3/1/62









สำหรับบ้านชาวไทนพุทธแล้วนั้นแน่นอนว่าหิ้งบูชาพระนั้นจะมีอยู่ทุกบ้านกันอยู่แล้วใช่ไหมละคะบ้านแต่ละหลังย่อมมีหิ้งพระ หรือมากกว่านั้นอาจจะมีหิ้งเทพ หิ้งรูปบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ก็ยังพบปัญหาว่าหลายคนไม่ทราบว่าควรจัดวาง ตั้งหิ้งพระไว้บริเวณใดของบ้านถึงเหมาะสมและเป็นมงคลกับชีวิต รวมถึงอาจเผลอวางหิ้งพระผิดที่ผิดทางจนเกิดความไม่เป็นมงคลได้ วันนี้ทางเราเลยรวบรวมคำแนะนำเรื่องการจัดหิ้งพระให้เหมาะสมและเป็นมงคลต่อเจ้าของบ้าน

1.หมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดอยู่เสมอ หลายจุดในบ้านเจ้าของบ้านให้ความสำคัญแต่บางครั้งหลงลืมตำแหน่งของหิ้งพระ ดังนั้นต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดองค์พระหรือรูปเทพ เพราะหากองค์พระหรือรูปเทพมีฝุ่นจับเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย นอกจากนั้นควรหมั่นเปลี่ยนน้ำ ดอกไม้ในแจกันบูชาเพื่อให้ชีวิตของคนในบ้านสดชื่น แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา


2.เลือกตำแหน่งที่สงบ หิ้งพระควรตั้งอยู่ในพื้นที่ๆ สงบ ไร้เสียงรบกวน จอแจ เช่นบางบ้านประดับหิ้งพระไว้บริเวณประตูเข้า-ออก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าคนในบ้านจะพบแต่ความวุ่นวาย

3.หิ้งพระไม่ควรติดตั้งผนังเดียวกับห้องน้ำหรือห้องครัว รวมถึงไม่ควรหันหน้าหิ้งบูชาไปตรงกับประตูห้องน้ำหรือห้องครัว เพราะจะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย มีเรื่องขัดแย้งหรือเงินทองรั่วไหล






4.หิ้งพระบนหลังตู้ควรสูงกว่าศีรษะ หากคุณพักอาศัยในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์หิ้งพระควรอยู่สูงกว่าศีรษะเพราะมันเกี่ยวพันกับความเจริญก้าวหน้า อาชีพการงาน

5.ห้องพระคือห้องพระ ห้องพระก็คือห้องสำหรับตั้งบูชาพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว เราอย่าใช้ห้องพระไว้เก็บข้าวของชนิดอื่นๆ รวมทั้งห้องพระไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำหรือมีประตูตรงกับห้องน้ำ

6.หิ้งพระไม่ควรตั้งอยู่ปลายเตียง หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรตั้งหิ้งบูชาไว้ในห้องนอน เนื่องจากเราอาจมีกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหิ้งพระเช่นการเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือการร่วมหลับนอนของคู่สามี-ภรรยา อีกทั้งยังไม่ควรหันหน้าหิ้งพระไปยังทิศที่เตียงตั้งอยู่ด้วย

7.ห้องรับแขกไม่ใช่ที่ตั้งของหิ้งบูชา อย่างที่บอกว่าหิ้งพระควรตั้งอยู่ในห้องที่ค่อนข้างมีบรรยากาศสงบ

8.บนหิ้งพระควรมีองค์พระหรือองค์เทพเป็นจำนวนเลขคี่






9.หลีกเลี่ยงการตั้งหิ้งบูชาไว้ใต้คาน เพราะหมายถึงดวงชะตาของเจ้าของบ้านอาจถูกกดทับ และมักมีเรื่องให้ปวดหัวอยู่เสมอ

10.หิ้งพระควรตั้งอยู่ในมุมที่เป็นสัดส่วน ไม่ใช่เมื่ออยู่นอกบ้านแล้วสามารถมองเห็นหิ้งพระในบ้านอย่างชัดเจน เช่นนั้นถือว่าไม่ดี


นอกจากนี้ยังมีทิศต้องห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านตั้งหิ้งพระอีกด้วย มาดูกันว่าคุณเกิดปีไหนและห้ามไม่ให้ตั้งหิ้งพระตรงไหน

เจ้าของบ้านเกิดปีชวด ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะส่งผลให้เจ้าบ้านเกิดอันตราย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีฉลู ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้เจ้าบ้าน เกิดการเจ็บป่วยอย่างกะทันหัน

เจ้าของบ้านเกิดปีขาล ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะส่งผลให้ผู้หญิงและสมาชิกในครอบครัวเกิดอันตราย

เจ้าของบ้านเกิดปีเถาะ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียคนในบ้านจะเสียชีวิต

เจ้าของบ้านเกิดปีมะโรง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะส่งผลให้คนในบ้านเกิดการเสียหายทั้งชายและหญิง

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเส็ง ห้ามตั้งหิ้งพระบูชา หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้คนในครอบครัวมีความยุ่งยากที่สุดจนหาความสงบสุขไม่ได้

