9/7/64



เดอะซัน แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ รายงานข่าวสุดเหลือเชื่อ เรื่องราวของหนุ่มอินเดียที่ซ่อนแฟนสาวของตัวเอง อยู่ในบ้านที่เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ นานถึง 11 ปี โดยไม่มีใครในครอบครัวรู้เรื่องเลย 

หนุ่มคนดังกล่าวคือ ราห์มัน วัย 34 ปี ชาวรัฐเกรละ ของอินเดีย กับแฟนสาว สาจิตา วัย 28 ปี ทั้งคู่เคยหนีไปด้วยกันเมื่อปี 2010 เหตุเพราะฝ่ายชายเกรงว่าครอบครัวจะไม่ยอมรับแฟนสาวของเขา เพราะนับถือต่างศาสนากัน แต่หลังจากหนีไปได้ไม่นาน ราห์มันก็แอบพาแฟนสาวกลับเข้ามาอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างลับๆ ทั้งที่ในบ้านมีทั้งพ่อ แม่ และน้องสาวอยู่ร่วมชายคาด้วย โดยทั้งคู่อาศัยอยู่ในห้องนอนด้วยกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา นานถึง 11 ปี โดยไม่มีใครในบ้านระแคะระคาย







รายงานระบุว่า ราห์มัน จะล็อกประตูห้องนอนเสมอเวลาที่เขาไม่อยู่บ้าน และยังป้องกันแน่นหนา ถึงขนาดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ที่ประตู เพื่อไม่ให้คนในบ้านเปิดห้องของเขาได้ ส่วนในเวลากลางคืน สาจิตา จะออกไปข้างนอกได้ โดยใช้ทางออกทางหน้าต่างห้อง

เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อพ่อแม่ของฝ่ายหญิงซึ่งแจ้งความคนหายไว้เมื่อ 11 ปีก่อน กระทั่งตำรวจมาพบ ราห์มันและสาจิตาเข้าจนนำไปสู่การสอบสวน สุดท้ายทั้งคู่รับสารภาพว่าแอบอยู่ด้วยกันอย่างลับๆ ในบ้านของฝ่ายชาย แม้ตำรวจจะไม่เชื่อเรื่องราวในตอนแรก แต่เมื่อมาตรวจสอบก็ต้องยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง

ท้ายที่สุด คู่รักคู่นี้ถูกส่งตัวขึ้นศาล แต่ก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อผู้พิพากษาตัดสินให้ทั้งคู่อยู่ร่วมกันได้ในที่สุด

















ขอบคุณแหล่งที่มา:​sanook.com



ช็อกกันทั้งงานแต่ง แม่เจ้าบ่าวปีนขึ้นเวทีก่อนใช้รองเท้าแตะตีลูกชาย หลังไม่ปลื้มวิวาห์กับหญิงต่างวรรณะ


กลายเป็นคลิปไวรัลอีกคลิปในโลกออนไลน์ สำหรับเหตุการณ์งานแต่งงานแห่งหนึ่งที่ประเทศอินเดีย โดยขณะที่บ่าวสาวคู่หนึ่งกำลังแลกเปลี่ยนพวงมาลัยอยู่บนเวทียกระดับที่ทำเป็นรูปดอกบัว จู่ๆ แม่เจ้าบ่าวก็เดินขึ้นเวทีแทรกตัวผ่านช่างภาพปีนขึ้นไปถึงเวที ก่อนถอดรองเท้าแตะตีลูกชายตัวเองต่อหน้าแขกเหรื่อ







เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Bharuwa Sumerpur เขต Hamirpur รัฐอุตตรประเทศ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งงานแต่งดังกล่าวไม่มีการเชิญญาติๆ ฝ่ายเจ้าบ่าวมาร่วมงาน เนื่องจากแม่ของเจ้าบ่าวรวมถึงพี่น้อง ไม่พอใจที่เจ้าบ่าวตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับหญิงสาวต่างวรรณะในศาล และอยู่กินฉันสามีภรรยา


ต่อมาเมื่อครอบครัวของเจ้าสาวตัดสินใจจัดงานฉลองมงคลสมรสให้ทั้งคู่ แม่ของเจ้าบ่าวจึงบุกไปก่อเรื่องดังที่เห็นในคลิป ก่อนจะถูกแขกในงานช่วยกันคุมตัวออกมาและส่งกลับบ้าน


ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่า สามีภรรยาคู่นี้อาศัยอยู่อีกเมือง แต่กลับมาหมู่บ้านเพื่องานเลี้ยงมงคลสมรส ซึ่งหลังจบงานทั้งคู่ก็เดินทางกลับทันที
















ขอบคุณแหล่งที่มา:​sanook.com

8/7/64








ประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส แห่งประเทศเฮติ ถูกกลุ่มมือปืนบุกสังหารถึงที่บ้านพักภายในทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขณะที่ภริยาถูกยิงได้รับบาดเจ็บ

นายโมอิสใช้เวลาตลอดปีที่ผ่านมา ทำสงครามการเมืองกับกลุ่มฝ่ายค้าน เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา ซึ่งฝ่ายค้านยืนยันว่าครบแล้ว แต่โมอิสอ้างว่าเหลืออีก 1 ปี

การเสียชีวิตของนายโมอิส เกิดขึ้นในขณะที่เฮติเผชิญเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ใครจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อ เพราะตัวเลือกลำดับ 1 นั้น เสียชีวิตเพราะโควิด-19 ไปแล้ว

โฌเวเนล โมอิส ประธานาธิบดีแห่งประเทศเฮติ ถูกกลุ่มมือปืนบุกสังหารถึงในทำเนียบประธานาธิบดี ในเมืองหลวงกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธที่ 7 ก.ค. 2564 โดยที่ภริยาของเขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส



นายโมอิส เป็นผู้นำเฮติ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2560 และต้องเผชิญการประท้วงเป็นวงกว้างหลายครั้ง ของประชาชนที่ต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน ซึ่งกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ความรุนแรงในประเทศพุ่งสูงขึ้น ความเป็นอยู่ของประชาชนย่ำแย่ลง





นอกจากนั้น ในช่วงปีที่ผ่านมา ยังเกิดข้อพิพาทเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโมอิส ซึ่งควรจะครบ 5 ปีไปแล้วหากนับตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่นายโมอิสยืนกรานว่า เขายังเหลือวาระอีก 1 ปี จนเกิดการประท้วงขับไล่เขาอีกระลอกตั้งแต่ต้นปี 2564

อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของนายโมอิสทำให้การปกครองของเฮติตกสู่ความไม่แน่นอนอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่า ใครจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจแทนเขาจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะตัวเลือกลำดับ 1 นั้น เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ไปแล้ว

นาย โคล้ด โจเซฟ นายกรัฐมนตรีรักษาการแห่งเฮติ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส วัย 53 ปี ถูกบุกสังหาร โดยการโจมตีเกิดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อเวลาประมาณ 1:00 น. วันที่ 7 ก.ค. 2564 ฝีมือของ “กลุ่มติดอาวุธหนักที่ได้รับการฝึกฝนในระดับสูง”

นายโจเซฟไม่ได้ระบุว่า คนร้ายเป็นใคร แต่สื่อสหรัฐฯ อย่าง ไมอามี เฮอรัลด์ เผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งพวกเขาอ้างว่าถ่ายในที่เกิดเหตุ มีเสียงหนึ่งในมือปืนประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA)

ด้านนายบอคคิต เอ็ดมอนด์ เอกอัครราชทูตเฮติประจำสหรัฐฯ บอกว่า เขาได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว และเชื่อว่า คนกลุ่มนี้แสร้งทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่ DEA แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาเป็นทหารรับจ้าง เป็น “นักฆ่าที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี” ก่อนที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะออกมายืนยันเช่นกันว่า คนกลุ่มนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ DEA



อย่างไรก็ดี การสังหารนายโมอิส ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องประกาศ “สถานการณ์ปิดล้อม” (state of siege) ซึ่งเป็นขั้นที่ 2 จาก 3 ระดับในระบบภาวะฉุกเฉินของเฮติ หมายถึงให้ปิดพรมแดนทั้งหมด รวมทั้งประกาศใช้กฎอัยการศึกชั่วคราว มอบอำนาจให้ทหารและตำรวจแห่งชาติ บังคบใช้กฎหมายได้

ส่วนนางมาร์ติน โมอิส ภริยาของนายโมอิส ได้รับบาดเจ็บในการโจมตีครั้งนี้ด้วย โดยนายเอ็ดมอนด์ เผยว่า สุภาพสตรีหมายเลข 1 มีอาการวิกฤติแต่ทรงตัว และเธอจะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่สหรัฐฯ

โดนประท้วงขับไล่ตั้งแต่ปี 2562

เมื่อปี 2562 มีรายงานของศาลถูกเผยแพร่ออกมา กล่าวหาเจ้าหน้าที่และอดีตรัฐมนตรีหลายคน ว่ายักยอกเงินทุนเพื่อการพัฒนามูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กู้มาจากเวเนซุเอลานับตั้งแต่ปี 2554 ทำให้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต้องหยุดชะงัก เอกสารยังกล่าวหานายโมอิสว่ามีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติหลายอย่าง

การเปิดเผยเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจไปทั่วประเทศ กลุ่มฝ่ายค้านเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วง ซึ่งมีผู้ชุมนุมหลายพันคนออกมารวมตัวกันต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพื่อทวงถามว่า เงินที่ควรถูกนำมาช่วยประเทศนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโมอิสลาออกจากตำแหน่ง แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ตาม





ด้านกลุ่มฝ่ายค้านซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมือง, กลุ่มศาสนา, กลุ่มประชาสังคม, สมาชิกฝ่ายตุลาการและองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวหารัฐบาลของนายโมอิสว่า มีปัญหาเรื่องการทุจริตและการไร้ความรับผิดชอบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลให้การก่ออาชญากรรมแบบเป็นกลุ่มแก๊งและการลักพาตัวเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับมาตรฐานการใช้ชีวิตของประชาชนในชาติที่ตกต่ำลง

นายโมอิสยังถูกโจมตีว่าไร้ความรับผิดชอบที่เลื่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติจากเดือนตุลาคม 2562 เป็นเดือนเดียวกันปี 2564 ซึ่งทำให้จนถึงทุกวันนี้ เฮติไม่มีรัฐสภา และนายโมอิสออกกฎหมายโดยใช้อำนาจกฤษฎีกาเพียงอย่างเดียว

ครองตำแหน่งอย่างไม่ชอบธรรม

นายโมอิสยังใช้เวลาตลอดปีที่ผ่านมา ทำสงครามการเมืองกับกลุ่มฝ่ายค้าน เรื่องความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงรอบใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปหลายราย

กลุ่มฝายค้านยืนยันว่า วาระ 5 ปี ของนายโมอิสควรสิ้นสุดในวันที่ 7 ก.พ. 2564 เพราะตามรัฐธรรมนูญ วาระการดำรงตำแหน่งจะเริ่มขึ้นเมื่อทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่นายโมอิสอ้างว่า วาระของเขาควรสิ้นสุดลงในปี 2565 เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการโกงเลือกตั้งปี 2558 ทำให้การสาบานตนรับตำแหน่งของเขาถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560

นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว นายโมอิสยังวางแผนจะจัดการลงคะแนนเสียงประชามติ เพื่อยกเครื่องรัฐธรรมนูญของประเทศ โดยอ้างว่า จำเป็นต้องทำให้ทันสมัย แต่กลุ่มฝ่ายค้านกังวลว่า เขาจะแก้กฎหมายส่วนที่ห้ามประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 สมัย ซึ่งจะทำให้เขาสามารถลงเลือกตั้งได้อีกครั้งในเดือนกันยายน

ใครจะสืบทอดอำนาจ

นาย ฌอง วิลแนร์ มอแรง ประธานสมาคมผู้พิพากษาแห่งชาติของเฮติ ยอมรับกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ใครจะเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทนนายโมอิส กลายเป็นเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน

ตามปกติแล้ว ตัวเลือกลำดับ 1 ที่ได้เป็นประธานาธิบดีต่อ ในกรณีที่ผู้นำประเทศไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้คือ ประธานศาลฎีกา ซึ่งคนล่าสุดคือ เรเน ซิลเวสเตอร์ แต่เขาเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และพิธีศพก็กำลังจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 7 ก.ค.

หรือถ้ารักษาการนายกรัฐมนตรี โคล้ด โจเซฟ ต้องการขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ เขาต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาเสียก่อน แต่ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ เฮติไม่มีสภานิติบัญญัติ

นายมอแรงบอกอีกว่า ในปี 2558 เคยมีกรณีที่ประธานรัฐสภาแห่งชาติมารับตำแหน่งผู้นำเพื่อปิดช่องว่าง แต่ปัจจุบันกลับไม่มีผู้ที่ดำรงตำแหน่งนั้น อย่างไรก็ตาม เฮติยังเหลือสมาชิกวุฒิสภาอีก 1 ใน 3 ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งนายโจเซฟ แลมเบิร์ต ผู้นำวุฒิสมาชิก อาจกลายเป็นตัวเลือกลำดับถัดไปก็เป็นได้

วิกฤติเลวร้ายลง

การเสียชีวิตของนายโมอิสเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศที่ยังคุกรุ่น โดยเฉพาะในกรุงปอร์โตแปรงซ์ กลุ่มแก๊งคู่อริต่อสู้กันเองหรือปะทะกับตำรวจ เพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าถิ่นตามพื้นที่ต่างๆ ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเฮติก็เลวร้ายลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพวกเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ยังไม่เริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้แก่ประชาชนเลย

ในเวลาเดียวกัน เฮติก็กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก โดยเศรษฐกิจของประเทศหดตัวตั้งแต่ก่อนการมาของโควิด-19 แล้ว และถดถอยขึ้นอีก 3.8% ในปี 2563

ขณะที่ประชากรเฮติที่อยู่ในเกณฑ์ยากจนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 60% ด้านองค์กรยูนิเซฟเตือนในเดือนพฤษภาคมว่า จำนวนเด็กที่เป็นโรคขาดสารอาหารรุนแรงในประเทศแถบแคริบเบียนแห่งนี้ จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าภายในปีนี้ เพราะปัญหาความรุนแรงและประชาชนเข้าไม่ถึงบริการที่จำเป็น















ขอบคุณแหล่งที่มา: thairath.co.th







เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยสำนักงานเขตบางเขน ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 24 บางเขน และสปคม. กรมควบคุมโรค ได้จัดเป็นศูนย์บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกฟรี สำหรับประชาชนทั่วไป (ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่วันที่ 5-11 กรกฎาคม 2564 ไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-16.00 น. รับวอล์กอิน วันละ 900 ราย ผู้ที่รับการตรวจต้องนำบัตรประชาชน พร้อมสำเนา และปากกาส่วนตัวมาด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนกลุ่มแรกๆ มาถึงจะต้องรออยู่ที่ริมถนนพหลโยธิน ด้านหน้าวัดฯ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่วัดปิดให้บริการแล้ว จากนั้นทางพนักงานรักษาความปลอดภัยของวัดได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาภายในวัดช่วงเวลาเที่ยงคืน เนื่องจากเริ่มมีฝนตก ประชาชนจึงทยอยเดินเข้ามาพร้อมนำเสื่อมาเตรียมปูพื้น นอนบางคนก็นำเต็นท์มากางนอนรอรับบัตรคิวในช่วงเช้า






จากการสอบถามนายยุทธศาล แท่นนอก อายุ 21 ปี บอกว่า ตนเองเดินทางมาจาก เขตบางกะปิ ตั้งใจที่จะเดินทางมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจาก เพื่อนร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเอาผลการตรวจไปยืนยันกับบริษัท ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาตั้งแต่เวลา 21.00 น. เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้คิว เพราะก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อมาแล้ว 3 แห่ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตรวจ ขณะที่เมื่อวานนี้ได้เดินทางมาถึงที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ในช่วงเวลา 04.00 น. แต่ก็ไม่ได้รับการตรวจ วันนี้จึงเดินทางมาใหม่ มารอคิวตั้งแต่ 21.00 น. โดยมั่นใจว่าครั้งนี้จะได้คิวตรวจแรกๆ


ส่วน น.ส.ธิดาพร สว่างศรี อายุ 28 ปี บอกว่า ตนเองเดินทางมาจาก สะพานใหม่ ก็เดินทางมารอคิวการตรวจหาเชื้อตั้งแต่เวลา 21.30 น. ส่วนที่ตัดสินใจมาตรวจเพราะมีเด็กแถวบ้านติดเชื้อ แล้วลูกไปเล่นกับเขามา จึงเดินทางมาตรวจ ส่วนอุปสรรคที่ต้องพบเจอคือ ยุงและมีฝนตกลงมา


นายเรืองศักดิ์ กัณทสังข์ อายุ 30 ปี บอกว่า ตนเองมารอคิวในช่วงเวลาเกือบ 23.00 น. ส่วนที่ตัดสินใจมาตรวจหาเชื้อเพราะแฟนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยในวันนี้ก็ได้เตรียมเอาเสื่อและเต็นท์มากางนอน รวมถึงยากันยุงและเจลแอลกอฮอล์ ส่วนอุปสรรคที่เจอคือเรื่องของการบริการจัดการคิว ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่มีเจ้าหน้าที่มาบอกต้องคอยฟังจากคนข้างๆ


ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของวัดฯ กล่าวว่า มีประชาชนมารอรับบัตรคิวตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางเขน จะเริ่มมาแจกบัตรคิวในเวลา 06.00 น. โดยจะมีเพียงวันละ 900 คิวเท่านั้น สำหรับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็มีหลายคนที่ยังไม่ได้ตรวจและต้องเดินทางกลับไป และมารอคิวในวันถัดไป ส่วนการให้เข้ามารอคิวด้านหน้าสถานที่ตรวจนั้น เนื่องจากมีประชาชนมารออยู่ริมถนนด้านหน้าวัดฯ จำนวนมาก



















ขอบคุณแหล่งที่มา: thairath.co.th







สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดปทุมธานี ระบุว่า นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สละเงินเดือน 3 เดือน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวปทุมธานี ที่ลำบากช่วงโควิด-19 ข้อความระบุว่า


“"ช่วยกัน สู้ภัยโควิด ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี หน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. จังหวัดปทุมธานี (One Home) ศูนย์ประชาบดี 1300 ร่วมช่วยเหลือ ชาวจังหวัดปทุมธานี ที่ประสบปัญหาจาก COVID - 19 โทร. สายด่วน 1300 จังหวัดปทุมธานี"


สำหรับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม หรือ ผู้ว่าติ๊ก นั้นถือได้ว่าเป็นผู้ว่าฯ ขวัญใจโซเชียล ตั้งแต่มีการเผยแพร่ภาพสมัยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ใช้ชีวิตเรียบง่าย ปั่นจักรยานไปทำงาน แอบไปไถ่ถอนเครื่องมือทำกินในโรงรับจำนำให้ชาวบ้าน ปัจจุบันย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพียงไม่นานก็กลายเป็นที่รักของชาวบ้าน






ประวัติของ ผู้ว่าติ๊ก พื้นเพเป็นชาวอำเภอวังสะพุง จ.เลย เรียนหนังสืออยู่ที่วัด เนื่องจากครอบครัวยากจน เรียนศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำ ได้วุฒิ ม.3 พร้อมกับ สอบเทียบชั้น ม.3 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเลย เรียนศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การศึกษาผู้ใหญ่ที่โรงเรียนเลยพิทยาคม ก่อนมุมานะจนจบคณะรัฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


สำหรับตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด เงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 76,800 บาท ไม่รวมเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนรายเดือน 

















ขอบคุณแหล่งที่มา: sanook.com







นายโชเวอแนล มอยซ์ ประธานาธิบดีเฮติ วัย 53 ปี ถูกลอบสังหารจนถึงแก่อสัญกรรม ที่บ้านพักประธานาธิบดีในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันพุธ (7 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น (14.00 น. ตามเวลาไทย) 


นายโกลด โชเซฟ นายกรัฐมนตรีรักษาการ แถลงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นความจริง และตนจะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีของเฮติไปก่อน ทั้งยังประณามการกระทำดังกล่าวว่าไร้มนุษยธรรมและป่าเถื่อน


นายโชเซฟ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีหลายคน และพบว่าบางคนพูดภาษาสเปน โดยบุกเข้าไปในบ้านพักของนายมอยซ์ และยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนภริยาของนายมอยซ์ก็ถูกยิงและมีการนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว


การดำรงตำแหน่งของนายมอยซ์ เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังถูกกล่าวหาว่าทุจริต และหลายฝ่ายก็ถกเถียงกันว่าตกลงแล้วนายมอยซ์ควรหมดวาระเมื่อใด จนทำให้ผู้คนออกมาประท้วง และแก๊งอันธพาลก็ออกมาใช้ความรุนแรงจนวุ่นวาย






ฝ่ายค้านเฮติอ้างว่านายมอยซ์ควรลงจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงที่ครบรอบ 5 ปีการเลือกตั้งเมื่อปี 2558 ที่ถูกยกเลิกไป เพราะถูกหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง ก่อนจะมีการเลือกตั้งซ่อมในอีก 1 ปีถัดมา


นอกจากนี้ ฝ่ายค้านของเฮติยังกล่าวหานายมอยซ์อีก เพราะนายมอยซ์จัดการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2562 ไม่สำเร็จ และปกครองประเทศโดยไม่มีรัฐสภา ซึ่งละเมิดรัฐธรรมนูญ


ด้านนายมอยซ์และผู้สนับสนุนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด โดยระบุว่า ตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2560 หลังจากการเลือกตั้งซ่อม จึงยังไม่หมดวาระ















ขอบคุณแหล่งที่มา:sanook.com

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget