จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า “ลูกผมโดนคุณครูลงโทษขนาดนี้เลยหรอครับ แถมไม่เคยถามลูกผมว่าเจ็บไหมไปรักษาที่ไหนหรือยัง ใจร้ายจริงๆ สงสารลูกมากๆ ครับ เด็กอนุบาล2 ทำไมต้องมาเจอเรื่องโชคร้ายแบบนี้ด้วยครับ”
พร้อมกับโพสต์ภาพรูปใบหูทั้ง 2 ข้าง เป็นแผลยาวลักษณะแผลถูกบิดและจิกของ ด.ญ.ทิพวัลย์ ธรรมสนธิเจริญ หรือ “น้องเจล” ซึ่งแผลดังกล่าวเกิดจากที่ถูก น.ส.นันทินี หมั่นเขตกิจ ครูประจำชั้น บิดหูทั้ง 2 ข้างจนเป็นแผลยาวประมาณ 4 เซนติเมตร จนไม่กล้าไปโรงเรียน
นายวินัย ตะปะสา รองศึกษาธิการจังหวัดรักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท และเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท ร่วมถึงนายคมคายน้อยเอี่ยมผู้อำนวยการโรงเรียนที่น้องเจลเรียนอยู่ ได้นำสิ่งของมามอบให้ที่บ้านของน้องเจล
ขณะที่ นายวัลลภ พ่อของน้องเจล เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของน้องและครอบครัวดีขึ้นมากแต่ยังต้องทำเรื่องย้ายโรงเรียนเพราะตัวน้องเจลเองก็กลัวไม่กล้าไปเรียนที่เดิมอีก ตอนนี้อยากให้น้องเจลพักสัก 1 สัปดาห์ซึ่งระหว่างที่พักนั้นตนจะไปเดินเรื่องของย้ายไปโรงเรียน
แต่ตอนนี้ไม่ติดใจอะไรแล้ว เพราะตัวครูก็สารภาพแล้วว่าเป็นคนทำเกินกว่าเหตุจริง ตนก็ไม่อยากถือสาอะไรเพราะทุกอย่างเกี่ยวเนื่องกันเสียงทั้งชื่อเสียงโรงเรียนเสียทั้งชื่อเสียงจังหวัด ตอนนี้มีผู้ออกมารับผิดชอบมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตนก็ดีใจอยากให้เป็นอุทาหรณ์มากกว่าว่าผู้ปกครองทุกคนรักบุตรหลานทุกคนไม่อยากให้ลูกเจ็บแบบนี้อยากให้ครูคิดดีๆก่อนที่จะทำเพราะสิ่งที่เกิดไปแล้วมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ทางด้าน นายวินัย ตะปะสา รองศึกษาธิการจังหวัดรักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมวันนี้พบว่าบาดแผลน้องเจลมีการสมานตัวไม่มีอาการติดเชื้อส่วนสภาพจิตใจเริ่มกลับมาร่างเริงตามปกติ
ในส่วนของครูที่ทำร้ายน้องเจลนั้นได้มีการเรียกมาสอบสวนและเรียกครูทั้งหมดของโรงเรียนดังกล่าวมาอบรมให้ทราบว่าสิ่งใดควรกระทำและไม่ควรกระทำต่อเด็ก เพราะเด็กนักเรียนทุกคนต่างก็มีผู้ปกครองทุกคนเลี้ยงมาด้วยความรักความเอาใจใส่ลูกใครใครก็รักไม่ควรทำเกินเลย แม้ว่าเด็กจะดื้อหรือซนเพราะเราคือแม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติต้องทำตัวเป็นแบบอย่างของทั้งนักเรียนและสังคม
ที่มา:https://www.sanook.com/news/7472170/
0 comments:
แสดงความคิดเห็น