เจ้าของบ้านเกิดปีมะเมีย ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศใต้ จะส่งผลให้เกิดเรื่องราวอัปมงคลขึ้นภายในบ้าน

เจ้าของบ้านเกิดปีมะแม ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้ครอบครัว เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

เจ้าของบ้านเกิดปีวอก ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับสมาชิกเพศชายในครอบครัว

เจ้าของบ้านเกิดปีระกา ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเพราะ จะทำให้ความทุกข์โศกมาเยือนครอบครัวจนต้องร้องให้อยู่เสมอ

เจ้าของบ้านเกิดปีจอ ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะจะส่งผลร้ายให้สมาชิกในครอบครัวอย่างมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้

เจ้าของบ้านเกิดปีกุน ห้ามตั้งหิ้งพระบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพราะจะส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ในครอบครัวอยู่ตลอด เสียเงินเสียทองขึ้นโรงขึ้นศาล

ได้หลักการจัดหิ้งพระแบบง่ายๆ กันไปแล้ว ก็ลองตรวจเช็คดูนะคะว่าเราวางถูกต้องแล้วหรือยัง













ขอบพระคุณแหล่งที่มา: https://www.rugyim.com/16295








นักผลิตผู้มีชื่อเสียง

สามีภรรยาคู่หนึ่ง เดินทางด้วยรถไฟ

ทว่าตลอดทาง

ผู้เป็นภรรยาบ่นพึมพำไม่มีหยุด

เดี๋ยวบ่นว่ารถไฟขับช้ามาก

เดี๋ยวบ่นว่าแอร์เย็นเกินไป

อีกทั้งบ่นถึงท่าทีการบริการที่ไม่ดีของพนักงานบริการ!!

ส่วนผู้เป็นสามี ถึงแม้หลับตาอยู่ แต่หูไม่ได้ว่างเลย

จำต้องทนเสียงบ่นพึมพำของภรรยา!!

ต่อมา..สามีได้โอกาส

เลยหันหน้าไปทักทายผู้ร่วมเดินทางข้างกายอย่างมีมารยาท

ยามที่ผู้ร่วมเดินทางถามถึงอาชีพของพวกเขา

ผู้เป็นสามีตอบว่า…

“ผมเป็นเจ้านายเล็กๆของบริษัทฯ

ส่วนภรรยาผม เป็นนักผลิตผู้มีชื่อเสียง “

“โอ้..นักผลิต แล้วผลิตสินค้าอะไรล่ะ ?”

ผู้ร่วมเดินทางถามด้วยความแปลกใจ

ผู้เป็นสามีตอบอย่างจริงจังว่า…

“ผลิตความไม่พอใจโดยเฉพาะ”






************

ชีวิตคนเราบ้างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความร่าเริง เบิกบาน!!

บ้างก็เปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า ความไม่พอใจ !!

แน่นอน…สภาพอารมณ์ของตนเองสำคัญมาก

ทว่าคนที่อยู่ร่วมกันกับเรา ก็สำคัญมากเช่นกัน

หากคู่ครองหรือเพื่อนร่วมงานของเรา อุปนิสัยเคร่งขรึม

ไม่มีอารมณ์ขัน ไม่ตลกและไม่โรแมนติกหรือแม้กระทั่ง

ชอบบ่นพึมพำ ไม่ชอบนั่นไม่ชอบนี่ ชอบตำหนิ ทัศนะ

คติเป็นลบ เช่นนี้แล้ว ชีวิตก็คล้ายดั่ง

“นักผลิต” ผลิตความไม่พอใจโดยเฉพาะ!!

..







ชีวิตที่ร่าเริงเบิกบาน มาจากความคิดที่ร่าเริงเบิกบาน

ความมีอารมณ์ขันสำคัญยิ่งกว่าความเซ็กซี่ เพราะอะไร

เพราะว่าสาวงามผู้หนึ่ง มีแต่ความสวยงามและเซ็กซี่

แต่ทุกๆ วันมีแต่ความเย็นชา ความไม่แยแส ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ

อีกทั้งไม่มีอารมณ์ขัน ไม่รู้จักตลก ย่อมไม่เป็นที่ต้อนรับของผู้คน!!

เช่นเดียวกัน ผู้ชายก็ไม่จำเป็นต้องประณีตกับความเซ็กซี่

อวดเบ่งกล้ามตลอดเวลา

ที่พึงจะมีคือสติปัญญา

ความเฉลียวฉลาด และมีความตลกขบขัน!!

..

อารมณ์ขัน!!…..เป็นพลังและความโรแมนติกอย่างหนึ่ง..

มันสามารถเพิ่มพูนความใกล้ชิดระหว่างคนกับคน

ดังนั้น…

มีเสียงหัวเราะก็จะไม่มีสงคราม

มีอารมณ์ขันก็จะไม่มีความเงียบเหงา

ขอเพียงภายในหัวใจมีความรัก

มีอารมณ์ขัน ก็จะมีเสียงหัวเราะที่ร่าเริงเบิกบาน

และมีความสุข!!












ขอบพระคุณแหล่งที่มา: https://www.rugyim.com/15250

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget