก็นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป บางรายต่างนำโทรศัพท์มาส่องตามจุดต่างๆ เพื่อหาเลขนำไปเสี่ยงโชคตามความเชื่อส่วนบุคคล โดยส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเลข 5 กับเลข 9 ขณะที่อีกหลายคนนำเลขทะเบียนรถที่ใช้เคลื่อนย้ายไปเสี่ยงโชครอลุ้นผลสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกด้วย













ที่มา:https://www.sanook.com/news/6215242/









คนพะเยาแห่ขอเลขเด็ด จากต้นเรืองยักษ์อายุ 500 ปี ขนาด 36 คนโอบ ตั้งอยู่ทางเข้าด้านข้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านตุ่น มาเน้นๆ 2 ตัว 3 ตัว

(28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาชาวบ้านต่างพากันไปขอโชคลาภ จากต้นเรือง หรือ ต้นผึ้ง ซึ่งมีผึ้งมาทำรังมากกว่า 30 รัง และมีอายุหลายร้อยปี ในพื้นที่บ้านตุ่น หมู่ 3 ต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา พบชาวบ้านจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ขอโชคลาภ โดยต้นเรืองมีขนาดความยาว 36 คนโอบ สูง 25 เมตร อายุประมาณ 500 ปี


นายสวัสดิ์ ปานา ผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 ต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา เปิดเผยว่า ต้นเรือง อายุกว่า 500 ปี ซึ่งเป็นที่ทำรังของผึ้งหลวงกว่า 30 รัง บริเวณปากทางเข้าด้านข้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านตุ่น และต้นเรืองหรือ ต้นผึ้ง ต้นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยาและเก่าแก่ที่สุดที่พบเห็น






ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านตุ่น ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ทำการอนุรักษ์ต้นเรือง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นที่อยู่อาศัยของผึ้งหลวง มาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน และพบว่าในบริเวณที่ต้นเรืองอยู่นั่นได้แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่ว ทำให้เกิดความร่มรื่นและเย็น


เป็นเหตุทำให้ประชากรผึ้งที่มาทำรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะไม่ถูกรบกวน จึงตั้งศาลเจ้าพ่อเรืองขึ้น เพื่อเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านชุมชนบ้านตุ่น มาตั้งแต่สมัยโบราณโดยต่างเชื่อว่าเจ้าพ่อเรืองจะปกปักรักษาคุ้มครองและให้โชคลาภชาวบ้านให้อยู่ดีมีสุขและยังให้การช่วยเหลือ


หากมีใครมาบนบานขอให้เจ้าพ่อเรืองช่วยเหลือ และผู้ที่มาขอให้ท่านช่วยก็จะประสบผลสำเร็จไปตามๆกันสำหรับเลขเด็ดที่ชาวบ้านเห็นครั้งนี้มีหลายเลข อาทิ 360-250-530-35 แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล หรือโชคใครโชคมัน แล้วแต่ท่านเจ้าพ่อเรืองจะให้ เมื่อมีได้โชคพอถึงเวลาหรือประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อเรืองก็พากันเอาข้าวปลาอาหาร คาวหวาน และเครื่องดื่มมาเซ่นถวายเป็นประจำทุกปี











ที่มา:https://www.sanook.com/news/6215370/

26/4/61











พระคาถาต่ออายุ (ฉบับหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน)

พระคาถาต่ออายุ

อิติปิ โส ภะคะวา พระอาทิตย์เทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระจันทร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระอังคารเทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระพุธเทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระพฤหัสเทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระศุกร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระเสาร์เทวา วิญญาณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา พระเกตุเทวา วิญญาณะสัมปันโน






อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง

อิติปิ โส ภะคะวา สัมมา สัมพุทโธ

อิติปิ โส ภะคะวา วิชาจะระณะสัมปันโน

อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต

อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู

อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ

อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง

อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ

อิติปิ โส ภะคะวา ภะคะวา ภะคะวาติ


พระคาถาต่ออายุฉบับดังกล่าว ข้าพเจ้ามิได้เขียนขึ้นมาเอง แต่คัดลอกมาจากหนังสือสวดมนต์ที่หลวงปู่ได้มอบไว้ให้ เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม ๒๕๔๓ ที่บ้านตะเคียนราม

บ้านเลขที่ ๕๒ หมู่ ๑๔ ต. ตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และประกอบกับหลวงปู่ได้ขอที่จะมาอยู่ด้วยที่บ้านหลังนี้ เพื่อให้หายจากอาการป่วยของหลวงปู่ ตัวข้าพเจ้าเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคาถาดังกล่าวหมายถึงอะไร

หลวงปู่ให้ไว้ทำไม เมื่อวันที่กล่าวเวลาประมาณตีหนึ่งเศษๆ หลวงปู่ก็ได้พูดว่า มาให้หายก็คงไม่หายและก็ได้ออกจากบ้านหลังนี้

รวมระยะเวลาแล้วก็คงจะประมาณ ๑๕ ชั่วโมง ก็มีข่าวว่าหลวงปู่ได้ละสังขาร คงจะเป็นผู้โง่เขลาเบาปัญญาของข้าพเจ้าเองที่ขาดความพิจารณา ที่ไม่มีความคิดและไม่ได้ท่องคาถาดังกล่าว เพื่อถวายหลวงปู่จนกระทั่งวันนี้เมื่อข้าพเจ้าเห็นหนังสือเล่มดังกล่าวแล้ว รู้สึกเวทนาตัวเองเป็นยิ่งนัก

พิมพ์คัดลอกมาจากหนังสือ“หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน”หน้า ๕๗-๕๘











ที่มา: https://www.share-si.com/2018/04/blog-post_26.html

25/4/61









เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า พระครูโสภณ ธรรมวิสุทธิ์ อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดโนนสะอาด หมู่บ้านน้อย ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ได้พาลูกศิษย์วัดใช้เวลาว่างหลังจากเสร็จกิจของสงฆ์ ตระเวนออกซ่อมแซมถนนที่ชำรุดทรุดโทรมภายในหมู่บ้าน โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกดิน ขี่ออกไปซ่อมแซมถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถสัญจรผ่านไปมาได้อย่างสะดวก และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังใช้ความรู้ความสามารถในช่วงที่เคยเป็นฆราวาสตระเวนซ่อมไฟฟ้าที่ใช้ส่องสว่างในหมู่บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมานานกว่า 20 ปี จึงเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้านและผู้ที่พบเห็น














ที่มา:https://www.winnews.tv/news/23387








สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เมืองตักโลบัน ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเจ้าสุนัขเพศเมียตัวน้อย "โมอานา" พยายามต่อสู้กับ “งูเห่า” ที่เลื้อยเข้าบ้าน และหวังจะเขมือบกินมัน จนสามารถกัดหัวงูขาดได้

แต่ราว 15-20 นาที เจ้าโมอานาเริ่มมีอาการเงียบซึมลง ก่อนจะหมดสติและแน่นิ่งไป คาดว่ามันถูกพิษงูเห่าจากการต่อสู้ครั้งนี้เล่นงาน เมื่อพิษเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มันเสียชีวิตในเวลาต่อมา






ทั้งนี้ แม้เจ้าโมอานาจะจากไป แต่วีรกรรมการต่อสู้กับงูของมัน ก็กลายเป็นที่กล่าวถึงและยกย่องในโลกออนไลน์อย่างมาก













ที่มา:https://board.postjung.com/1077481.html









วันนี้ (23 เม.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูอรรถ ธรรมโสภิต (อัด-ถะ-ทำ-โส-พิต) เจ้าคณะตำบลตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย พระมหาสุดใจ สุคะโต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษา และพระอาจารย์สุเมธ พัฑฒะปัญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระอินทร์โกษา จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นสหะธัมมิก (สะ-หะ-ทำ-มิก) ในต่างแดน หลังจากได้รับบริจาคที่ดินว่างเปล่าจำนวน 11 ไร่ อยู่ในพื้นที่บ้าน หนองกระทม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนางสำรวย ลำสีสงค์ อายุ 63 ปี ชาวบ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อให้ใช้สร้างที่พักสงฆ์หรือวัด เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา


จึงได้มีว่าจ้างช่างให้มาทำการเจาะน้ำบาดาล เพื่อนำน้ำมาเก็บไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค ภายในวัด ที่จะมีการสร้างสำนักสงฆ์ก่อนจะสร้างเป็นวัด ซึ่งใช้ชื่อว่า “วัดใหม่พุทธเมตตา 3 แผ่นดิน อินเดีย-ไทยแลนด์-กัมพูชา” แต่กลับพบว่าการเจาะบาดาลแล้วพบตาน้ำอย่างพอดิบพอดี ทำให้มีน้ำไหลผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุด และผุดแรงพอสมควร ต้องนำท่อพีวีซีมาสวมไว้ และพับปากท่อไว้ไม่ให้น้ำไหลออกมาแรงเกินไป






โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความฮือฮาให้แก่ชาวบ้านรวมทั้งพระสงฆ์เป็นอย่างมาก และยิ่งสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาให้กับชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนมากยิ่งขึ้น ที่ต่างเชื่อกันว่า เกิดจากนิมิตหมายอันดีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นพญานาค และพระแม่โพสพ ที่จะก่อให้เกิดวัดใหม่ 3 สามแผ่นดินแห่งนี้ จึงดลบันดาลให้ขุดพบตาน้ำที่ไหลไม่หยุดดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ ที่จะสร้างวัดใหม่พุทธเมตตา 3 แผ่นดิน อินเดีย-ไทยแลนด์-กัมพูชา แห่งนี้ จะมีความชุ่มชื่น ร่มเย็น และจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทั้ง 3 แผ่นดินต่อไปในอนาคต ดังสายน้ำที่ไหลเย็นไม่หยุดดังกล่าว


พระครูอรรถ ธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่พักสงฆ์ใหม่ หรือวัดใหม่พุทธเมตตาสามแผ่นดิน อินเดีย-ไทยแลนด์-กัมพูชา มูลเหตุของการเกิดวัดนี้ ก็ด้วยการที่อาตมาภาพพระครูอรรถธรรมโสภิต กับ พระมหาสุดใจ สุคโต และคณะเทพรักษาจาริกบุญร่วม 42 ชีวิตได้เดินทางไปแสวงบุญจาริก บุญจาริกธรรม ยังดินแดนพุทธภูมิประเทศอินเดีย-เนปาล สังเวชนียสถานทั้งสี่ คือสถานที่ประสูตร ตรัสรู้ แสดงธรรม และสถานที่ปรินิพพาน และได้เดินทางไปแล้วร่วม 5 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดไปเมื่อวันที่ 5- 17 ก.พ. ที่ผ่านมา และได้อธิษฐานขอพรกับหลวงพ่อพุทธเมตตา ขอให้ได้มีวัดเกิดขึ้น ใกล้เส้นทางสายสุรินทร์-ชองจอม ก่อนที่จะข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา


หลังจากนั้นก็มีโยมสำรวย ลำสีสงค์ ชาวบ้านด่าน ตำบลด่าน จับไมค์ประกาศถวายบนรถทัวร์ที่ไปอินเดีย-เนปาล แก่อาตมาและพระมหาสุดใจ จึงได้เกิดวัดนี้ขึ้นมา ประกอบกับ นางสำรวย ลำสีสงค์ เอง ก็อยากสร้างวัด หรือสำนักปฎิบัติธรรมคล้ายวัดในอินเดียและเนปาล และตั้งใจไปขอพรกับหลวงพ่อพุทธเมตตาที่พุทธคยา ประเทศ อินเดียมาแล้วสามปีสามครั้งกับคณะเทพรักษาจาริกบุญอีกด้วย จากนั้นเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาได้จ้างช่างมาขุดเจาะบาลดาล จนพบตาน้ำที่ไหลไม่หยุดพอดี ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ดลบันดาลให้ขุดพบ และเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะเกิดวัดใหม่ 3 แผ่นดินแห่งนี้

จึงใส่ท่อพีวีสีและพับปากท่อไว้ เพื่อให้น้ำไหลออกมาน้อยลง เพราะยังไม่มีถังพักน้ำ เสียดายน้ำที่จะไหลทิ้งไปเปล่าๆ จึงได้แค่นำอ่างและท่อมาทำที่พักไว้ชั่วคราวก่อน ซึ่งหากประชาชนต้องการน้ำ ก็สามารถเข้ามาเอาน้ำไปใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ต่างๆพากันมากินน้ำ ไม่ว่าจะเป็น วัว ควาย หมูป่า เก้งกวาง ต่างๆ เพราะอยู่ใกล้ป่าชายแดน ซึ่งจะสังเกตเห็นรอยเท้าอยู่รอบบริเวณที่น้ำผุดแห่งนี้ อย่างชัดเจน

ทั้งนี้การสร้างวัดต้องใช้เวลาและงบประมาณจำนวนมาก คงจะต้องให้พุทธศาสนิกชนช่วยกันทำบุญสร้างวัดตามกำลังศรัทธา ซึ่งอาตมา ตั้งใจจะสร้างพระพุทธเมตตา 3 แผ่นดินถิ่นอีสาน นักบุญแห่งเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดใน จ.สุรินทร์ ที่บริเวณวัดใหม่ 3 แผ่นดินแห่งนี้ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพี่น้องชาวไทย-กัมพูชา และอินเดียต่อไปในอนาคต พระครูอรรถธรรมโสภิตฯกล่าว ทั้งนี้หากประชาชนหรือผู้ใจบุญต้องการสอบถามรายละเอียด หรือต้องการทำบุญสร้างวัดและพระพุทธเมตตา 3 แผ่นดิน ร่วมกัน สามารถโทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 086-2526632,095-6016371 พระครูอรรถธรรมโสภิตเจ้าคณะตำบลตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์









ที่มา:http://kwamsukz.com/7929/









แบนวงดนตรีดังห้ามเข้าพื้นที่ หลังจากมีการแชร์คลิปว่อนเน็ต ชาวเน็ตรุมด่า ทำศาสนาเสื่อม วงดนตรีเล่นงานบวช แต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์ ถือบาตร กระดกเหล้า เต้นยั่วกับแดนซ์เซอร์ล่อแหลม  สนุกสนาน เมามัน อ้างเหตุเกิดที่กำแพงเพชร

จากที่มีคลิปวีดีโอถูกแชรว่อนไปทั่วโซเชียล ถึงความไม่เหมาะสม ของนักร้องวงดนตรีวงหนึ่ง ที่ นักร้องชายของวง แต่งตัวเลียนแบบพระสงฆ์ ในมือถือบาตรแบบกระปุกออมสิน ขึ้นร้องเพลง หลวงพี่ 4 จี ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์หลวงพี่แจ๊ส 4 จี ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัดและพระ จึงมีการแต่งกายเรียนแบบพระสงฆ์ ซึ่งระหว่างที่ทำการแสดง ก็มีการดื่มและเต้นกับแด๊นเซอร์กันอย่างเต็มที่  ซึ่งที่มาของคลิปดังกล่าวระบุเพียง ว่าเป็นงานบวชที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา  ซึ่งชาวโซลเชี่ยลส่วนใหญ่ที่ได้พบเห็นคลิปดังกล่าวนั้น ก็ต่างพากันคอมเม้นถึงความไม่เหมาะสม และไม่รู้กาละเทสะของนักร้องหนุ่มคนดังกล่าว ที่เน้นสนุกสนาน แต่ไม่รู้ถึงประเพณีอันดีงาม พร้อมกับการแต่งกายแบบนี้ ที่ได้แต่งกายเรียนแบบคล้ายพระภิกษุสงฆ์อีกด้วย






ต่อมาเมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดมะกอกหวาน หมู่ที่  7 ตำบลเทพนคร  อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพระที่บวชมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ โดยมีนางศิริพร เรืองวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด ปกครองอำเภอเมือง เข้าตรวจสอบที่วัดมะกอกหวานด้วย  ทางด้านนายรังสรรค์ แสงเมล์  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่  7 ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็ไปงานด้วย มีแขกผู้ใหญ่หลายระดับไปร่วมงาน แต่ส่วนใหญ่ก็จะกลับกันก่อน เช่นเดียวกับตนก็กลับก่อนงานเลิก มาทราบข่าวในตอนเช้าว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งถ้าตนยังอยู่ในช่วงที่มีการแสดงตนจะสั่งให้เลิกทันที เพราะทำให้เสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา และต่อจากนั้นไปจะบอกกับลูกบ้านห้ามนำวงดนตรีวงนี้เข้ามาแสดงในพื้นที่อีกอย่างเด็ดขาด


จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่บ้านจัดงานบวช เลขที่94/1บ้าน มะกอกหวาน หมู่ที่  7 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร  พบนายพวงทอง เกิดพันธ์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อที่จัดงานบวชให้ลูกชาย พบว่าที่บ้านยังมีคนมาช่วยเก็บข้าวของจากการจัดงานที่ผ่านมาอยู่หลายสิบคน


จากการสอบถามนายพวงทองเปิดเผยว่า ตนไปว่าจ้างวงทอมดี้ จากบ้าน อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยตกลงเหมามาแสดงในราคา 150,000 บาท พร้อมกับโต๊ะจีน 105 โต๊ะ รวมทั้งเวทีและเครื่องไฟ ซึ่งช่วงหัวค่ำตนวิ่งต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานจำนวนมากทำให้รู้สึกเหนื่อย จึงขึ้นบ้านพักผ่อนก่อนงานเลิก และไม่ทราบว่ามีการแสดงแบบนี้ เพิ่งมาทราบตอนเช้าในสื่อโซเชี่ยว ทำให้ตนรู้สึกไม่ดีกับการแสดงแบบนี้เพราะไม่เหมาะสม จากการสอบถามทราบว่าการแสดงชุดดังกล่าวแสดงช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่า ซึ่งเหลือคนดูเพียงไม่กี่คนเท้านั้น


ทางด้านนางศิริพร เรืองวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า เห็นคลิปแล้วน่าจะผิดในมาตรา 208 และ 206 แต่งกายเรียนแบบสงฆ์ จะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ทางสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติทราบ เพื่อจะได้ส่งนิติกรมาสอบสวนต่อไป เช่นเดียวกับทางฝ่ายปกครอง ก็จะรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงมหาดไทยทราบด้วย และจากข่าวดังกล่าวมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางในความไม่เหมาะสม โดยทางนายอำเภอลานกระบือได้ห้ามนำวงดนตรีวงนี้มาแสดงในอำเภอลานกระบือด้วย














ที่มา:https://board.postjung.com/1077361.html

24/4/61










ฮือฮาเจาะบาดาลเจอตาน้ำผุดไหลไม่หยุด เชื่อพญานาคและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบรรดาลให้ขุดพบ ยินดีและเป็นนิมิตหมายอันดี กับการสร้างวัดใหม่พุทธเมตตา 3 แผ่นดิน อินเดีย-ไทยแลนด์-กัมพูชา ใกล้ ชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้(23 เม.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูอรรถธรรมโสภิต   (อัด-ถะ-ทำ-โส-พิต)เจ้าคณะตำบลตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร, พร้อมด้วย พระมหาสุดใจ  สุคะโต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษา และพระอาจารย์สุเมธ  พัฑฒะปัญโญ  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระอินทร์โกษา จ.เสียมเรียบ  ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นสหะธัมมิก(สะ-หะ-ทำ-มิก) ในต่างแดน   หลังจากได้รับบริจาคที่ดินว่างเปล่าจำนวน 11 ไร่ อยู่ในพื้นที่บ้าน หนองกระทม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนางสำรวย  ลำสีสงค์  อายุ 63 ปี ชาวบ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์  เพื่อให้ใช้สร้างที่พักสงฆ์หรือวัด เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา













ที่มา:สำนักข่าวบ้านเมือง









โลกออนไลน์ด่ายับ หนุ่มแต่งกายคล้ายพระถือบาตรร้องเพลงบนเวทีงานบวช ชี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสมและไร้กาละเทศะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “The Clip by ห้องพักรายวันซอยอุดมสุข 51” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ความยาวประมาณ 3.28 นาที เป็นภาพคอนเสิร์ต ซึ่งมีวงดนตรีวงหนึ่งกำลังร้องและเต้นประกอบเพลง โดยมีการแต่งชุดคล้ายกับพระภิกษุสงฆ์ถือบาตรและเต้นร่วมกับแดนซ์เซอร์ผู้หญิงไปด้วย






ซึ่งหลังจากเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไปก็พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ไปในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งไม่เหมาะสม และไม่รู้จักกาละเทศะกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแชร์คลิปไปเกือบหมื่นครั้ง และมีผู้รับชมวิดีโอนี้ถึงกว่า 6.4 แสนครั้ง

อย่างไรก็ตาม พบว่าคลิปนี้เกิดตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ในงานบวชแห่งหนึ่งที่ จ.กำแพงเพชร และนักร้องหนุ่มได้ร้องเพลงหลวงพี่แจ๊ส 4 จี ที่มีเนื้อหาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระสงฆ์ โดยระหว่างการแสดงยังมีการดื่มสุราและเต้นอย่างเมามันส์อีกด้วย

ขณะที่ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ชายหนุ่มในคลิปอื้อฉาวดังกล่าวได้ออกมาแสดงตัวและยอมรับว่าเป็นเพียงการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เพื่อขึ้นไปร้องเพลงโชว์เท่านั้น พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษสังคม รู้สึกสำนึกผิดในการกระทำที่ทำไม่คิด เพราะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์









ที่มา:https://www.sanook.com/news/6180958/ https://www.youtube.com/watch?v=DBVYlnOQ8ro

23/4/61









สรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง เข้ารับการอุปสมบทอย่างเงียบๆ ที่วัดหนองกะทุ่ม จ.นครราชสีมา คนดังแห่ร่วมอนุโมทนาบุญเพียบ

วันนี้ 23 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ได้เข้ารับการอุปสมบทอย่างเงียบๆ ที่วัดหนองกะทุ่ม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีเพื่อนดารามาร่วมอนุโมทนากันอย่างคับคั่ง อาทิ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ (ไบร์ท) ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ , โก๊ะตี๋ , ตัน ภาสกรนที , ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ และ อุดม แต้พานิช รวมทั้งชาวบ้านในชุมชนที่ทราบข่าวก็ต่างมาร่วมบุญกันจนแน่นวัด






















ที่มา:https://news.mthai.com/social-news/636064.html






สาววัย 30 ปี คลอดลูกสาวโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองตั้งท้อง ระบุประจำเดือนมาปกติทุกเดือน

วันนี้ 22 เม.ย.61 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ได้รับแจ้งมีเหตุแม่คลอดลูกภายในบ้านพื้นที่ หมู่ 1 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังได้รับจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์กู้ชีพ รพ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุภายในบ้านพบ น.ส.โสภิตา ดอกสี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 6 ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด มือกุมท้องที่ระหว่างขามีร่างทารกเพศหญิงคลอดออกมาได้ครึ่งตัว และมีอาการตัวเขียว กู้ภัยฯปฐมพยาบาลช่วยเหลือพยาบาลจนอาการปลอดภัย






เบื้องต้นสอบถาม น.ส.โสภิตา เผยว่า ไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์มาก่อนทั้งที่ประจำเดือนก็มาทุกเดือน จนกระทั้งวันนี้ได้ปวดท้องแบบแปลกๆ จู่ๆ ก็คลอดเด็กออกมาแต่ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะลูกปลอดภัยดี ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อลูก แต่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด











ที่มา: https://news.mthai.com/general-news/635719.html

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget