23/2/62









จากกรณีที่โลออนไลน์มีการแชร์ภาพ พระภาวนารัตนญาณ (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เข้ารับการประกอบพิธีเถราภิเษก ยกยอสมณศักดิ์พระสงฆ์ชั้นพระราชครูแห่งเมืองยอง รัฐฉาน เมียนมา โดยปรากฏภาพของ ครูบาอริยชาติ สวมมงกุฏ ซึ่งมีการระบุด้วยว่า เป็นมงกุฏทองคำหนัก 47 บาท

ล่าสุด (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระรัตนมุนี (ปุณณมี วิสารโท) รักษาการเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ได้มีหนังสือสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ที่จจ.ชร. 0088/2562 ลงวันที่ 21 ก.พ. 2562 ถึง พระมหาสุบรรณ มหาคมฺภีโร เจ้าคณะอำเภอแม่สรวย เรื่อง ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พระภาวนารัตนญาณ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ





โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่มีสื่อออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก ได้เสนอว่า พระภาวนารัตนญาณ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ได้เข้ารับการยกยอราชครู เมืองยอง มีการสวมมงกุฏทองคำ พาดแผ่นทองคำตรงบริเวณบ่าซ้าย สร้างความสับสนให้กับผู้คนทั่วไป นั้น

การนี้ขอเจ้าคณะอำเภอแม่สรวย ตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผลให้เจ้าคณะจังหวัดเชียงรายทราบภายในวันที่ 25 ก.พ.2562 นี้ด้วย

ทั้งนี้ ครูบาอริยชาติ เป็นพระเกจิชื่อดัง ซึ่งเคยมีข่าวปรากฏตามสื่อ เนื่องจากเดินทางไปประกอบพิธีอธิษฐานจิตอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าแม่นางนอน ขอให้เปิดทางเพื่อเข้าค้นหากลุ่มเด็กๆ ทีมหมูป่าอคาเดมี ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ให้ออกมาอย่างปลอดภัย















ขอบพระคุณแหล่งที่มา: https://www.sanook.com/news/7689982/








เรื่องของหญิงสาวที่ถูกสามีนอกใจ แต่แล้วท้ายที่สุดก็กับกลายเป็นสามีที่เสียใจ แต่ภรรยากับรู้สึกขอบคุณ

ในที่ทำงานมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนที่มีเสน่ห์และอยู่ในตำแหน่งงานที่สูง ไปไหนมาไหนรถก็จะมีรถบริษัทไปรับส่งตลอด เงินเดือนก็สูง เลยตกเป็นเป้าหมายของพวกสาวๆ แล้วพอไปๆมาๆ เขาก็มีชู้กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท เพราะเธอทั้งสาวและหน้าตาดี

ในช่วงเวลานั้น มักจะเห็นเขายิ้มแย้มแจ่มใสทุกวัน ไม่มีทีท่าที่จะปิดบังเรื่องนี้กับทุกคนและก็ไม่กังวลเลยว่า ภรรยาที่อยู่ที่บ้านของเขาจะรู้เรื่องนี้ ถ้าภรรยารู้ก็ยิ่งดี เต็มที่ก็แค่หย่ากันเท่านั้น ยังไงเขาก็มีผู้หญิงคนใหม่อยู่แล้ว

แต่ต่อมาไม่นาน เราก็พบว่าเขาเปลี่ยนไป เมื่อภรรยาของเขารู้ว่าเขานอกใจ เธอไม่หาเรื่องไม่โวยวายกับเขาใดๆ เธอแค่พูดกับเขาว่า “ขอบคุณที่นอกใจฉัน” ปฏิกิริยาของเธอทำเอาเขาถึงกับตกตะลึง เขาเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อมาเคลียร์เรื่องนี้กับเธอ แต่พอได้ยินเธอพูดแบบนี้เข้าและไม่ได้หาเรื่องเขาอะไรเลย เขารู้สึกสับสนมาก เหมือนคนที่ถูกทอดทิ้งไม่ใช่ภรรยา แต่เป็นเขาเองต่างหาก





และแล้วเขาก็เข้าใจความหมายของคำ “ขอบคุณ” ของภรรยา ในเวลาที่เขากำลังอยู่อย่างมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่น ภรรยาของเขาได้โอนย้ายทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดและส่งหลักฐานที่เขานอกใจให้ทนายเพื่อเตรียมฟ้องหย่ากับเขา ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ เงินหรือลูกชาย เขาไม่ได้สักอย่าง ถ้าเขาไม่ยอมเซ็นเอกสารในการขอหย่า ภรรยาก็จะยื่นเรื่องนี้ไปถึงศาล

เขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าภรรยาของเขาจะทำเช่นนี้กับเขา เพราะเธอเคยรักเขามากๆ เป็นแม่บ้านดูแลเขาอย่างดี แต่ทำไมตอนนี้ถึงทำขนาดนี้กับเขา เธอตอบว่า

“ฉันแต่งงานและดูแลคุณอย่างดีมา10 กว่าปี ไม่ว่าคุณทำอะไรฉันก็สนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ ในขณะที่คุณไม่มีอะไร ฉันก็ยังคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ในวันที่หนาวเย็นฉันลุกมาห่มผ้าให้คุณทุกคืน ในวันที่ร้อนจัด ฉันคอยทำน้ำซุปเย็นให้คุณ เมื่อพ่อแม่ของคุณป่วยไม่สบาย ฉันก็ไปเฝ้าดูแลพวกเขาโดยไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยสักคำ ฉันหวงแหนคุณและทุ่มเทให้คุณมาตลอด แต่สุดท้ายคุณกลับไปหาผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ต้องการผู้ชายที่ไม่มีหัวใจแบบนี้ เลิกกันดีกว่า”

เธอยังกล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ที่ทำให้เธอมีโอกาสเป็นฝ่ายที่ขอหย่าขาดกับเขาอย่างสบายใจ หลังจากนี้ไป เธอไม่ต้องนั่งคอยใครกลับบ้านและไม่ต้องเหนื่อยกับงานบ้านอีกแล้ว






มีชายและหญิงมากมายมักจะชอบสับสนกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ จนต้องตัดสินใจผิด ก็อย่างกับชายคนดังกล่าว ท้ายที่สุด เขาก็ต้องสูญเสียครอบครัวที่มีความสุขของเขาไปจนไม่เหลืออะไร เพียงแค่ความรัก ความหลงชั่วครู่ สุดท้ายก็ได้แต่มานั่งผิดหวังและเศร้าไปวันๆ

ถ้าเลือกจะรักคนใดคนหนึ่ง ก็ปฏิบัติกับเขาด้วยความจริงใจ มีความรับผิดชอบต่อเขาและดูแลเขาให้ดีๆ แม้จะเจอคนที่ใช่กว่า ดีกว่า เด็กกว่าก็ตาม ถ้าคุณเป็นคนดี ก็ต้องหยุดไว้แค่นั้น อย่าทำให้เขาต้องรู้สึกเสียใจเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

ชีวิตที่มีสามีเดียว ภรรยาเดียว ไม่ผิดศีลข้อ 3  อาจไม่สนุก สดใหม่ ตื่นเต้น เร้าใจ เหมือนแต่ก่อน แต่รับรองว่า คุณจะขึ้นสวรรค์ในแน่นอน













ขอบพระคุณแหล่งที่มา: https://www.rugyim.com/19907








เมื่อรู้สึก ไม่พอใจ จำไว้นะแค่เฉยๆก็พอ
หากเรารู้สึกไม่พึงพอใจใครสักคน เชื่อเถอะให้เรา “เฉยๆ” เอาไว้ก็พอ ในบางความรู้สึกของเรานั้นบางทีก็เป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ

คนเรามักมีความคิดด้านลบ เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

ที่เข้ามาครอบงำในความคิดของตัวเองอยู่เสมอ

ซึ่งในหลายครั้ง อารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้น

ก็ได้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราอยู่เสมอ ทั้งความรู้สึกของตัวเราเอง

และคนรอบๆข้างของตัวเราเช่นกัน

ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงเพราะ การที่เราไม่รู้จักการควบคุมสติของตัวเอง

รวมถึงการไม่ยอมเตือนตัวเองไว้อยู่เสมอว่า






อารมณ์เกณธของเราที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงอารมณ์ชั่วคราวที่เกิดขึ้น

ทางที่ดีนั้นก็อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสียหายจะดีกว่า

หลีกเลี่ยงในสิ่งที่จะทำให้แย่ลง

หากมองเห็นแล้วว่า สถานการณ์ที่ร้อนเป็นไฟตรงหน้าเริ่มเกิดความย่ำแย่ลง

จนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจที่มีอยู่ในตัวเอง ก็ควรทำใจให้เย็นมากขึ้น

โดยใช้ความนิ่งเงียบที่มี เข้าสยบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเผชิญ และหลีกเลี่ยงการพูดคุยตอบโต้

หรือปะทะคารมกับคนอื่นๆ หากกลัวว่าจะเผลอพูดอะไรที่รุนแรงออกไป

จงรอให้ใจเย็นขึ้นมากกว่านี้ก่อน แล้วถึงจะเริ่มคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วยเหตุและผลที่ดีพอ

สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเอง เพราะภาพลักษณ์ที่ดี ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตของทุกๆ สังคม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมคนวัยทำงาน ที่มักจะต้องพบเจอกับอุปสรรค

และปัญหาต่างๆ รวมถึงผู้คนมากหน้าหลายตา






ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความขัดแย้ง และความใจร้อนที่อาจเกิดขึ้น

ถ้าหากสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง รวมไปถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างเหมาะสม

อาจทำให้ถูกมองด้วยความชื่นชมจากสายตาของคนรอบข้างได้ว่า

เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะมากพอเป็นตัวช่วยในการเรียกสติ

หลายครั้งที่ความนิ่งเงียบ มักเป็นตัวช่วยที่ดีในการใช้เรียกสติกลับคืนมา

เพราะเปรียบเสมือนว่า เรากำลังจมอยู่กับตัวเอง

และได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ภายใต้ความเงียบเหล่านั้น

ซึ่งมีส่วนทำให้สามารถฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างที่เคยมองข้ามไป

ทำให้กลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้น

เมื่อได้ฝึกให้ตัวเองได้หัดใช้สติภายใต้ความนิ่งเงียบที่มีอยู่มากขึ้น

ก็อาจมีส่วนทำให้เราได้กลายเป็นคนที่มีความใจเย็นอยู่ภายในตัวเองมากขึ้นด้วย

ซึ่งสิ่งสำคัญของความใจเย็นนี้ จะเป็นข้อดีที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาดกับสิ่งต่างๆ ได้น้อยลง

และช่วยลดทอนการทำให้ตัวเองและคนรอบข้างเสียความรู้สึกได้มากยิ่งขึ้นด้วย

เป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลาชีวิต เรื่องบางเรื่องก็ถูกจัดว่า

เป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลาชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์

โดยเฉพาะกับเรื่องที่มักใช้แต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง ไร้ซึ่งเหตุผลต่างๆ ที่สมควร

ทางออกที่ดีคือ ควรมองข้ามปัญหาด้านอารมณ์เหล่านั้นไปซะ

แล้วหันมาเปลี่ยนเป็นการมองหาสาเหตุ รวมไปถึงเหตุและผลที่เหมาะสม

ว่าอะไรที่มีส่วนทำให้เกิดสถานการณ์แย่ๆ พวกนี้ขึ้นมาจะดีกว่า ไม่ก้าวขึ้นไปสู่จุดแตกหัก

แต่เชื่อว่าต่างคนก็ไม่อยากที่จะสร้างความร้าวฉาน

หรือสร้างความแตกหักในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น

เพราะหากในวันหนึ่งจะ “ต้องเลิกรู้จักกัน” ไปนั้น

นั้นก็เป็นเพราะปัญหาของทางด้านอารมณ์ที่ไม่รู้จักการควบคุม












ขอบพระคุณแหล่งที่มา: https://www.rugyim.com/19826

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget