21/7/62









หลายคนชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเช้ามาต้องได้ดื่มสักแก้ว เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายก่อนไปทำงาน บางคนก็ไม่ชอบความขมของกาแฟ จึงไม่อยากที่จะดื่มสักเท่าไหร่ แต่คุณรู้ไหมว่า กาแฟนั้น มีประโยชน์มากกว่าช่วยให้คุณหายจากอาการง่วงซึมซะอีกนะ จะมีประโยชน์แค่ไหน ไปดูพร้อมกันเลย

1. ช่วยลดอัตราการเสี่ยงการเป็น โ ร ค หั ว ใ จ

จากงานวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้ว ทุกวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยง โ ร ค หั ว ใ จ ได้ถึง 26 เปอร์เซนต์ เพราะในกาแฟนั้น จะมีคาเฟอีน ที่จะไปช่วยลดคอเลสเตอรอลในหลอดเ ลื อ ด ทำให้ไม่เกิดการแข็งตัว และ เกิดการอุดตันน้อยลงอีกด้วย






2. ช่วยเรื่องความจำเสื่อม

มีการทำวิจัย โดยทดลองให้วัยกลางคนดื่มกาแฟวันละ 1 แก้ว ซึ่งสามารถช่วยชะลอความจำเสื่อม และ ลดการเป็น โ ร ค อั ล ไ ซ เ ม อ ร์ ได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ในงานวิจัยของอเมริกาเหนือ ได้กล่าวไว้ว่า การดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน ทำให้สมงอมีความจำที่ดีขึ้น และ ช่วยเพิ่มความจำระยะสั้นได้ดี มากกว่าคนที่ยังไม่ได้ดื่มกาแฟ และยังช่วยกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. ช่วยบรรเทาอาการ ป ว ด ศี ร ษ ะ และ ไ ม เ ก ร น

คาเฟอีนในกาแฟนั้น มีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยระงับอาการ ป ว ด ศีรษะและอาการของ ไ ม เ ก ร นได้ ใครที่มีอาการ ป ว ด ศีรษะบ่อยๆ หรือเป็น ไ ม เ ก ร น ควรดื่มกาแฟเพื่อช่วยบรรเทาอาการมากๆ






4. ช่วยลดโอกาสเกิด นิ่ ว ใ น ถุ ง น้ำ ดี

คนที่ดื่มกาแฟประมาณ 1-2 แก้วต่อวันหรือมากกว่า จะมีอัตราการเป็น นิ่ ว ใ น ถุ ง น้ำ ดี น้อยลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว คาเฟอีนนั้นมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ซึ่งจะช่วยให้ร่ายกายขับ ส า ร ต่างๆออกมาได้ดีขึ้นนั่นเอง

5. ช่วยป้องกัน ม ะ เ ร็ ง

มีการศึกษาและวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟวันละ 1 แก้ว ต่อวัน เป็นเวลานาน จะสามารถป้องกันการเป็นม ะ เ ร็ ง ใน ลำ ไ ส้ ใ ห ญ่ ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะในกาแฟมีกรดอะซิติก ซึ่งสามารถช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ที่ผิดปกติ และขจัด ส า ร พิ ษ ภายในร่างกาย ทำให้ลดอัตราการเกิด ม ะ เ ร็ ง ในระยะแรก ของหลายๆชนิดได้

6. ช่วยทำให้อารมณ์แจ่มใส คลายความ เ ค รี ย ด

มีผลการวิจัยที่ยืนยันว่าการดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน สามารถลดความ เ ค รี ย ด ได้ 15-20 เปอเซ็นต์เลยทีเดียว เพราะคาเฟอีนนั้น จะทำให้เราผ่อนคลาย และคลายกังวลลง จึงทำให้เรารู้สึกหงุ ดหงิ ดน้อยลงเวลาดื่มกาแฟ

7. ช่วยบรรเทาอาการ ห อ บ หื ด

เนื่องจาก ส า ร คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์ช่วยระงับความ เ ค รี ย ด ของประสาทสัมผัสสำรอง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการ ห อ บ หื ด ดังนั้นการดื่มกาแฟเป็นประจำจะสามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้

8. ช่วยสลายไขมัน

การดื่มกาแฟมีประโยชน์ในการช่วยสลายไขมัน เพราะจะไปทำให้ไขมันในอาหารที่เรากินเข้าไปเกิดการ แ ต ก ตัว และจะให้พลังงานทดแทน และยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่บอกว่า กาแฟมีส่วนทำให้น้ำหนักลดลงได้ เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นผลมาจาก ส า ร คาเฟอีนนั่นเอง

9. ช่วยทำให้ความสามารถในการเล่นกีฬาดีขึ้น

คาเฟอีนเป็น ส า ร สำคัญในกาแฟที่ช่วยลดอาการ ป ว ด ของกล้ามเนื้อได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยบรรเทาอาการล้าของกล้ามเนื้อในกลุ่มนักกีฬาหรือหลังการออกกำลังกายได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากทีเดียว ดังนั้นใครที่ชอบออกกำลังกาย ก็ลองดื่มกาแฟดูนะ มันช่วยได้

10. ช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวสดชื่น

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่เลือกดื่มกาแฟ ก็เป็นเพราะต้องการให้ร่างกายนั้นตื่นตัว และหายจากอาการง่วงซึมในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือดึกๆในช่วงอ่านหนังสือสอบ เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ ก ร ะ ตุ้ น ป ร ะ ส า ท ส่วนกลาง ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้ากลับมาสดชื่น หายอ่อนเพลีย และยังมีการทดสอบกับนักกีฬา โดยนักกีฬานั้นสามารถฝึกซ้อมได้นานขึ้นแต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะมีความตื่นตัวในระยะสั้นๆ

11. ช่วยชะลอความ ช ร า

เพราะคาแฟจะมี ส า ร ต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง ป้องกันริ้วรอ ย ไม่ให้ดูแ ก่กว่าวัย และยังช่วยฟื้นฟูผิวจากแสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ใครที่เป็นสายความสวยความงามต้องลองกันเลยแหละ

12. ช่วยลดการเป็น เ บ า ห ว า น

ซึ่งมีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสา รโภชนาการทางการแพทย์ระบุไว้ว่า คนที่ดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้ว จะมีความเสี่ยงที่จะเป็น เ บ า ห ว า น ต่ำกว่าคนที่ไม่ดื่มเลยถึง 60 เปอร์เซนต์ เพราะในกาแฟจะมี ส า ร ต้านอนุมูลอิสระ แบบเดียวกับที่มีในองุ่น และในกาแฟยังมีมากกว่าในผลบลูเบอรี่ซะอีก

รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ไม่เคยดื่มกาแฟ ก็ลองหันมาดื่มกันดูนะคะ แต่ถ้าจะให้ดีควรดื่มกาแฟดำเพียวๆ จะดีกว่ากาแฟที่ใส่ครีมเทียม หรือ น้ำตาล เพราะ จะส่งผลดีต่อสุขภาพ และ ได้ประโยชน์จากกาแฟมากกว่า สุดท้ายจะรับประทานอะไรก็ขอให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป จะดีที่สุด











ขอบคุณแหล่งที่มา:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget