สิ่งที่คนวัย 40-90 ต้องพบเจอ ที่จะ กล่าว ต่อไปนี้คือเรื่องจริง ของทุกคน
ชีวิตของเราทุกคนก็มีเรื่องราวมากมาย
และแท้จริงความไม่แน่นอน
ก็เกิดขึ้นได้ทุกช่วงของชีวิตแน่นอน
เราต่างก็อยาก
มีชีวิตเป็นอยู่ที่สุขสบาย
แล้วทุกคนเชื่อหรือไม่ ตัวคุณในช่วงชีวิต
40-90 นี้นั้น
สิ่งต่างๆเกิดขึ้นกันทุกคนแน่ๆ
เรื่องราว
ของชีวิต
หากอายุ 40…”เรียนสูง”กับ”เรียนต่ำ” เหมือนกัน..บางที
คนเรียนน้อยก็หาเงินได้มากกว่า..!!
หากอายุ
50…”สวย” กับ “ขี้เหร่” นั้นก็เหมือนกัน..ไม่ว่าตัวคุณ
จะสวยเพียงใด
พออายุปูนนี้แล้ว ย า กมากที่จะปกปิดความแ ก่
หากอายุ
60…”ตำแหน่งสูง” กับ “ต่ำ” ก็เหมือนกัน… ก็เหมือนกัน
วัยหลังเกษียณ
แม้แต่ลูกจ้างก็มองไม่เห็นหัวเจ้านายแล้ว
หากอายุ 70…
“บ้านหลังใหญ่”กับ “เล็ก” ก็เหมือนกัน..เวลาที่ข้อเสื่อม
ลุก
เดินลำบากเข้า คุณก็แค่ต้องการที่เล็กๆพอพักเท่านั้น
หากอายุ80…”มีเงิน”กับ”ไม่มีเงิน” ก็เหมือนกัน
แม้ตัวคุณอยาก จ่ายเงิน แต่ตอนนี้คุณก็ไม่รู้จะจ่ายเงินซ์้ออะไร
หากอายุ90…”หลับ”กับ”ตื่น” ก็เหมือนกัน เพราะพอตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร
หัดรู้จักทำตัวสบายๆเถอะนะ
สุดท้ายแล้วเราก็เหมือนกัน…หัดลืมความกดดันทั้งหลายนะ
แล้วแสวงหาความสุขกับชีวิตเถอะ
ถือเงินทองเป็นจุดหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตจะมีแต่ความย า กลำบากนะ
หากชีวิตยึดบุตร ธิดา
เป็นจุดศูนย์กลาง ชีวิตจะมีแต่ความเหนื่อยล้า
หากชีวิตเรา
ถือความรักเป็นจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตนั้นมีแต่ความเจ็บ ป ว
ด
หากชีวิตเรา
ถือการแข่งขันเปรียบเทียบเป็นจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตนั้นมีแต่ความตกต่ำ
หากชีวิตเรา
ถือความเอื้อเฟื้อใจกว้างเป็นจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตนั้นมีแต่ความโชคดีมีสุข
หากชีวิตเรา
ถือความพอเพียงเป็นจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตนั้นมีแต่ความสุขหากชีวิตเรา
ถือบุญคุณเป็นจุดมุ่งหมายเป็นศูนย์กลาง
ชีวิตนั้นมีแต่ใจเมตตา
การเป็นคนดี
ที่สำเร็จด้วยปัญญา จะต้องมี 6 ประการ
1. การเป็นคน เหนือเราให้นบน้อม
ใต้เราอย่ าดูหมิ่น นั้นคือ ธรรมเนียมปฏิบัติ
2. การงาน
เรื่องใหญ่ให้จริงจัง เรื่องเล็กที่ไม่สำคัญอย่าใส่ใจ ถือเป็นปัญญา
3.
เกี่ยวเนื่องผลประโยชน์ สามารถได้ 6 ส่วน แต่เอาเพียง 4 ส่วน ถือเป็นคุณธรรม
4.
ความเที่ยงตรง รักษาตัวดั่งเช่นดอกบัว หอมใสสะอาดขจรไกล ถือเป็นความเที่ยงธรรม
5.
การปฏิบัติกับคน นอกในเป็นหนึ่งเดียว สัตย์ซื่อต่อผู้คน
ถือเป็นความน่าเชื่อถือ
6. การบำเพ็ญ รวมศูนย์จิตสมาธิ เคารพฟ้ารักผู้คน ถือเป็นเมตตาธรรม
เวลาไม่มีเงิน ขอให้ขยันทำงาน เงินก็มา อันนี้เรียกว่า สวรรค์ประทานรางวัลให้ความขยัน
เวลามีเงิน เอาเงินออกไป คนก็มาเลย อันนี้เรียกว่าเงินไปคนมาหากมีคนแล้ว
เอาความรักออกไป ธุรกิจก็มาเลย อันนี้เรียกว่ารวยรักมากผู้คนหากธุรกิจสำเร็จ
เอาปัญญาออกไป ความ ปิติ ความเจริญก็มา อันนี้เรียกว่า คุณธรรมอยู่ฟ้า
หากไม่ยอมให้หรือเสียสละ ก็ไม่มี โลกนั้นกลมคุณปฏิบัติกับคนอื่นเช่นใด
คนอื่นก็ปฏิบัติกับคุณเช่นนั้นมอบให้ท่านเรื่องจริงอีกหลายประโยคหากท่านป่ ว ย
ไม่หนักเป็นเวลา 1 สัปดาห์ท่านอาจจะพบว่า เงินไม่สำคัญ
แต่ร่างกายและคนในบ้านสำคัญหากท่านป่วยหนักเป็นเวลา 1 เดือน
ท่านอาจจะพบว่า เงินสำคัญมาก ร่างกายและคนในบ้านก็สำคัญมากๆหากท่านป่วยหนักมาก
เป็นเวลาครึ่งปีเดาว่าท่านต้องละทิ้งทรัพย์สินเงินทองและยศถาบรรดาศักดิ์
เพื่อแลกกับสิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นของสำคัญที่สุดน่าเสียดาย บนโลกใบนี้คนส่วนใหญ่
เมื่อแผลหายก็ลืมถึงความเจ็บปวด รวมถึงข้าพเจ้าด้วย
ดังนั้นเมื่ออ่านถึงตอนนี้ ก็จะรู้แน่ชัดว่าในชีวิตเรา ใครและเรื่องอะไรถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญ
1. อย่าอวด อ้างเงินของคุณ ในโรงพย าบาลมันเป็นเพียงกระดาษ 1 แผ่น
2. อย่ าอวด อ้างงานที่คุณทำ เมื่อไม่มีคุณ จะมีคนอีกเหลือคณานับที่ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าที่คุณทำ
3. อย่าอวด อ้างห้องหับบ้างช่องของคุณ เมื่อคุณไปแล้ว มันก็กลายรังของคนอื่น
4. อย่าอวด อ้างรถของคุณ เมื่อคุณจากไป กุญแจรถก็อยู่ในมือคนอื่นแล้ว
มีสิ่งเดียวที่คุณจะอวด อ้างได้นั้นคือ สุขภาพของคุณ
เมื่อไม่มีคนอื่น คุณก็ยังสามารถอาบแดด
ดื่มชา เพลิดเพลินกับชีวิตที่มีสุขภาพดีขอให้ดูแลรักษาตัวเองให้ดี
เนื่องเพราะอะไหล่ไม่อาจเข้ากันได้
และราคาสุดแพงนี่เป็นการกระตุ้น เพื่อส่งเสริมและแบ่งปันกัน (ให้ดูแลรักษาตัวเองให้ดี)
หลายเรื่องเป็นปรัชญาการดำรงชีวิต หรือการปฏิบัติตนของคนเพื่อให้อยู่ดีมีสุข
สามารถหาได้หลายที่อ่านแล้วๆ เพื่อนๆ หรือ ผู้อ่าน ลองปรับใช้ดู
เอาเท่าที่ทำได้นะและ ขอให้ ได้แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับรู้ ยิ่งมากยิ่งดี
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.chit-in.com/?p=38859
0 comments:
แสดงความคิดเห็น