29/1/63


การยอมรับกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญเบื้ อ งต้นของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพราะการที่คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันตลอดชีวิต ต้องเห็นหน้ากันทุกวัน ต้องมีกิจก ร ร มทุกวันร่วมกัน ต้องปรึกษาหารือกันทุกวัน นั่นต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน





หญิงสาวชาวเหนือแต่งงา นกับหนุ่มใต้
หญิงสาวไม่ทานเผ็ ด แต่หนุ่มใต้ขาดเผ็ดไม่ได้

มีอยู่วันหนึ่ง หญิงสาวกลับบ้านแม่ พ่อของเธอซึ่งชอบทานเ ค็ มเป็นคนทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาทานข้าว คุณแม่ของเธอถือถ้วยใส่น้ำร้อนมาใบหนึ่ง ก่อนทาน แม่ของเธอก็คีบอาหารผ่านน้ำร้อนในถ้วย จากนั้นถึงคีบเข้าปากทานอย่างเอ ร็ ดอร่อยโดยไม่พูดอะไร
เธอสังเกตสิ่งที่แม่ทำ จึงเข้าใจว่าทำไมพ่อกับแม่จึงอยู่กันได้ยืดยาว


วันต่อมา
เธอทำอาหารที่สามีชอบทาน แน่นอน แต่ละอย่างมีรสเผ็ดจั ดจ้ า น
แต่ตรงหน้าของเธอ มีน้ำร้อนอยู่ถ้วยหนึ่ง
สามีของเธอเห็นภรรย าคีบอาหารผ่า นน้ำร้อนแล้วก็ทานอย่างเอ ร็ ดอ ร่ อ ย น้ำต าก็รินขึ้นมา

วันต่อมา สามีของเธออ าส าทำอาหารบ้าง แต่อาหารที่เขาปรุงไม่มีอะไรที่เผ็ดเลยสักอย่าง
แต่ว่า ตรงหน้าของเขา มีจานเล็กๆที่มีพริกอยู่เต็มจาน ทุกครั้งที่เขาตักข้าวเข้าป า ก เขาก็จะหยิบพริกในจานนั้นต ามเข้าปากไปด้วย ทุกคำข้าวอร่อยเหมือนเดิม

เพื่อชีวิตร่วม
เขาเลือกที่จะเพิ่มจานพริก เธอเลือกที่จะเพิ่มถ้วยน้ำร้อน นี่คือปรัชญาในการร่วมชีวิต
ประชากรบนโลกมีมากถึง 7พัน 2 ร้ อ ยล้ า นกว่าคน คนที่ใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้อง สามีภรรย าและญาติมิตร หากมิใช่มีวาสนาต่อกันมา จะมาร่วมชีวิตกันได้อย่างไร รักและถนอมคนรอบตัวให้มากนะครับ เพราะเราต่างมีวาสนาที่ได้มาอยู่ร่วมกัน











ขอบคุณแหล่งที่มา: นุสนธิ์บุคส์

นับพื่อนอย่านับตอนดีๆให้นับตอนที่เรากำลังแ ย่กำลังตกต่ำนั่นแหละเขาเรียกว่าเพื่อนแท้เพื่อนที่หวังดีกับเราเขาอาจจะไม่พูดไม่เพราะหรอ กอาจจะพูดตรงๆแม้รู้ว่าเราไม่ชอบก็ต าม

6 วิธี รู้ธาตุแท้คนคนไหนจริงใจคนไหนแค่หวังผลประโยชน์

หากคุณต้องการจะลองใจใครบางคนที่อาจเพิ่งรู้จักหรือเพิ่งเจอกันครั้งแรกคุณจงทำตัวให้ธรรมดามากที่สุด

หากเขายังคงรับได้นั่นหมายความว่าเขาจริงใจกับคุณหากเขารับไม่ได้นั่นหมายความว่าเขาเข้ามาเพียงเพื่อต้องการผลประโยชน์บางอย่างกับคุณนั่นเอง

หากคุณจน

ถ้าคุณจนเขาจะดูถูกเหยี ย ดหย ามคุณมั้ยเขาจะรังเกียจคุณรึมั้ยแล้วเขาจะปฏิบัติเช่นไรกับคุณข้อนี้จะช่วยให้คุณรู้ถึงธาตุแท้ได้อย่างลึกซึ้งสุดๆของ

จิตใจคนเพราะความจนมันช่วยคัดคนที่ไม่จริงใจออ กไป





หากคุณ วิ ก ฤ ต

ถ้าคุณมีปัญหาหรือมีช่วงวิกฤติของชีวิตใครกันที่อยู่ข้างคุณแล้วใครกันที่ทิ้งคุณไปหากเขาจริงใจกับคุณเขาจะช่วยเหลือคุณอยู่ข้างๆให้กำลังใจคุณแล้ว

ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มพลังแต่ถ้าเขาทิ้งคุณไปอย่าเสียใจไปเลยแต่จงขอบคุณที่มันช่วยคัดคนที่ไม่ดีออ กไปจากชีวิตเรา

เลือ กปฏิบัติ

หากเลือ กปฏิบัติกันคนละอย่างคนละแบบระหว่างคนจนกับคนรวยมีฐานะซึ่งเลือ กปฏิบัติกันแบบต่างสุดขั้วนั้นหมายความว่าคนประเภทนี้ไม่น่าคบหาเพราะไม่มีความจริงใจเลยประจบคนรวยเพื่อหวังประโยชน์ส่วนคนจนก็ไม่เห็นคุณค่าหากเขาเป็นคนจริงใจต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

พูดไม่จริงทำไม่จริง

พูดอีกอย่างแต่การกระทำอีกอย่างทำสวนทางกับความจริงที่พูดไว้หรือพูดแล้วแต่ทำไม่ได้ไม่เคยมีสัจจะแสดงว่าคนประเภทนี้ไม่มีความจริงใจเลยเอาแต่พูดให้ตัวเองดูดีแต่แท้จริงแล้วทำไม่เคยได้อย่างที่พูดไว้

หน้าไว้หลังหลอ ก

ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างอยู่กับคนนู้นก็ด่าคนนี้อยู่กับคนนี้ก็ด่าคนนู้นไม่มีความจริงใจกับใครอย่างแท้จริงจงรีบเดินออ กมาจากคนประเภทนี้เพราะมีแต่เสี ยกับเสี ย












ขอบคุณแหล่งที่มา: https://deesoulmuch.com

27/1/63




จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังปรากฏภาพการแนะนำวิธีสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีเพื่อช่วยให้การป้องกันโรคมีประสิทธิภาพขึ้น

โดยขั้นตอนดังกล่าวเป็นการเผยว่าหากให้ด้านสีฟ้าอยู่ด้านนอกจะเป็นการป้องกันเชื้อโรคจากตัวเราไปแพร่เชื้อใส่คนอื่น ส่วนให้สีฟ้าอยู่ด้านในและหันเอาสีขาวออกเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากคนอื่นเข้าสู่ตัวเรานั้น

ล่าสุดทางเพจ Drama-addict ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงว่า อย่าเชื่อกับข้อแนะนำที่ถูกส่งต่ออยู่ในขณะนี้ พร้อมเผยแพร่ภาพจากกรมควบคุมโรค ถึงวิธีการใช้หน้ากากอนามัยป้องกันโรคให้มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด ดังนี้
1. ล้างมือทุกครั้งก่อนการสวมใส่หน้ากากอนามัย
2. สวมหน้ากากให้คลุมทั้งจมูกและปาก โดยให้ขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูกและให้รอยจีบคว่ำลง เอาด้านที่มันวาว หรือด้านที่มีสีเข้มออกด้านนอก
3. หน้ากากที่ทำด้วยกระดาษควรเปลี่ยนวันละครั้ง และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิด ส่วนหน้ากากที่ทำด้วยผ้าสามารถนำมาซัก ผึ่งแดดให้แห้งและนำมาใช้ได้อีก
4. หากหน้ากากชำรุด หรือเปรอะเปื้อนควรเปลี่ยนใช้อันใหม่
5. นอกจากใช้หน้ากากแล้ว ควรหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก













ขอบคุณแหล่งที่มา:https://news.mthai.com/

นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเตือน ว่า มีเคสคนไข้ หนุ่มวัย 15 มาพบแพทย์ด้วยโรคโมโนนิวคลิโอซิส หรือ โรคติดต่อจากการจูบ โดยระบุว่า

โรคโมโนนิวคลิโอซิส โรคติดต่อจากการจูบ ไข้เจ็บคอมีผื่นตามตัว ผู้ป่วยชายอายุ 15 ปี มาด้วย 7 วันก่อนมีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ เบื่ออาหาร เหงื่อออกตอนกลางคืน เหมือนคล้ายจะเป็นหวัดซื้อยากินเองไม่ดีขึ้น ไปหาหมอที่คลินิกแพทย์ตรวจร่างกายส่องในคอบอกว่ามีหนองเป็นทอนซิลอักเสบ จึงให้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียไปกิน

วันต่อมามีผื่นขึ้นเต็มตัวตั้งแต่หน้า คอ หน้าอก หลัง จึงไปพบแพทย์อีกครั้งด้วยกังวลว่าแพ้ยา แพทย์ที่คลินิกเห็นว่าคนไข้อ่อนเพลียมากจึงส่งเข้าโรงพยาบาลสิชล รับคนไข้ตรวจเพิ่มเติมพบต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ ม้ามโต ไม่ซีด ไม่เหลือง ตรวจเม็ดเลือดพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง 12,800 cells/mm 3 มี lymphocyte 50% monocyte 5% atypical lymphocyte 7% เข้าได้กับโรคโมโนนิวคลิโอซิส







โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคที่เรียกกันว่า โรคติดต่อจากการจูบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจาม

ในเบื้องต้นผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บคอ และรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อเป็นแล้วมักจะค่อย ๆ หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ แต่ส่วนมากเกิดในวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น

วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงการจูบกับผู้ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น รวมถึงผ้าเช็ดหน้า หรือของใช้ส่วนตัวต่างๆ

พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำลายหรือเสมหะของผู้อื่น ส่วนตัวผู้ป่วยเองก็พยายามหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่นด้วยเช่นกัน









ขอบคุณแหล่งที่มา:https://news.mthai.com/social-news/791241.html

26/1/63


ในชีวิตปัจจุบันคุณต้องพบกับผู้คนหลากหลายรูปแบบเหลือเกิน บางคนที่คุณกำลังคบกำลังสนิทด้วย แน่นอนว่าบนโลกใบนี้อาจไม่มีคนเพอร์เฟ็กซ์ไปซะทุกด้าน แต่ถึงเวลาที่ตัวคุณต้องพิจารณาคนรอบข้างของคุณแล้วว่าเขากำลังมีนิสัยที่ไม่น่าคบดังต่อไปนี้หรือไม่

1. ทำตัวเป็น “นกสองหัว” ปากอย่างใจอย่างหรือต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง
สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้ว ต่อหน้าเขาคุณจะเปรียบเป็นเทพบุตรผู้ไร้ราคี เขาจะไม่มีวันเอาข้อเสียหรือสิ่งที่เขาไม่พอใจมาพูดให้คุณได้ฟังต่อหน้าเป็นแน่ แต่อย่าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณเขาได้เอาคุณไปพูดไปนินทาไปพูดกระแนะกระแหนไปกุเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง จนกลายเป็นอีกเรื่องที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้

2. กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด
บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆเข้ามาหาคุณ ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ อาจจะเป็นแรงกาย หรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณเพื่อโอนเข้าทางประโยชน์ของเขา มันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุกคนเกิดมาอย่าง “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน” แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ เขากลับเห็นแต่ประโยชน์ที่คุณจะสามารถให้เขาได้ ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณสารพัดรูปแบบ สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้ โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่างใด

3. สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ
คนประเภทนี้เอาคำว่า “เพื่อน” หรือความสัมพันธ์ต่างๆมาบังหน้าไว้เท่านั้น คุณสมบัติของคนเหล่านี้ ร้อยวันพันปีหากไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลย ยกตัวอย่างเล็กๆเช่น เขาจะ Line จะ Facebook ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขากำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้น กลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็ว บุคคลเหล่านี้ขัดกับตำราเพื่อนที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่าคนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน คนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ

4. ทำตัวเป็น “งูเห่า” เลี้ยงไม่เชื่อง
สมัยเด็กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มาบ้างแล้ว บางทีคุณไม่ได้โง่หรอกที่เมื่อเพิ่งรู้จักกันระยะแรกคุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ “งูเห่า” ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อยๆ แต่คนประเภทนี้นอกจากเขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ เขายังไปฉกกัดคุณ มีความริษยาในดวงใจ จ้องจะทำร้ายคุณเป็นผลตอบแทน

5. เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง








6. ไม่มีความ “เสมอภาค” ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย
คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม ตัวอย่างก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุกข์ใจอยากแช ร์ก็ไปหาคุณได้ตลอดเวลา แต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุกข์บ้างคุณกลับไม่สามารถไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟัง หรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจของคุณอยู่ฝ่ายเดียวเช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วยอะไรเขาจิปาถะ แต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณกลับไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับคืนมา เรื่องนี้ดูเผินๆอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด

7. เป็นมิจจาชีพในรูปแบบคนรู้จัก
บุคคลประเภทนี้อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณเพราะเขาต้องการบางอย่างจากคุณแบบไม่สุจริต เขาอาจเป็นมือขโมยในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินทางตัวหรือทางปัญหา หรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์ด้วยวิธีแบบเดียวกับที่มิจฉาชีพเขาทำกัน สำหรับคนประเภทนี้แล้วเมื่อคุณต้องระวังตัวเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีคนประเภทนี้เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

หากคนรอบข้างของคุณหรือขอให้ถือโอกาสนี้รวมไปให้ตัวคุณเองได้พิจารณาตัวเองมีลักษณะนิสัยข้อใดที่เป็นอยู่จงรู้ไว้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่น่าคบหา หากเปลี่ยนได้ควรตั้งใจเปลี่ยนให้ดีตั้งแต่วันนี้ดีกว่า คุณต้องอย่าลืมว่าคนที่มีนิสัยดังกล่าวเหล่านี้นั้นจงเชื่อว่าล้วนจะไม่เป็นผลดีต่อตัวของบุคคลคนนั้นเอง บุคคลอื่นอาจจะรู้ไม่ถึงในครั้งแรกๆ แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มี Common sense เป็นของตนเองที่จะรับรู้และพิจารณานิสัย ชีวิตของบุคคลเหล่านี้จะแสแสร้งหรือทำนิสัยด้านลบเหล่านี้ต่อคนอื่นได้กี่ครั้งกันเชียว


วิธีง่ายๆ ในการมองหาเพื่อนแท้สักคนที่จะเคียงข้างเรา

ประการแรกควรมีความจริงใจ หวังดีต่อกัน ซึ่งในจุดนี้บางครั้งอาจจะมองกันยากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาบ่มเพาะมิตรภาพ และพยายามเรียนรู้นิสัยใจคอกันเป็นเวลานานพอสมควร ดั่งคำกล่าวที่ว่า เพื่อนใหม่เป็นดั่งของขวัญ ไม่รู้ว่าเปิดดูข้างในจะเจอกับอะไร แต่เพื่อนเก่าเปรียบดั่งสมบัติล้ำค่า ยิ่งนานวันไปยิ่งมีคุณค่ามากขึ้น

เพื่อนที่ดีต่อกล้าแนะนำในทางที่ถูกที่ควร ต้องกล้าขัดใจหากเห็นว่าทำไม่ถูกต้องไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม อีกทั้งไม่ควรประจบสอพลอเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น ยามที่เพื่อนมีปัญหาทุกข์ใจต้องคอยปลอบประโลม และต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ที่สำคัญต้องขจัดความรู้สึกอิจฉาริษยาหากเห็นเพื่อนได้ดี

ไม่ว่าปัญหาจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม เพื่อนที่ดีต้องมีความกระตืนรือร้นที่จะเข้าไปช่วย อย่าผละจากไปโดยปล่อยให้เพื่อนต่อสู้ตามลำพัง ถ้าหากเกินกำลังตัวเองก็ต้องพูดคุยกันเพื่อร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เรื่องเงินถือเป็นเรื่องที่ลำบากใจที่สุดอย่างหนึ่ง สำหรับคำว่าเพื่อน หากถูกเอ่ยปากขอยืมเงินแล้วก็ควรจะให้ยืมถ้าไม่มากนัก ที่สำคัญเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้คืนก็ควรจะให้ตรงเวลาเพื่อสร้างเครดิตให้แก่ตนเอง แต่ถ้าหากมากเกินไปจนไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด หรือช่วยได้บางส่วนก็สมควรบอกตามตรง อย่างไรก็ดี หากเพื่อนเอ่ยปากยืมไปแล้วหลายครั้ง และให้สัญญาว่าจะใช้ แต่ก็ไม่ยอมใช้เลยสักครั้งเดียวก็สมควรเลิกคบไปเลยจะดีกว่าเนื่องจากเป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าเจ้าเพื่อนคนนี้มันไม่มีสัจจะแม้แต่น้อย

ทุกคนเกิดมาจะอยู่โดดเดียวคนเดียวไม่ได้ต้องมีการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเสมอ….

สิ่งที่ควรอยากจะฝาก… ก็คือ… เวลาอยู่คนเดียวให้ระวังความคิด… อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา

อยากที่จะได้เพื่อนที่จริงใจ เราต้องแสดงความจริงใจก่อน

แต่… อย่าได้ไปคาดหวังว่าจะได้รับความจริงใจกลับมาจากทุกคน

แม้เราจะให้ความจริงใจไปแล้วก็ตาม… ( เผื่อใจเอาไว้บ้าง )

“เพื่อนแท้” คือผู้ที่ยินดีเข้ามาในชีวิตเราขณะเมื่อคนทั้งโลกจากเราไป

“เพื่อนแท้” คือคนที่ยังอยู่กับเรา ร่วมทุกข์ร่วมสุขแม้ในเวลาที่เราไม่มีประโยชน์จะให้

“เพื่อนแท้” คือบุคคลที่เราสามารถฝากชีวิตไว้ได้โดยเฉพาะยามทุกข์ยากลำบาก

“เพื่อนแท้” คือผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ผู้ทำให้ชีวิตเปี่ยมด้วยความหมายและมีคุณค่าสูงสุด

“เพื่อนแท้” คือคนที่อยู่กับเราทุกสภาพชีวิตไม่ว่าเราจะมีชื่อเสียงหรือตกต่ำ

“เพื่อนแท้” คือบุคคลที่คบกับเราในลักษณะที่เราเป็นอยู่โดยที่เราไม่ต้องใส่หน้ากาก

“เพื่อนแท้” คือคนที่มีความเต็มใจช่วยเหลือเราโดยที่ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์

“เพื่อนแท้” คือคนที่ไม่ได้เห็นผิดเป็นชอบ แต่ตักเตือนเราไม่ให้หลงผิดและแนะนำทิศให้ถูกต้อง

“เพื่อนแท้” คือคนที่ไม่ได้เห็นด้วยกับเราในทุกอย่างทุกครั้ง แต่เป็นคนที่ตักเตือนเราด้วยในบางครั้ง

“เพื่อนแท้” คือคนที่ให้ไหล่ไวซับน้ำตา คือคนที่คุณอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางความเงียบแล้วไม่อึดอัด










ขอบคุณแหล่งที่มา:บทความจาก : อาจารย์โช

ข้อเสีย 9 ข้อ ของคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น มากเกินไป

แง่มุมร้ายๆ ของการเป็น “ชอบช่วยเหลือคนอื่น” มากจนเกินไป ที่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายได้ทั้งตัวเอง และคนใกล้ตัว อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1.ตกที่นั่งลำบาก

เพราะความที่เป็นคนมีจิตใจดีมากจนเกินไป จึงมักชอบหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง จนลืมมองความเป็นจริงหลายอย่างไปว่า

ข้อเสียของการได้มอบความช่วยเหลือ อาจเป็นสิ่งที่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองและคนใกล้ชิด โดยการนำพาทุกคนไปตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และไร้ซึ่งการหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีอะไรได้พ้น

2.คอยแก้ปัญหา ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย

ในบางครั้ง ความใจดีก็ทำให้เราต้องกลายมาเป็นคนที่คอยนั่งแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองต่างก็ไม่ได้มีส่วนได้ หรือส่วนเสียให้กับเรื่องราวเหล่านั้น

แถมยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่สามารถช่วยสร้างความหนักหนาให้กับหัวใจได้เป็นอย่างดี เพราะการต้องมานั่งคิดและแก้ไขปัญหาแทนคนอื่น โดยที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยแม้แต่นิด

3.กลัวคนอื่นจะไม่พอใจ

“ ความใจดี ” อาจเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คนบางคนเกิดความเกรงกลัวได้ว่า คนอื่นจะต้องรู้สึกไม่พอใจแน่ๆ ถ้าหากมอบความช่วยเหลือให้คนเหล่านั้นออกไปได้อย่างไม่ดีพอ

ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งความคิดที่สามารถย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองเอาได้อย่างง่ายๆ เพราะนอกจากจะต้องมานั่งแบกรับภาระปัญหาของคนอื่นแล้ว ยังต้องมาคอยหวาดระแวงว่า ใครจะเกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอีกด้วย

4.เก็บการกระทำของคนอื่นมาคิดมาก

แง่ร้ายของการเป็นคนใจดีคือ มักกลายเป็นคนที่ชอบนำคำพูด รวมถึงการกระทำของคนรอบข้างมาคิดมากจนเกิดเป็นความทุกข์

และมักเป็นความคิดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะด้วยพื้นฐานที่มีความใจดีซ่อนอยูในนั้น จึงทำให้ต้องคอยเก็บการกระทำของคนอื่นมาคิดเล็กคิดน้อยอยู่เสมอ

5.ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

หลายครั้งกับการต้องนำตัวเองเข้าไปยืนอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าและคายไม่ออก เพราะไม่สามารถบอกปัด หรือปฏิเสธความช่วยเหลือได้

จนทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดและลำบากใจ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำตามใจตัวเองได้อย่างที่ต้องการได้อยู่ดี

6.ห่วงแต่ความลำบากของคนอื่นจนลืมตัวเอง

บุคคลประเภทนี้ มักจะเป็นผู้ที่ไม่สามารถทนเห็นความลำบากที่เกิดขึ้นกับคนอื่นได้ และคอยแต่จะอยากยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ

คนใจดีบางคน จึงมักชอบห่วงแต่ความลำบากของคนไกลตัว มากกว่าที่จะมองเห็นถึงความรู้สึกของคนใกล้ตัว จนกลับกลายเป็นว่า ได้ลืมนึกถึงตนเองและครอบครัวไป

7.กลายเป็นคนใจร้าย เพราะการตอบปฏิเสธแค่ครั้งเดียว

ข้อเสียของความใจดี ที่มักจะไม่ค่อยได้ตอบปฏิเสธกับใคร เมื่อถูกเข้ามาขอรับความช่วยเหลือ จนในบางครั้ง หากสถานการณ์รอบข้างบีบบังคับให้ตอบปัดการช่วยเหลือ

ก็อาจมีผลทำให้คนบางคนต้องตกเป็นผู้ที่ถูกมองว่าใจร้ายจากคนอื่นโดยทันที ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยตอบไปปฏิเสธไปแค่เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น

8.เสียความรู้สึก เมื่อหมดประโยชน์

คนบางประเภทก็มักชอบเดินข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิต เพื่อหวังเอาผลประโยชน์จากความใจดีที่มีอยู่ จนสุดท้ายก็ได้กลับกลายเป็นว่า

บ่อยครั้งที่คนใจดีหลายคน อาจจะต้องกลายเป็นคนใจร้าย เพียงเพราะการถูกมองข้ามความสำคัญ เมื่อหมดผลประโยชน์กับคนบางคน

9.ตกอยู่ท่ามกลางคนที่ทำอะไรไม่เป็น

ด้วยความที่คุณช่วยเหลือเขาทุกอย่าง เขาก็จะรอคอยแต่จะให้คุณช่วย ไม่ว่าจะเพื่อนคุณ ครอบครัวคุณ ลูกคุณ แฟนคุณก็ตาม เขาจะกลายเป็นที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักหน้าที่ตนเอง บางทีเขาจะคิดว่าคุณจะช่วยให้เรามีชีวิตดีขึ้น ร่ำรวยเงิน สุขภาพแข็งแรงขึ้น

ทั้งหมดนี้อาจมีจุดเริ่มต้นเล็กๆ จากคุณที่ชอบช่วยเหลือเขาแค่ 1 ครั้งเดียวก็เป็นได้ ฉะนั้น ปล่อยให้เขาได้ลองทำเองบ้าง ล้มเอง เจ็บเองซะบ้าง เขาจะได้เก่งๆ










ขอบคุณแหล่งที่มา:goodlifeupdate.com

เหตุที่คนเคยรักกันมานาน เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น

คนที่ศีลเสมอกัน พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าวิธีการดูเนื้อคู่นั้น จะต้องดูความเหมาะสม ความยั่งยืน หลายสิ่งหลายอย่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน

การเลือกคู่ครองก็เหมือนกับการเสี่ยงดวง บางคนก็สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่คู่ควร บางคนก็แตกต่างกันมากเกินไป จนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แล้วทีนี้เราจะเลือกคู่ครองของเราอย่างไร เรามาทำความเข้าใจวิธีในการเลือกคู่ครองในแบบของพระพุทธองค์ ว่าต้องพิจารณาอะไรบ้าง

วิธีดูเนื้อคู่ในแบบที่เหมาะสม โดย ธ. ธรรมรักษ์ อธิบายว่า การที่คนสองคนจะเป็นเนื้อคู่ ก้าวไปสู่การที่จะเป็นคู่ครองกันได้แบบที่ถูกต้องเหมาะสมนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า “…..ดูก่อนคฤหบดีและคฤหปตานีถ้าภรรยาและสามีทั้งสองหวังจะพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ (ชาติหน้า) ไซร้

ทั้งสองคนนั้นแลพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ…” (สมชีวสูตร จ. อํ. (๕๕)ตบ. ๒๑ : ๘๐-๘๑ ตท. ๒๑ : ๗๑ ตอ. G.S. II : ๗๐)

การเลือกเนื้อคู่จึงแยกออกเป็น 4 ข้อหลัก

1. ศรัทธาเสมอกัน

หากเรามีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน เราก็จะมีมุมมองในเรื่องเดียวกัน ข้อดีหลัก ๆ ก็คือ เราจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งและอยากเอาชนะคะคานกันและกัน ไม่ถกเถียงเพื่อให้ความเชื่อของเราชนะอีกฝ่าย ทำให้ครองคู่กันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากเรื่องศรัทธาเสมอกัน อีกอย่างที่สำคัญ คือความชอบและรสนิยม หากตรงกันแล้ว ก็จะลดความขัดแย้ง ลดเรื่องที่ต้องทะเลาะในแต่ละวันไปได้

พระพุทธองค์ได้ชี้ทางสว่างให้กับคนที่จะมาเป็นคู่ครองกัน สองคนนั้นควรต้องมีความเชื่อเสมอกันและไปในทิศทางเดียวกัน เช่น เชื่อในหลักศาสนาเดียวกัน เพราะถ้าไม่เชื่ออะไรที่เหมือนกัน ก็จะอยู่ด้วยกันแบบชีวิตไม่สงบสุขแน่นอน

ทั้งนี้ หากเป็นเนื้อคู่ประเภทคู่เวรคู่กรรมกันแล้ว ทั้งคู่มาที่มาพบกันก็เพราะมีกรรมลิขิต วิบากกรรมได้กำหนดไว้แล้ว มีเป้าหมายให้คนทั้งคู่มาชดใช้วิบากกรรมของคนทั้งคู่ที่มีต่อกันให้หมดสิ้นกันไป ซึ่งจะนานหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมนั้นจะหนักหรือจะเบา เมื่อหมดแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป หรือคู่ที่เลิกรากัน เปลี่ยนคู่บ่อย ๆ ก็เป็นเพราะอาจจะเป็นเนื้อคู่กันในปางก่อนจริง มาเกื้อกูลกันบ้างในชาติปัจจุบันจริง แต่เมื่อบุญที่ทำร่วมกันมันมีน้อย ใช้บุญกันไปจนหมดแล้วไม่มีทำเพิ่ม ถึงเวลาก็ต้องแยกย้ายกันไป

2. มีศีลเสมอกัน

ศีลเสมอกัน เป็นสิ่งที่คนพูดถึงกันบ่อย ๆ เวลาจะมองหาคู่ครองต้องให้มีศีลเสมอกัน อธิบายง่าย ๆ คือ คนที่รักษาศีล รู้จักยับยั้งชั่งใจ พากันไปสู่สิ่งที่ดีงาม ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น แต่หากสองคนนั้นมีศีลไม่เสมอกัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ด้วยกันได้

ในเรื่องศีลเสมอกัน ดูง่าย ๆ คนที่ชอบทำบุญ รักษาศีล ถ้าเจอคู่ครองที่ไม่รักษาศีล หรือศีลน้อยกว่า เช่น ชอบการพนัน ตกเย็นคว้าขวดเหล้า หรือทำอาชีพที่ไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็ย่อมไม่ฟังในสิ่งที่เราพูด เราตักเตือน ทำให้มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันง่าย

หากเราเจอคู่ที่มีศีลเสมอกันพากันเข้าวัด ทำบุญ ทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ไม่มีใครฉุดดึงชีวิตอีกฝ่ายให้ต่ำลง

3. จาคะเสมอกัน

คำว่า จาคะ มีความหมายว่า การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น หมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลส ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัย ตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

จะเห็นได้ว่า คนที่มีจาคะย่อมเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ มีความเอื้ออาทรต่อความทุกข์ยาก คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตัว หากคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอกัน คงเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือคนอื่น

คงจะดีไม่น้อย หากเราเลือกครองคู่กับคนที่มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง ชอบทำบุญ สามารถช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนได้เหมือน ๆ กัน เมื่อเรารักจะเป็นผู้ให้ก็จะอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ให้ แล้วยังสัมผัสถึงความสุขใจ เมื่อมองเห็นผู้รับยิ้มแย้ม พอใจ ทำให้ความสุขของผู้ให้ทวีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. ปัญญาเสมอกัน

ปัญญาเสมอกันคืออย่างไร พระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระอริยสงฆ์องค์หนึ่งของเรา ครั้งหนึ่งท่านได้ตอบคำถามให้กับลูกศิษย์ เมื่อลูกศิษย์คนนั้นถามท่านว่า ปัญญาคืออะไร

ท่านจึงได้เมตตาตอบไปว่า ปัญญา ความหมายทั่วไปแปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา แปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้ มิใช่รู้อย่างเดียวต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาพิจารณาด้วย มิใช่ฉลาดอย่างเดียว ต้องมีเฉลียวใจด้วย

พระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่องของการที่จะมาเป็นคู่ครองกัน ต้องมีปัญญาเสมอกัน ถ้าใกล้เคียงกันมากก็จะยิ่งมีความสุข ความเจริญ ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกัน

ไม่เพียงแต่ศีลเสมอกัน การมีศรัทธาเสมอกัน จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกัน ก็จะช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันอย่างมีความสุข ยากต่อการทะเลาะเบาะแว้ง วิธีดูเนื้อคู่และการเลือกคู่ครองที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องอาศัยทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสำคัญ










ขอบคุณแหล่งที่มา:ปลูกต้นธรรม

18/1/63









ดูให้ดี ในสังคมใส่หน้ า ก าก ยิ้มอาจไม่ได้แปลว่า จริงใ จ เราไม่มีทางรู้ว่า คนที่กำลังทำดีกับเรา ในใ จเขาคิดอะไร สังคม หน้ าก าก ใบหน้ า ฉ าบด้วย รoยยิ้ม อาจซ่oน มี ด ไว้ข้างหลัง

อย่ าพึ่งให้ใ จเกินร้อย อย่ าให้ใครเอาความแ ส แ ส ร้ ง มาแลกกับ ความไว้ใ จ กว่า ลายจะอoก กว่า หางจะโผล่ ต้oงใช้เวลา ต้องดูให้นาน

คิดเยอะ ดีกว่า ไม่รู้จักคิด โ ล กสวยมากไป ระวังจะกลายเป็น โลก มื ด ให้ไป เท่าทีได้รับ ดีมาก็ดีกลับ แ บ บแฟร์ๆ แต่ถ้าคบแล้วมีแต่ เสี ย

ไม่เคยได้ ก็ไม่จำเป็นต้อง แลก มันไม่คุ้ม ล้านคน ล้านความ คิ ด จะให้ชoบอะไรเหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ คนที่ จ ริ ต ตรงกัน แค่เห็นหน้ าก็ถูก ช ะ ต า

จะพูด จะคิด จะทำอะไร โดนใ จ ไปหมด แต่ถ้า ไม่ถูกช ะ ต า จะมี อ ค ติ ทันที ทำอะไรก็ขั ด หู ขัด ต า ทำดีก็มองเป็น ไม่เข้าท่า

จะไปยึดติดอะไรกับใ จคน ถ้ามัวแต่ แคร์ คนทั้งโลก จะใช้ชีวิตโค ต ร ย าก โดยเฉพาะบางคน ที่เก่งแต่วิ จ า รณ์คนอื่นในด้านลบ ไม่จำเป็นต้องสน ใ จ และให้ความสำคัญ

คิดจะทำอะไรต้อง มั่น ใ จ อย่าให้เสียงวิ จ ารณ์ จากคนไม่กี่คน มาทำให้เรา ลังเล ไม่ต้องรู้สึกอะไรทั้งนั้น ถัาวันนี้ ทำดีที่สุดแล้ว

สำเร็จ คือเราได้ พัฒนา ไม่ใช่ทำให้คนอื่น พอใจ อย่ าให้ เสียงวิ จ ารณ์ ทำให้คุณ ผิ ดหวัง กับสิ่งที่คุณทำ ดีที่สุด แล้ว เชื่อว่าในชีวิตประจำวันของหลายๆ คนนั้น






ต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลาย ต า ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะ คนที่ต้องทำงานพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก คุณอาจเจอเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เจ้านาย ลูกน้อง ที่มีนิสัยแ ต กต่างกันไป

ซึ่งแน่นoนว่า ทุกคนย่oม อ ย ากเจอ คนที่จริงใ จอยู่รอบกาย ไม่ใช่คนตo แ ห ลที่ใส่หน้ า ก ากเข้าหากัน และวันนี้เราจะพาคุณไปดูข้ อ แ ต กต่างsะหว่าง

คนจริง ใ จ และคนตo แ ห ล ว่าจะมีอะไรแ ต กต่างกันบ้าง และเพื่อนๆ ที่คุณคบอยู่เข้าจริงใ จ หรือตo แ ห ลกันแน่ 5 ข้ อ สั งเ ก ตระหว่าง คนจริงใ จ กับ คนตo แ ห ล

1 คนจริง ใ จ เขาพูดกันซึ่งๆ หน้ า ไม่ป ากเก่งลับหลัง

คนจริง ใ จ แสดงความคิดเห็น อ ย่ างเปิดเผย

คนตo แ ห ล ชoบแoบนิ น ท าลับหลัง

2 คนจริง ใ จ เขารู้จักปsะมาณตน อยู่ในที่ๆ ตัวเองควรอยู่






คนจริง ใ จ ไม่พ ย าย ามทำให้คนอื่นๆ มาชoบตัวเอง

คนตo แ ห ล พ ย าย ามอย่างหนัก ที่จะทำให้คนอื่นชoบตัวเอง

3 เรื่องการเคาsพ เขาจะไม่หน้าไหว้หลังหลoก ไม่เห็นเงิuเป็นใหญ่

คนจริง ใ จ ให้ความเคาsพกับทุกคน

คนตo แ ห ล ให้ความเคารพกับคนที่มีอำ น าจ

4 คนจริง ใ จ เขาไม่ โ ช ว์ ไม่เสนoหน้ า เพsาะมันไม่ได้ดูเท่

คนจริง ใ จ ไม่คุยโม้ โอ้ อ ว ด

คนตo แ ห ล ชoบโชว์อoฟอยู่ตลoดเวลา

5 คนจริง ใ จ เขาไม่ทำตัวมีปัญห า หรือทำตัวเด่น และไม่ชoบเรียกร้oง

คนจริง ใ จ ไม่ใช่คนเรียกร้oงความสน ใ จ

คนตo แ ห ล ชoบเรียกร้oงความสน ใ จ











ขอบคุณแหล่งที่มา:khaonaroo








บางครั้งผู้หญิงเราก็มักจะใส่ใจคนอื่น มากเกินไป จ นตัวเองไม่ไหว ควรหยุดแล้วหันกลับมาดูแลตัวเองบ้างนะ เพราะเวลาเราเดื อ ดร้อน มีคนไม่กี่คนที่เขามาเดื อ ดร้อนกับเราด้วย

ในชีวิตของผู้หญิง เป็นเจ้าหญิง 20 ปี เป็นราชินี 1 วัน เป็นนางสนม 10 เดือน เป็นแม่นม ทั้งชีวิต นี่คือทั้งชีวิตของลูกผู้หญิง เธออุ้มลูกไปด้วยทำกับข้าวไปด้วย ซักผ้าไปด้วย

เธอใช้มือที่เต็มไปด้วยฟองของผงซักผ้าป า ดเหงื่อที่ไหล บนใบหน้า และบ อ ก กับตัวเองว่า รอสักวัน เมื่อลูกของแม่โต แม่ก็คงจะได้พักกับเขาบ้างสักที

เมื่อลูกของเธอโตพอที่จะเข้าอนุบาล หลังจากส่งลูกน้อย เธอยังคงไปจ่ายตลาด ซื้อผักทำกับข้าว เธ อ ก ลับมาทำงานที่ค้างไว้ตั้งแต่เช้าจรดบ่าย ตอนอุ้มลูกน้อยกลับบ้าน






เธอบ อ ก กับลูกน้อยว่า หากลูกแม่นั่งรถไปโรงเรียนเองได้ แม่คงจะเหนื่ อ ยน้อยลง แม่คงจะได้พักบ้างสินะ

เธอไม่รู้ ริ้ ว ร อ ยเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเธออย่างไม่รู้ตัว เมื่อลูกของเธอเริ่มเรียนในระดับประถม เธอยิ่งยุ่งมากกว่าเดิม น อ ก จากงานที่ต้องทำ เธอต้องคอยส อ ดส่องว่าลูกคบเพื่อนยังไง

เพื่อนคนนั้นของลูกจะเป็นคนดีหรือคนร้ าย วงเวียนชีวิตของเธอวกไปวนมาอยู่กับที่ทำงาน ที่บ้านที่โรงเรียน ที่ตลาด ลูกและสามีของเธอ คือ ทางช้างเผื อ ก ส่วนเธอคือโลกทั้งใบ

ผู้หญิง แ ก่เ พ ร าะ ส า เ ห ตุนี้

เธอรอให้ลูกโต รอให้ลูกจบมหาลัย รอให้ลูกมีงานทำ รอให้ลูกมีครอบครัว รอให้ลูกมีหลาน เธอบ อ ก กับตัวเอง รอสักวันฉันคงได้สบาย เวลาเป็นผู้พ ร ากความอ่ อ นเ ย าว์ของเธอไป

เหลือทิ้งไว้แต่รอยเหี่ ย ว ย่ น ไ ฝ ฝ้ า ก ร ะ ผมที่ขาวโพลน เมื่อลูกเติบใหญ่ อ อ ก เรือนจากไป เหลือไว้แต่แม่ผู้ ช ร า มาบัดนี้เธอได้แต่ ถ อ นห ายใจ ถึงเวลาแล้วสินะ

ที่ฉันจะได้พักผ่อนบ้างเสี ยที แต่น่าเสี ยดาย ฟันเริ่มโย ก หูเริ่มตึง ต าเริ่มฝ้าฟาง คบเขี้ ย วของแข็ง ที่ต้อง อ ดกลืนน้ำล ายแทนในอดีตไม่ได้

ไม่อาจฟังเพลงเพราะในอดีต ที่แทบหาเวลาฟังไม่ได้ มองอะไรที่สวยงามเป็นภาพเบลอเหมือนกันไปหมด ไม่เหลือสิ่งที่ ศิ วิ ไ ลซ์ ลูกที่อ อ ก เรือนไป กลับมาเยี่ ย มเธออีกครั้ง พร้อมกับ เ ด็ ก ตัวน้อย

เธอเริ่มยุ่งและมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เด็ กน้อยไม่ได้เรียกเธอว่าแม่ แต่เรี ย กเธอว่า ย่าและย าย เธอรักสามี รักลูก รักหลาน รักครอบครัวของเธอ

แต่เธอแ ท บจะไม่สนใจและรักคนๆ หนึ่งเลย ใครคนนั้น คือใคร ก็คือตัวของเธอเอง หญิงสาวเอ๋ย เธอจะรักตัวเธอเองได้เมื่อไหร่ เธอก็ไม่เคยรักตัวเองเลยใช่หรือไม่

คุณสามีและลูกๆ ทั้งหลาย ควรรักเธอให้มากเข้าไว้ อย่าปล่อยให้เธอแ ก่ลงโดยที่คุณไม่เคย ดู แ ลหรือใส่ใ จ เ ธ อ เ ล ย













ขอบคุณแหล่งที่มา:yin dee yin dee

8/1/63









ชีวิตคนเรา ก็ต้องการความสุข ความโชคดี และความรักดีๆ ในเรื่องของความโชคดี ที่ในบางครั้งอาจมาในรูปแบบของคนรอบข้าง หรือคนใกล้ตัว ที่คอยยอมรับและสนับสนุนในความเป็นตัวของคุณเอง ซึ่งถ้าหากได้พบเจอแล้ว อย่าลืมที่จะรักษ าเขาคนนั้นไว้ให้ดีล่ะ

1 คนที่คอยสนับสนุนปัจจุบันของคุณ

การจะต ามหาใครสักคน เพื่อให้เข้ามาคอยแสดงความยินดี ในตอนที่คุณกำลังประสบความสำเร็จ และร่วมเศร้าใจไปด้วยกัน เมื่อคุณเริ่มเกิดความรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน อาจจะดูไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายสักเท่าไรนัก เพຣาะถ้าหากไม่ใช่คนที่ใกล้ตัว หรือเกิดความสนิทสนมกับคุณจริงๆ แล้ว

เชื่อเถอะว่า คงไม่มีใครอย ากที่จะเข้ามาร่วมกอดคอ ทุ ก ข์ ใจไปกับคุณได้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ที่ว่า เราอาจจะไม่ได้พบเจอกับบุคคลเหล่านั้นอีกเลยในชีวิตนี้ เพຣาะถ้าหากโลกกลมๆ ใบนี้

ยังคงไม่ยอมหยุดหมุน เราเองก็ยังคงต้องเดินหน้าต ามหา คนๆ นั้น ให้เจอต่อไป และมันจะดูเป็นความโชคดีขนาดไหนกัน ถ้ามีใครสักคนคอยอยู่เคียงข้าง และให้กำลังใจไปกับสิ่งที่คุณทำในทุกๆ วัน






2 คนที่ผลักดันให้คุณก้าวไปหาอนาคต

ในบางครั้ง คำว่า อนาคต ก็ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และสามารถบ่งบoกถึงความสำเร็จในชีวิตของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากมีการวางแผนอนาคตที่ดี แน่นอนว่า ความสบายในอนาคต ก็ย่อมเป็นอะไรที่มักจะเกิดขึ้นต ามไปด้วย แต่จะดีแค่ไหน ถ้าหากในปัจจุบันนี้ของคุณ มีผู้ที่คอยเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่

และคอยที่จะผลักดันให้คุณก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่มี เขาคนนั้น คอยเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และกอดคุณไว้ในวันที่คุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะไม่ไหว ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเหมือนกัน ที่จะได้พบกับเขาคนนั้น คนที่มองเห็นว่า

อนาคตของคุณก็ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา แต่ถ้าหากพบแล้ว ก็จงอย่าลืมหันไปขอบคุณเขา และอย่าลืมขอบคุณในความโชคดีของตัวเองที่มีเขาคนนั้นอยู่ในชีวิตด้วย






3 คนที่ยอมรับในอดีตของคุณได้

สำหรับคนบางคนแล้ว เรื่องราวที่เคยพบเจอในอดีต อาจเป็นอะไรที่ เ ล ว ร้ า ย มากเกินกว่าที่ใครสักคนจะยอมรับได้ แม้กระทั่งตัวเราเอง จนเป็นเรื่องราวที่มักก่อให้เกิดความคิด และการตั้งคำถามที่ว่า จะมีสักกี่คนกัน ที่จะสามารถทนรับฟังเรื่อง แ ย่ ๆ

ในอดีตเหล่านั้นของเราได้อย่างไม่มีข้อแม้ ซึ่งในแง่ของความเป็นจริงแล้ว ทุกคนเองต่างก็ต้องมีอดีตที่ย ากจะลืม และย ากที่จะยอมรับมันด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปต ามทางที่มันควรจะเป็นอยู่ดี

แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง คุณได้พบเจอกับคนที่ยอมรับในความเป็นตัวคุณทั้งเมื่ออดีต และในปัจจุบันได้ ก็จงอย่าลืมภาคภูมิใจในตัวเองล่ะว่า คุณน่ะคือคนที่โชคดีที่สุดแล้ว











ขอบคุณแหล่งที่มา:sineenow









คนรักมักเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะมีสักกี่คนกันที่จะเดินเคียงข้างเราไปตลอ ด คนหลายคน รักกันด้วยใจ อยู่กันด้วยเหตุผล ทนกันไปด้วยความผูกพัน และจากกันด้วยอา ร มณ์ ชั่ ววูบ

คนส่วนใหญ่จะคิดว่า เ นื้ อ คู่ นั้นคือคนที่เข้ากับเราได้เป็นอย่างดี อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข โดยคู่แท้คนนี้จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตของคุณ

แต่อย่างไรก็ต ามถ้าเป็น เ นื้ อ คู่ กันจริงลำดับต้นของจริงไม่ต้อง ก ลัว ว่าจะ แ คล้ว คลาด กัน ไม่อย า กเจอก็ต้องเจอ นึกว่าจะไม่เจอกันอีกแล้วในชาติ ก็ต้องเจอ






เพราะถ้าเป็น เ นื้อคู่กันจริง แล้ว มี ก ร ร ม ดีบุญใหม่มาช่วยเป็นปัจจัยตัวช่วยเสริม ช่วยเหลือ ผ ลั กดัน เมื่อถึงเวลาแล้ว มีทั้งบุ ญเก่า บุญใหม่พร้อม

ไม่มี วิ บ า ก ก ร ร ม ไม่ดีมาคอยขัดขวางอีก เรียกว่า ทางสะดวกที่ต้องกลับมาเจอกัน ถ้าเป็นอ ย่า ง นี้ต่อให้อีกคนอยู่ขั้วโลกใต้ อีกคนอยู่ขั้วโลกเหนือ บุญและ ก ร ร ม ก็ยังลิขิตพามาเจอกันได้

ต่อให้ได้แต่งงานมาแล้วเป็นสิบ ครั้งร้อย ครั้ง ในชาตินี้ก็ยังมีโอ ก าสได้กลับมาเจอ มาครองคู่กันอีก

หลายคนคงเคยได้ยินเ รื่ อ งรักข้ามขอบฟ้า หรือคนที่มาแต่งงานกันตอน แ ก่ เ ฒ่ า วั ย ช ร า เ รื่ อ งทำนองนี้เกิดขึ้นกันบ่อย คงจะเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้าง

คนที่เคยเป็นคู่รักกันตอนหนุ่มสาว ต่อมามี ก ร ร ม มาบัง มี ก ร ร ม มาส่งผลต้องแยกกันทั้ง ที่ไม่อย า กจาก ต่างคนต่างไปพบคู่ในลำดับต่อไป และภายหลังตอน แ ก่ ก็กลับมาเจอกันอีก เมื่อ ก ร ร ม ไม่ดีที่มาบัง






มาแยกให้จากกันนั้นถูก ช ดใช้หมดก ร ร ม ไปแล้ว จึงมาพบกันกลายมาเป็นความรักแบบลมหวน ถ้าในเวลานี้มีโอ กาสได้เจอ เ นื้ อ คู่

ในลำดับต้นแล้ว และสามารถอยู่ร่วมกันเป็นคู่ครองได้ในชาติภพนี้ ก็อย า กจะแนะนำด้วยความปรารถนาดีว่า ในช่วงเวลาในชีวิตปัจจุบัน ก็ควรที่จะช่วยดูแลเกื้อกูลกันและกัน

เ รื่ อ งราวต่าง ที่ผ่านเข้ามาบั่นทอนชีวิตคู่นั้นคือ วิบาก ก ร ร ม หรือผล ก ร ร ม ที่ทั้งสองคนต้องชดใช้ที่ทำร่วมกันมาและฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเคยกระทำต่อกัน ถ้ายังมีความรักต่อกันก็ขอให้อโหสิ ก ร ร ม ต่อกัน เ สี ย

มีการกระทบกระทั่งกัน หนักนิดเบาหน่อยก็ควรจะให้อภัยซึ่งกันและกัน หมั่นชวนกันไปทำบุญ มีชีวิตร่วมกันไปในทิศทางที่ดี ชวนกันรั กษ าศีล รั กษ าธรรมให้มั่นคง

อย่าไปออ ก นอ ก ลู่นอ ก ทาง ลด ละ เลิก บ า ป ทั้งปวง ช่วยกัน เตื อนสติห้า มปรามกันและกัน ความสุขก็จะมากกว่า ทุ ก ข์ ก ร ร ม ที่มีต่อกันจะได้ต ามไม่ทันส่งผลไม่ได้ในชาตินี้ เพราะบุญพาหนีไปไกล เ สี ย แล้ว

ในชาติหน้าถ้าอย า กจะได้มาเจอเป็นคู่ครองกันอีก ก็เร่งสร้างบุญกุศลร่วมกัน และบุญเฉพาะตัว ก็อาจจะนำพามาพบกันอีกในทุกชาติภพได้ เพราะแรงของบุญเป็นผู้นำพามาให้เจอกัน










ขอบคุณแหล่งที่มา:latestfashionstrend

1/1/63

 


 


 


Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget