12/9/61









หลังจากที่ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ได้มรณภาพลงเมื่อวันเสาร์แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ ตอนเที่ยงคืนเช้าวันรุ่งขึ้น นายอาญาราช ศิษย์ก้นกุฏิ ของเจ้าประคุณสมเด็จ เข้าไปเก็บกวาดในกุฏิของท่าน ขณะทำความสะอาดกุฏิ นายอาญาราชได้พบเศษกระดาษชิ้นหนึ่งซุกอยู่ใต้เสื่อเป็นลายมือของเจ้าประคุณสมเด็จ เขียนสั้นๆ โดยสังเขป เป็นคำทำนายชะตาเมืองมีความว่า





" มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์โจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล "

เมื่อคำทำนายของสมเด็จ (โต) วัดระฆังทั้ง ๑๐ ยุค ตรงกับพุทธทำนายอย่างเหลือเชื่อ!! นำพาซึ่งการถอดรหัสคำทำนายของ "สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี)" พระอริยะสงฆ์ที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นอย่างสูง ซึ่งคำทำนายของท่านนั้นได้มีการนำมาตีความว่าเป็นการทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองล่วงหน้าใน ๑๐ ยุคของไทย

พระองค์ท่านทรงใช้หลักวิชาใดเป็นเครื่องพยากรณ์ก็คือ คำพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะบังเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็นยุคๆ ทั้งหมด ๑๐ ยุค ให้เห็นว่าบ้านเมืองแต่ละยุคแต่ละสมัยจะเป็นอย่างไร โดยเชื่อกันว่านี่คือคำทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองที่แม่นยำ และสร้างความประหลาดใจให้แก่คนรุ่นหลังสืบมา สาระสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละรัชสมัยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่ปรากฏเป็นบทพิสูจน์ของคำทำนายเป็นอย่างดี






คำทำนายของสมเด็จ พุทฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

ยุค ๑ มหากาฬ
ยุค ๒ พาลยักษ์
ยุค ๓ รักมิตร (รักบัณฑิต)
ยุค ๔ สนิทธรรม
ยุค ๕ จำแขนขาด
ยุค ๖ ราษฎรโจร
ยุค ๗ ชนร้องทุกข์
ยุค ๘ ยุคทมิฬ
ยุค ๙ ถิ่นกา (ตา) ขาว
ยุค ๑๐ ชาวศิวิไลซ์

ส่วนคำอธิบายขยายความคำทำนายที่ปรากฏในหนังสือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ซึ่งเป็นของ มหาอำมาตย์ตรี ทิพโกษา นั้นมีข้อความโดยย่อเฉพาะประเด็นที่เห็นว่าสอดคล้องกับชื่อของยุคดังนี้

๑. รัชกาลที่ ๑ ได้ทรงปราบดาภิเษก ในการนี้ได้สำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และมีพระบรมราชโองการปราบพวกไม่เห็นด้วย มีการสังหารล้างโคตรถึง ๘๒ ครอบครัว จึงเรียกยุคมหากาฬ

๒. ในปี พ.ศ. 2363 ได้เกิดโรคระบาดมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก รัชกาลที่ ๒ ได้ทรงรับสั่งให้ทำพิธียิงปืนใหญ่รอบกำแพงพระบรมมหาราชวัง และให้อัญเชิญพระแก้วมรกตเป็นการขับไล่ และปลอบขวัญพลเมือง ในที่สุดโรคร้ายสงบในทำนองเดียวกับการสวดภาณยักษ์ขับไล่ภูตผี

๓. มีการเริ่มต้นเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ อันได้แก่อังกฤษ และอเมริกา เป็นต้น

๔. สนับสนุนการเผยแพร่จริยธรรม ตลอดจนการพระศาสนาต่างๆ พระองค์เองก็ทรงฉลองพระองค์ชุดขาวถือศีล ๘ อย่างเคร่งครัด ฟังธรรมทุกวันพระ

๕. เสียดินแดนให้แก่นักล่าอาณานิคมบางส่วนเพื่อแลกกับส่วนใหญ่ให้คงอยู่ ซึ่งเป็น "ยุคล่าอาณานิคม"

๖. มีการฟุ้งเฟ้อเลียนแบบตะวันตก เป็นยุคเริ่มต้นแห่งภัยพิบัติด้านเศรษฐกิจ ทำลายแผ่นดินทางอ้อม

๗. พลเมืองประสบกับภาวะข้าวยากหมากแพง ผู้คนอดอยากแร้นแค้น ด้วยสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑

๘. มีการลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ ๘ ถึงแก่สวรรคต จัดเป็นยุคที่มีการแย่งชิงอำนาจ มีการปฏิวัติ รัฐประหาร

๙. มีชาวตะวันตกเข้ามามาก จึงน่าจะเป็นที่มาของคำว่า ถิ่นตาขาว การเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก "อะเมซิ่งไทยแลนด์"

๑๐. ประชาชนจะอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นยุคที่ยังมาไม่ถึง



ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)











ขอบพระคุณแหล่งที่มา: http://www.partiharn.com/contents/10128

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget