30/9/64


นิทานสอนใจของกบฟุ้งซ่าน ข้างกำแพงวัด

มีกบตัวหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด

พร้อมกับมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆเช้า

ตั้งแต่เช้ามืด มันจะเห็นพระออกบิณฑบาต

แล้วพระก็จะกลับมาที่วัดเพื่อฉันอาหารในตอนเช้า

กบฟุ้งซ่าน ก็นั่งคิดอยู่ในใจ

“ฉันอยากเกิดเป็นพระจังเลย เพราะสบาย ไม่ต้องทำอาหารกินเอง

ก็มีคนเอาอาหารมาถวายให้ทุกวัน”







พอพระฉันเสร็จ ก็ได้นำอาหารที่เหลือไปให้ เ ด็ ก วัดได้กินต่อ

เ ด็ ก วัดพากันกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย


เมื่อเห็นแบบนี้ กบก็เริ่มเปลี่ยนใจ

“ฉันอยากเกิดเป็น เ ด็ ก วัดจัง เพราะสบายกว่าพระ ตื่นสายได้

ไม่ต้องตื่นแต่เช้าออกไปเดินบิณฑบาต”



พอ เ ด็ ก วัดกินเสร็จ ก็พากันนำอาหารที่เหลือไปเทให้หมาวัดกิน

จากนั้นพวกเขาก็ไปช่วยกันล้างจาน แล้วแยกย้ายกันไปทำความสะอาดลานวัด


เมื่อเห็นแบบนี้ กบก็เปลี่ยนใจอีก

“ฉันอยากเกิดเป็นหมาวัดจัง เพราะสบายกว่า เ ด็ ก วัด

ไม่ต้องไปล้างจาน หรือทำความสะอาดวัดด้วย”






แต่พอหมาวัดกินข้าวเสร็จ

พวกมันก็พากันไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด

คอยเห่าคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปมา


จากนั้นฝูงแมงวันก็พากันมาตอมเศษอาหารที่เหลือจากหมาวัด

มาถึงตอนนี้ กบเริ่มคิดเปลี่ยนใจอีกครั้ง

“ฉันอยากเกิดเป็นแมลงวันจัง เพราะสบายที่สุด

พวกมันไม่ต้องทำอะไรเลย แถมยังมีอาหารให้ตอมกินตลอดเวลา”



ในขณะที่กบตัวนี้ กำลังคิดฟุ้งซ่านอยากจะเป็นอย่างคนนั้นคนนี้

จู่ๆแมลงวันก็บินเข้ามาใกล้เจ้ากบ และด้วยสัญชาตญาณของกบ

มันจึงใช้ลิ้นตวัดแมลงวันเข้าปากของตัวเอง






ทันใดนั้นมันก็คิดได้ว่า เอ้อ…เป็นตัวฉัน มันก็ดีอยู่แล้วหนิ

และแล้วเจ้ากบฟุ้งซ่านตัวนี้ ก็ได้บรรลุธรรมโดยทันที

ว่า…ที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีที่สุดแล้ว


ในบางครั้ง เราอาจจะมองเห็นชีวิตคนอื่นที่สุขสบายกว่า ดูแล้วน่า อิ จ ฉ า

แต่เราก็อาจจะมองไม่เห็นในภาระหน้าที่บางอย่างที่เขาต้องแบกรับไว้

ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะหนักหนามากกว่าเรา

และเขาก็อาจจะกำลัง อิ จ ฉ า ชีวิตแบบเราอยู่ก็เป็นได้


ดังนั้นการได้เป็นตัวของตัวเองก็ดีที่สุดแล้ว จงภูมิใจในตัวเอง

และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ










ขอบคุณแหล่งที่มา:​ http://bitcoretech.com/

คนสมัยก่อนเราต้องเรียกว่ากางเกงลิง

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “กางเกงลิง” กันมาบ้าง ยิ่งคนเฒ่าคนแก่ คนสมัยโบราณมักเรียกกันแบบนั้นจนชินหู แต่รู้ไหมว่า ที่มานั้นมาจากอะไรกันแน่ แล้วมันเกี่ยวข้องยังไงกับลิง วันนี้เราพาทุกคนไปค้นหาคำตอบนี้กัน


ย้อนกลับไปเมื่อสมัย ร.5 เสด็จไปประพาสที่ฝรั่งเศส และได้มีข้าราชบริพารตามไปด้วย เมื่อไปถึงที่ฝรั่งเศส ข้าราชบริพารก็ได้สังเกตุเห็นผู้คนที่นั่น พากันตากผ้า รวมถึงกางเกงในอยู่ที่ราว ซึ่งในสมัยนั้นที่บ้านเรายังไม่มีกางเกงในใช้กัน จึงยังไม่รู้จักกางเกงใน







เกิดเป็นความสงสัยว่ามันคืออะไร เอาไว้ทำอะไร และด้วยความที่พูดกันคนละภาษา ชาวฝรั่งเศสได้เขียนว่า lingerie ( อ่านออกเสียงว่า แลงเยอรรี่ แปลว่ากางเกงใน )



จากนั้นทางข้าราชบริพาสก็พากันซื้อกลับมาจากฝรั่งเศสด้วย แล้วเรียกมันว่า “กางเกงแลงเยอรรี่” แต่ด้วยสำเนียงที่ออกเสียงยากจึงเพี้ยนเป็น “กางเกงลิงเกอรี่” สุดท้ายจึงเรียกสั้นๆว่า “กางเกงลิง” และก็เรียกจนติดหูกันมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง จึงเป็นที่มาของคำว่า กางเกงลิง


นอกจากที่มาของคำว่า “กางเกงลิง” ที่ไม่เกี่ยวกับลิงแล้ว คำว่า “ผ้าขาวม้า” ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับม้าเช่นกัน โดยคำว่า “ผ้าขาวม้า” นั้นมาจากคำว่า “ผ้าคามาร์” (kamar)






ผ้าชนิดนี้กำเนิดมาจาก การทอขึ้นเพื่อใช้คลุมไหล่ ของชาวอิหร่าน (เปอร์เซีย) เมื่อมีการติดต่อค้าขายกันในยุคนั้น ทำให้ผ้าชนิดนี้เข้ามาแพร่หลายในประเทศ และเราก็ได้เรียก “ผ้าคามาร์” เพี้ยนจนมาเป็น “ผ้าขาวม้า” ในปัจจุบัน














ขอบคุณแหล่งที่มา:​ http://bitcoretech.com/

26/9/64


สาวโพสต์ TikTok เผยเลขหวยปฏิทิน งวดวันที่ 1 ต.ค. 2564 หลังงวดก่อนให้ 3 ตัวตรงเป๊ะ ย้ำให้เป็นแค่แนวทาง


กลายมาเป็นที่จับตามองของคนชอบตัวเองอีกครั้ง สำหรับตัวเลขในปฏิทิน หลังจากมีข่าวว่า นายเสถียร กู่คำ อายุ 74 ปี ซึ่งได้ถูกรางวัลที่ 1 ได้แก่เลข 114475 หลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา 







ล่าสด วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้ใช้ Tiktok ชื่อว่า @korn965 โพสต์คลิปเป็นคลิปเขียนตัวเลขปฏิทินเดือนตุลาคม ที่ระบุตัวเลข 7659 พร้อมระบุข้อความว่า “กรมาแล้วค่ะ 1/10/64 #แนวทางรัฐบาลไทย #หวยรัฐบาลงวดนี้ #หวยนู๋กร”


หลังจากงวดก่อนเมื่อวันที่ 16 ก.ย.64 ออกเลข 935 ถูก 3 ตัวท้าย 070935 รางวัลที่ 1 ตรง


โดย เจ้าตัวได้อธิบาย ว่า “สวัสดีค่ะ เลขของเราวันที่ 1 ต.ค.มาแล้วนะคะ มี 7 6 5 9 แต่ 7 ตัวนี้ระวังเป็น 6 ด้วยนะคะ ใครชอบตัวไหนจับสลับตำแหน่งกันได้ ถูกไม่ถูกอย่าว่ากัน กรให้เป็นแค่แนวทางเท่านั้น” 















ขอบคุณแหล่งที่มา:​ sanook.com/

21/9/64

เพจดัง Mother and Child Channel ได้ออกมาแชร์เรื่องราวจะบอกว่าน่ารักก็น่ารัก จะบอกว่าชวนขนลุกก็ขนลุกซู่เลยละค่ะ เรื่องราวมีอยู่ว่า ตื่นกลางดึก เจอข่าวนี้เลยเอาฝากค่ะ เมื่อครอบครัวหนึ่งติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ดูหลุมฝังศพของลูกชายที่เสียชีวิต








และเมื่อเอามาเปิดย้อนดู ก็พบว่า มีเด็กหญิงแปลกหน้ามาเล่นอยู่ข้างหลุมศพของลูกชายในยามดึก จึงสอบถามคนงานในสุสาน คนงานดูคลิปแล้วก็จำเด็กหญิงได้ จึงพาพวกเขาไปดู เด็กหญิงในคลิปนอนอยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพของลูกชายนั่นเอง และแม่ของเด็กหญิงมาบอกภายหลังว่า ลูกเธอเสียชีวิตไปสองปีแล้ว !!! บรื๋อออออออเลยค่ะงานนี้

















ขอบคุณแหล่งที่มา:​ tnews.co.th

20/9/64


ตอนเ ด็ กๆนั้นเรามักจะมีเพื่อนเล่น มากมาย โดยเฉพาะตอนที่เข้าโรงเรียน แต่เมื่อโตขึ้นหล า ยๆคนเพื่อนที่เคยมีก็เริ่มคุยกันน้อยลง เจอ กันน้อยลง ทั้งที่ตอนเรียนแทบจะอยู่ด้วยกัน วันนี้เรามีเรื่องราวหนึ่งเรื่องที่ให้ข้ อคิดกับเรื่องนี้ ลองไปอ่านกันว่าทำไมยิ่งอายุมากขึ้นทำไมเราถึงมีเพื่อนน้อยลง

แม่จ๋าทำไม แม่ไม่ค่อยมีเพื่อนเลย พอเราโตขึ้น คนที่รักเราจะน้อยลงเหรอลูกหม า ถามแม่ว่าพอเราโตขึ้น คนที่รักเราจะน้อยลงเหรอ แม่หม าเลยตอบว่าไม่หรอ กจ๊ะลูก เมื่อเราโตขึ้นเราจะเหลือ คนที่รักเราจริงๆ ต่างหาก

เราจะมากที่คุณภาพ ไม่ได้มากที่จำนวน เวลาจะคัดสรร คนที่เหมาะสม ไว้กับเรา ถ้าเป็น มิตร ก็จะเป็น มิตรที่มีคุณภาพและรักเรา ถ้าเป็นศั ต รูที่เหลือ ก็จะเป็นศั ต รูที่จะเป็นแรงผลักดันให้เราต่อสู้เพื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป



ลูกหม าถามแม่ต่อว่า แล้วถ้าวันหนึ่ง หนูโตพอที่จะเลือ กทางเดินเองได้ แม่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนใช่ไหม แม่หม า ตอบว่าเมื่อวันหนึ่งหนูเลือ กทางเดินได้เอง แม่ก็ยังจะคอยอยู่ข้างๆ หนูเหมือนเดิม แต่เมื่อหนูโตขึ้น หนูก็ต้องหาใครสักคน มาเดินข้างกายแม่ก็จะถอยมาวิ่งข้างหลัง






แต่ยังคงเฝ้ามองหนูจนวันหนึ่งที่แม่วิ่งไม่ไหว แม่ก็จะหยุด แล้วมองดูเดินหนูต่อไปหรือจนวันหนึ่งที่แม่ต้องจากไป แม่ก็ยังจะวิ่งอยู่ในใจของหนูตลอ ดกาล ชีวิตคือ การก้าวเดินไปข้างหน้า แต่หนูจงจำไว้ว่าการก้าวไปจะมีคุณค่าเราจะต้องไม่ลืมคนข้างหน้า ข้างๆหรือแม้แต่ข้างหลัง

เพราะนั่นคือ พ ลั งทั้งหมดที่คอยผลักดันหนูให้ก้าวไปพร้อมกับพลังของตัวหนูเองยิ่งโตยิ่งเดินลำพังมากขึ้น ยิ่งสูงขึ้นยิ่งรู้ว่าคนที่เดินร่วมทางมากับเราค่อยๆ ห า ยไปทีละคนๆ ท้ายที่สุด เราจึงพบว่าเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็คือตัวเราเอง

จงแยกให้ออ ก ระหว่างมิตรภาพ กับผลประโยชน์ ต่อให้เป็นคนโปรด หมดผลประโยชน์ เขาก็ไม่เอา สื่งที่ห า ย ากที่สุด ก็คือความจริงใจนี่แหละ..น้ำทะเลอาจทำให้รอยเท้าของเราจางห า ยไปแต่น้ำทะเลไม่อาจทำให้เราลืมว่า เรามาจากไหนและมากับใครหรอ กนะ

แม่หม า ตอบ และยิ้มให้ลูกหม า ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมล้นลูกหม า ไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินช้าลง แม่หม าสงสัยจึงถามว่าทำไมเดินช้าจัง ลูกหม า ส่งยิ้มหวานไป ก่อนตอบไปว่าก็หนูอย ากมีเวลา เดินกับแม่นานๆ ไง














ขอบคุณแหล่งที่มา:​ deesoulmuch.com








แมนนี ปาเกียว ที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ ตอบรับคำเชิญจากกลุ่มนักการเมืองภายในพรรคพีดีพีลาบัน  (PDP-Laban) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ในการลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปีหน้า


โดย ปาเกียว ระบุว่า ประสบการณ์ชีวิตและความเข้าใจต่อหัวอกคนยากจนในฟิลิปปินส์ คือส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้ตนเองเหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดี พร้อมทั้งสัญญาว่าจะปกครองประเทศด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และ เห็นอกเห็นใจประชาชน



ขณะที่ ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนพบว่า ผู้มีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 1 ขณะนี้ คือ ซาร่า ดูแตร์เต-การ์ปิโอ นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา และ ลูกสาวของ ประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต ที่ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้เป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากข้อจำกัดตามรัฐธรรมณูญ แต่ดูแตเตร์ ผู้เป็นพ่อ ยืนยันแล้วว่าจะลงสมัครเป็นรองประธานาธิบดีแทน


อย่างไรก็ตาม ซาร่า ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเธอจะลงสมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้ ประธานาธิบดี หรือไม่














ขอบคุณแหล่งที่มา:​ msn.com/th

19/9/64









วันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้พิธีการขึ้นบ้านใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อที่จะช่วยเสริมโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา กับบทความ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำถูกวิ ธีช่วยให้มีโชคลาภ ร่ำร ว ย เงินทองไหลมา ไปดูกันว่าการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของคุณนั้นจะต้องจัดเตรียมข้าวของอะไรบ้าง และมีขั้นตอนการทำพิธีอย่ างไรบ้าง

ในสังคมทั่วไปของเรานี้ หล า ยคนจะมีความเ ชื่ อ ในสถานที่สำคัญต่างๆ เชื่ อ ว่ามีเจ้าที่เจ้าทางคอยปกปักรั ก ษ าคุ้มครอง ใครก็ต ามที่เข้าอยู่จะต้องให้ ความเคารพนับถือ อย่ างเช่น การทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ เราจะเห็นกันอยู่ เป็นประจำ ตั้งแต่อ ดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่

จะเล็กจะใหญ่จะมือหนึ่งหรือมือสองก็ต าม ขอเพียงทำแค่ต ามกำลังท รั พ ย์ ที่มีก็พอไม่ต้องมากมาย มีพิธีเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็น การกล่าวขอขมา เพื่อที่จะทำให้ชีวิตไม่ติ ด ขัด ทำดูก็ไม่เ สี ย ห า ย เเนะนำสิ่งของที่ต้องเตรียม เข้าบ้านใหม่ครั้งเเรก

1 ด อ กไม้มงคล ที่นำมาไว้โปรยรอบบ้าน

2 น้ำเปล่า

3 เครื่องบูช าพ ร ะ เช่น ธูป เทียน กระถางธูป เเจกันด อ ก ไม้

4 พระพุ ท ธ รูป

5 ด อ ก รัก ความรัก ความเอื้ออาทรกัน

6 ข้าวตอ ก ถั่ว งา ความเจริญงอ กงาม ยิ่งขึ้นไป

7 ถังน้ำ ถังข้าวส า ร ใส่เต็มถัง ความอุดมสมบูรณ์



8 เหรียญ จะเป็นเหรียญบาท หรือสิบบาทก็ได้ค่ะ เงินทองเต็มบ้าน

9 ด อ กดาวเรือง ความรุ่งเรือง เจริญรุ่งโรจน์

10 ด อ กกุหลาบ เส้นทางข้างหน้าต่อไป จะได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

11 กล่องใส่ทอง เพชร หรือเครื่องประดับ อัญมณีมีค่า ความร่ำร ว ย มั่งมีเงินทอง

12 หอมเเดง กระเทียม พริกเเห้ง กะปิ น้ำปลา น้ำต าลทราย เกลือ ข้าวปลาอาหารมีกิน มีใช้

13 เงินแบงค์ 900 บาท เงินเหรียญอีก 99 บาท เป็น 999 มีแต่ความเจริญก้าวหน้า ยิ่งขึ้นไป

14 ห ม า ก พลู

15 พวงมาลัย ดาวเรือง


ของไหว้เจ้าที่เจ้าทาง มีผลไม้ 5 ชนิดได้เเก่

1 กล้วย กล้วยคือผลไม้มงคล ที่เ ชื่ อ ว่าเป็นตัวเเทนแห่งการข ย า ย สาขา กิจการ การมีบุตรสืบสกุล มีบริวารมาก

2 มะพร้าว ความบริสุทธิ์

3 ทับ ทิม คุ้มครองกันภั ย

4 ส า ลี่ การเรื่องคุณงามความดีเอาไว้ อ ย่ า งมั่นคง โชคลาภเงินทอง มิให้ห า ย





5 ส้ม ความโชคดี เจอแต่สิ่งดีเป็น สิริมงคล

ข น มมงคล 5 อ ย่ า ง เช่น ทองหยิบ ทองหยอ ด ฝอยทอง เม็ดขนุนและขน มถ้วยฟู


สำหรับพิธีการ นั้น มีดังต่อไปนี้

1 เมื่อไปถึงบ้านก่อนฤกษ์ ให้เตรียมสิ่งของ ที่จะนำเข้าบ้านให้พร้อม ใครเข้าบ้านก่อนถึงฤกษ์ก็เลย ต้องเตรียมอุปกรณ์กันที่นอ กบ้าน

2 ก่อนเข้าประตูหน้าบ้าน เจ้าของบ้าน หยิบหินขึ้น มา 1ก้อนกำไว้ในมือ

แล้วกลั้นห า ยใจ อ ธิ ษ ฐา นขอให้จิตใจหนักเเน่น และเเข็งเเกร่งเหมือนหิน มีแต่สิ่งดีเกิดขึ้นนับแต่นี้ไป สิ่งไม่ดีอ ย่ าได้เเพ้ แล้ววางหินลงหน้าบ้าน จากนั้นให้คุณพ่อเป็นคนเดินนำอุ้ม พ ระพุท ธ รูปเข้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ให้คุณป้า ที่ร ว ยที่สุด ถือพานเงิน ทอง ต ามเข้าบ้าน คุณแม่ถือข้าวส า ร อาหารเเห้ง และคนอื่นก็ช่วยกันถือของอื่น ต ามเข้ามา



3 นำพระพุ ท ธ รูปวาง ที่ห้องพระที่เราจัดเตรียมไว้ จุดธูปเทียนอ ธิ ษ ฐา น จิต

ให้ท่านคุ้มครอง และอวยพรให้เราประสพพบเจอแต่สิ่งดีก่อนที่จะเข้าสู่พิธีขึ้นบ้านใหม่ เจ้าของบ้านต้องทำพิธี เข้าบ้านใหม่ เ สี ยก่อน ซึ่งพิธีจะเริ่มต้นด้วยการให้หัวหน้าครอบครัว หรือเจ้าบ้านเป็นผู้ประกอบพิธีทั้งหมด ที่สำคัญจะต้องมีการอัญเชิญพระพุท ธ รูป ประจำบ้านให้เข้ามาประดิษฐานเพื่อคอยปัดเป่าภูติผีและสิ่งที่ไม่ดี ไม่ให้เข้ามาภายในบ้านได้ ในขณะอัญเชิญให้ทำการจุดธูปเทียนเพื่อเป็นการบูช า

จากนั้นจึงต ามด้วยอ ธิ ษ ฐา น เพื่อบอ กกล่าวแก่องค์พระเพื่อให้ท่านได้ป ก ป้ อ ง คุ้มครองบ้านหลังนี้ให้มีแต่ความสุขความเจริญ ห่างไกลจากสิ่งไม่ดี ให้สมาชิกในครอบครัว มีความปลอ ดภั ย และอยู่เย็นเป็นสุข ในพิธีนี้ สิ่งของที่ไม่ควร ต กหล่น คือ ด อ ก ไม้ธูปเทียน พระพุท ธ รูป ผลไม้และไม้มลคลต่าง ซึ่งจะนำเอาใช้สำหรับการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์





ในที่นี้อาจจะมีการบวกรวมกับขน มไทที่มีชื่อเป็น มงคลรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอ ด และทองเอก เป็นต้น พ ระสงฆ์ที่นิมนต์มา ควรนิมนต์มาก่อนวัน ทำบุญไม่น้อยไปกว่า 5วัน โดย ให้เลือ กระหว่าง 5,6 หรือ 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยการจัดโต๊บูช า มีผ้าขาว กระถางธูปและเชิงเทียน โดยจัดให้โต๊ะอยู่ด้านขวา ของพระสงฆ์

ทั้งนี้แล้วต ามหลักความเชื่ อ แล้ว เพื่อความสบายใจทางใจ ก็ขอให้ทำพิธีให้ถูกต้อง ก่อนเข้าอยู่อาศัยหรือบางคนเข้าพอพักไปเรียน ไปทำงาน ก็ทำพิธีขอเข้าอยู่ให้ถูกต้อง เพราะทุกๆ ที่มีเจ้าของเฝ้าอยู่ แม้เราจะมองไม่เห็นก็ต าม สาธุ










ขอบคุณแหล่งที่มา:​ deesoulmuch.com









เมื่อถึง ๆ จุดหนึ่งที่หลาย ๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง คนที่คบกันในฐานะแฟน มาเป็นเวลานานย่อ มคิดถึงการใช้ชีวิตคู่แน่นอน นั่นรวมไปถึงการแต่งงานด้วย ทว่าก่อนที่จะจัดงานแต่งนั้น

ส่วนใหญ่แล้วผช.จะขอหมั้นฝ่ายหญิงก่อน ซึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ แหวนหมั้น (หรืออาจเป็นแหวนแต่งงานไปด้วยในตัว) แต่ปัญหาสำหรับฝ่ายชายนั้นอยู่ที่การเลือกแหวน เพราะไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะถูกใจแฟนสาว


1. หาข้อ มูลว่าเธอชอบแหวนหมั้นแบบไหน


จะเซอร์ไพรส์สาวทั้งที ของแบบนี้ก็ต้องทำการบ้านด้วยการหาข้อ มูลกันนิดนึง เริ่มจากสังเกตดูว่าเธอชอบแหวนแนวไหน แบบเรียบ ๆ หรือต้องสวยงาม


มีเพชรประดับอะไรยังงี้ เวลาไปเดินห้างหรือเข้าร้านเครื่องประดับก็แ อบส่องไปแบบเนียน ๆ นะ หรือไม่ลองเช็กในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมดูว่าเธอชอบกดไลค์แหวนแบบไหนบ่อย ๆ จะได้พอเดาทางถูกยังไงล่ะ

 

2. ปรึกษาคนสนิทรอบตัวเธอ


ผญ.ส่วนใหญ่มักพูดคุยเรื่องสำคัญกับคนใกล้ตัวอยู่เสมอ ทั้งคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท ซึ่งแฟนสาวของคุณอาจคุยเรื่องแหวนกับคนสนิทของเธอสักคนว่า

 

ถ้าหมั้นหรือแต่งงานอยากได้แบบนี้ ๆ นะ ฉะนั้นลองแ อบไปปรึกษาพวกเขาหรือไม่ก็ขอให้ไปช่วยเลือกด้วยกัน จากนั้นก็ไปซื้อแหวนได้เลย รับรองว่าเป็นวิธีเซอร์ไพรส์ฝ่ายหญิงได้ดีเลยล่ะ


3. ตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง


ต้องยอ มรับก่อนว่าผช.อย่างเราเป็นเ พศที่เลือกเครื่องประดับไม่เก่งเหมือนผญ. แต่ถ้าแฟนสาวสุดที่รักของคุณเป็นคนยังไงก็ได้






ขอให้มอบให้ด้วยความจริงใจก็โอเคแล้ว หรือไม่ถ้าคุณรู้ดีอยู่แล้วว่าเธอชอบแบบไหน ถ้างั้นก็ตัดสินใจเลือกซื้อแหวนหมั้นให้เธอเองไปเลย


4. ถามตรง ๆ ไปเลย


ถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเลือกแหวนแบบไหนให้เธอดี ลองถามเธอตรง ๆ เลยว่าอยากได้แหวนแบบไหนจะได้เลือกสไตล์ที่เธอชอบมาให้ อ้อ !


แต่เมื่อถามแล้วก็อย่าปล่ อยเวลาทิ้งไว้นาน มากล่ะ เพราะในเมื่อ มาถามข นาดนี้ ฝ่ายหญิงเขาย่อ มต้องอยากเห็นอยู่แล้ว เผ ลอ ๆ อาจคิดไปเองอีกว่า ตกลงที่คุณถามน่ะ ซื้อให้สาวคนไหนแน่ ? งานเข้าสิฮะ


5. พาเธอเข้าร้านแหวน


แม้ว่าถามเธอไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี แนะนำว่าให้พาไปเลือกที่ร้านด้วยกันเลยจะดีที่สุด เพราะคุณทั้งสองคนจะได้เห็นแหวนของจริงว่าสวยข นาดไหน


พอดีกับนิ้วไหม ใส่แล้วถูกใจหรือเปล่า แถมยังสามารถเทียบราคากับงบในกระเป๋าได้เลยด้วย














ขอบคุณแหล่งที่มา:​ thatlikegood.com

18/9/64








ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุ ทำให้วัยรุ่นบริติชลองวัดขนาดอวัยวะเพศชายด้วยการสอดสายเคเบิลเข้าไปในรูปัสสาวะ แต่มันดันเอาไม่ออกซะงั้น


Urology Case Reports รายงาน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเด็กหนุ่มวัย 15 ปี พยายามวัดความยาวขององคชาตด้วยการสอดใส่สาย USB แต่ทว่าเกิดความผิดพลาดทำให้สายพันกันเป็นปมติดแหง็กอยู่ภายในอวัยวะเพศ พร้อมปลายสายห้อยออกมา



หนุ่มน้อยพยายามถอดมันออกด้วยตนเองหลายครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้จนกระทั่งเขาเริ่มปัสสาวะเป็นเลือด จากนั้นเด็กหนุ่มจึงยอมบอกครอบครัวให้พาเขาไปที่โรงพยาบาล






จากการส่องกล้องตรวจทางเดินปัสสาวะแสดงตำแหน่งของปมอยู่ค่อนข้างลึก ทำให้พยาบาลที่ดึงสายเคเบิลด้วยเครื่องมือพิเศษก็เกิดความล้มเหลวเช่นกัน



เด็กหนุ่มถูกส่งตัวไปเอ็กซเรย์ เพื่อหาตำแหน่งผูกปมของสายเคเบิลที่แน่นอน ก่อนรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ซึ่งได้รับการตรวจสอบว่ามีสุขภาพดี สมบูรณ์ และไม่มีประวัติความผิดปกติทางจิต















ขอบคุณแหล่งที่มา:​​ khaosod.co.th







แม่ลูกสอง วัย 40 ปี ดื่มฉี่ตัวเอง 3 วัน เพื่อให้มีแรงให้นมลูก ในเรือแตกกลางทะเล สุดเศร้า สิ้นใจไม่นาน ก่อนทีมช่วยเหลือมาพบ


เป็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ที่สะท้อนถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ สำหรับเรื่องราวของ มาเรียลี ชากอน คุณแม่ลูกสอง วัย 40 ปี และครอบครัว ขึ้นเรือออกทริปท่องเที่ยวรับหน้าร้อน โดยพวกเขาออกเดินทางจากท่าเรือเมืองอิเกโรเต ทางตอนเหนือของเวเนเซุเอลา ในช่วงเช้าวันที่ 3 กันยายน 2564 มุ่งหน้าไปยังเกาะตอร์ตูกา ในทะเลแคริบเบียน มันควรจะเป็นทริปครอบครัวที่สนุกสนานและเป็นความทรงจำ แต่ใครจะคิดว่ามันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมสุดสลด


          ที่น่าสะเทือนใจที่สุดก็คือ มาเรียลี ยอมเสียสละทุกอย่างงและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกทั้งสองมีชีวิตรอด จนตัวตาย...


จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ระบุว่า เรือลำดังกล่าวมีชื่อว่า Thor มีกำหนดกลับในวันที่ 5 กันยายน แต่การท่าเรือพบว่าเรือลำนี้ไม่กลับมาตามตาราง เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปยังตอร์ตูกาและพบว่าเรือไม่ได้ไปถึงที่หมาย จึงสันนิษฐานในทางที่ร้ายที่สุดคือเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม และประสานงานหน่วยงานอื่น ๆ ในการออกค้นหา






          ปรากฏว่าเกิดเหตุร้ายจริง เรือแตกกลางทะเล โดย เรมิส สามีของมาเรียลีกับญาติคนอื่น ๆ และลูกเรือ รวม 4 คน หายตัวไป เหลือแต่เธอ ลูกชาย วัย 6 ขวบ ลูกสาว วัย 2 ขวบ และพี่เลี้ยง รอดชีวิตอยู่บนซากเรือที่ลอยน้ำ ซึ่งจะจมเมื่อไหร่ก็ได้


          ตลอดระยะเวลาที่เรือแตก มาเรียลีคอยดูแลให้นมลูกทั้งสอง เพื่อไม่ให้พวกเขาหิว จนร่างกายเธอไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจดื่มฉี่ของตนเอง เพื่อให้มีแรงให้นมลูก เพราะไม่มีอาหารหรือน้ำใด ๆ ทั้งสิ้น บวกกับต้องเอาตัวเองคอยบังแดดลูกอยู่ตลอดเวลา โดยเธอทำแบบนี้ติดต่อกัน 3 วัน จนเด็ก ๆ พบว่าแม่หลับไปและปลุกไม่ตื่น


ในวันที่ 6 กันยายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนพบเห็นเรือลอยอยู่นอกชายฝั่งเกาะออร์ชิลา และในวันที่ 7 กันยายน ทีมหน่วยกู้ภัยทางทะเลได้เข้าไปช่วยเหลือ ทว่าน่าเศร้า มาเรียลีสิ้นใจในช่วงเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนความช่วยเหลือจะมาถึง


          เจ้าหน้าที่พบเด็กน้อย 2 คน กอดร่างไร้ลมหายใจของแม่แน่น และพบพี่เลี้ยงซ่อนตัวในตู้เย็น เพียงป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกแดดเผา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้รอดชีวิตทั้ง 3 คน ส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน โดยเด็กน้อยทั้งสองอยู่ในสภาพอิดโรยอย่างมาก และมีแผลไหม้ระดับที่ 1 ซึ่งบาดแผลและร่างกายคงใช้เวลาไม่นานในการรักษา แต่แผลในใจของหนูน้อยทั้งสองจะไม่มีวันรักษาหาย






          สำหรับมาเรียลี ผลการชันสูตรพบว่าเธอประสบภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล และอวัยวะภายในล้มเหลว จากการขาดน้ำอย่างรุนแรง จนเป็นผลให้เสียชีวิต


 ส่วนสาเหตุที่เรือล่ม เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร นอกจากนี้แล้ว การที่เรือไม่มีระบบ GPS และระบบวิทยุสื่อสาร ทำให้ไม่สามารถติดต่อเรือได้ และการช่วยเหลือไปถึงช้า เพราะต้องค้นหานาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหาย แต่สันนิษฐานว่าพวกเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว











ขอบคุณแหล่งที่มา:​​ kapook.com







เมื่อวัน​ที่​ 18 ก.ย.​ สำนักงาน​เขต​ดินแดง​ โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ก สำนักงานเขตดินแดง ชี้แจง​กรณี​สื่อ​สังคม​ออนไลน์​ เสนอคลิปเจ้าหน้าที่เทศกิจยึดสิ่งของจากผู้ค้าบริเวณหน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่นำกระป๋องเงินของผู้ค้าไปนั้น


สำนักงานเขตดินแดง ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจในการดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มารับการบริการวัคซีนโควิด-19 บริเวณกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.64 ซึ่งในระหว่างนั้นมีประชาชนมารอรับบริการจำนวนมากและมีผู้ค้ารถเข็นหลายรายนำสินค้ามาจำหน่าย เจ้าหน้าที่เทศกิจจึงได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไม่ให้จำหน่ายสินค้าและจอดรถกีดขวางบนถนน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจราจร จึงเป็นเหตุให้มีการจับกุมดังกล่าว


ซึ่งตามภาพที่สื่อสังคม​ออนไลน์​ได้นำไปลงนั้น เจ้าหน้าที่เทศกิจ​ได้ดำเนินการกวดขันผู้ค้าไอศกรีม ซึ่งฝ่าฝืนในลักษณะนี้เป็นประจำและมีอยู่เพียงรายเดียว ที่ยังคงฝ่าฝืนมาโดยตลอด ซึ่งได้เคยประชาสัมพันธ์ตักเตือน​ไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังคงฝ่าฝืนขายสินค้าในบริเวณดังกล่าว ซึ่งในวันที่เกิดเหตุนั้นมีการจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้เคลื่อนย้าย แต่ยังคงฝ่าฝืน






สำหรับผู้ค้าไอศกรีมที่ปรากฏตามคลิป นั้น เป็นการจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใดปรุงอาหาร ขาย หรือจำหน่ายสินค้าบนถนน หรือในสถานสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจพบการกระทำความผิด จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดไปประกอบการดำเนินคดี (มาตรา 50) ทั้งนี้ ในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ยึดกระป๋องใส่อุปกรณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ใส่ไอศกรีม มิใช่กระป๋องใส่เงิน และไม่ได้ยึดรถเข็นเป็นของกลางแต่อย่างใด






อย่างไรก็ตาม สำนักงาน​เขต​ดินแดง​ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจ​ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในภาคสนาม ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ และหลีกเลี่ยงการดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจคุกคามต่อสภาพจิตใจของประชาชน อย่างเคร่งครัดต่อไป .










ขอบคุณแหล่งที่มา:​​dailynews.co.th

17/9/64







ประวัติ พระมหาไพรวัลย์ วรวัณฺโณ พระนักคิดนักเขียน ชื่อดังปัจจุบันอายุ 29 ย่าง 30 ปี เกิดในครอบครัวยากจน พ่อกับแม่มีอาชีพก่อสร้าง สำหรับ พระมหาไพรวัลย์ เดิมชื่อ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ภูมิลำเนาเป็นคน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เมื่อเรียนจบชั้น ป.6 อายุได้ 12 ปี ได้ไปบวชเณรที่วัดพิพัฒน์มงคล จ.สุโขทัย

พระมหาไพรวัลย์ เจ้าของตำแหน่ง สามเณรเปรียญธรรม 9 ประโยครูปแรกของ จ.สุโขทัย ปี 2555 สามเณรไพรวัลย์ฯ สามารถสอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งเป็นระดับชั้นสูงสุด ของการศึกษาแผนกบาลีของคณะสงฆ์ไทย โดยในปีนั้น มีสามเณรสอบได้ จำนวน 4 รูป ซึ่งสามเณรไพรวัลย์ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการสอบบาลีสนามหลวง






ด้วยเหตุที่ว่า เป็นสำนักเรียนใหม่ ห่างไกลความเจริญและมีสามเณรสอบได้ ในขณะที่สำนักเรียนอื่นๆนั้น เป็นสำนักเรียนเก่า และมีทุนหนากล้าซื้อตัวคนเก่งเข้าสำนัก เพื่อให้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแชมป์บาลีสนามหลวง


ขณะเดียวกัน พระมหาไพรวัลย์ ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับ จ.สุโขทัย ด้วยการเป็นสามเณรที่สามารถสอบเปรียญธรรม 9 ประโยคได้ในรอบ 200 ปี ลบคำสบประมาทที่ว่าสำนักเรียนบาลีบ้านนอก หรือจะสู้สำนักเรียนเมืองกรุงได้






เมื่ออายุครบบวช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับอุปสมบทเป็นพระภิกษุนาคหลวง พระมหาไพรวัลย์ จบการศึกษาปริญญาโท คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกำลัง

ศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา


ปัจจุบันจำวัดอยู่ที่วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ โดย พระมหาไพรวัลย์ เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนวัดสร้อยทองและวิทยาลัยเทคโนโลยี วิมลบริหารธุรกิจ


นอกจากนี้ พระมหาไพรวัลย์ ยังสอนธรรมะผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย สนุก เป็นกันเอง เข้ากันกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ จนสร้างสถิติมีผู้ชมไลฟ์สดกว่า 2 แสนราย












ขอบคุณแหล่งที่มา: amarintv.com/sanook.com







สมัยตอนเป็นสามเณรเรียนพุทธประวัติแบบท่องจำ ไม่รู้ว่าจะนำเอาเรื่องราวในพุทธประวัติที่เรียนมาใช้กับชีวิตได้อย่างไร เคยได้ยินแต่ครูบาอาจารย์ที่สอนเล่าให้ฟังว่า “พุทธประวัติไม่ใช่เป็นเพียงแค่ประวัติพระพุทธเจ้าให้เราได้เรียนเท่านั้น แต่พุทธประวัติยังแฝงไปด้วยแง่คิด การดำเนินชีวิต หลักธรรม ตัวอย่าง และกรณีศึกษาในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถนำประยุกต์ใช้ในชีวิตของเราได้”  

ตอนนั้นก็ฟังไปอย่างนั้น ยังไม่รู้ว่าพุทธประวัติที่เรียนแบบท่องๆ อยู่นี่ จะเป็นประโยชน์กับเราได้อย่างไร นอกจากจำไปตอบข้อสอบในการสอบนักธรรม ซึ่งเป็นการวัดผลความรู้ของพระภิกษุสามเณรที่บวชเรียน มาจนถึงวันที่ต้องไปปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ทั้งในส่วนบุคคล องค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เมื่อชีวิตของเราได้ไปพบเรื่องราว ปัญหา อุปสรรค พบปะผู้คนมากมายหลากหลายอารมณ์ จึงเป็นวันที่ได้นึกถึงเรื่องราวพุทธประวัติที่เคยเรียนสมัยเป็นสามเณร หลายตอนในพุทธประวัติ ได้สะท้อนมุมมองชีวิต ไม่ว่าจะเป็น “วิธีคิด” หรือ “วิธีการจัดการและแก้ปัญหา” ของพระพุทธเจ้า  

อย่างในวันที่พญามารจะเข้ามาประหัตประหารจะเอาชีวิตของพระพุทธเจ้า ด้วยกำลังพลที่มาก และอาวุธพร้อมในมือ ซึ่งตรงข้ามกับพระพุทธเจ้า ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพียงพระองค์เดียว แม้ว่าพระองค์จะเป็นพระราชโอรสของพระราชา แต่ในขณะนั้นพระพุทธเจ้าทรงสละความสุขส่วนตัว เพื่อออกแสวงหาทางออกจากทุกข์ ละทิ้งความสะดวกสบายของการเป็นองค์ชาย ไม่มีราชองครักษ์คอยดูแลช่วยเหลือ แต่พระองค์ก็มิได้ทรงหวั่นไหวพระทัยต่อการเข้ามาเพื่อเอาชีวิตของพญามาร ด้วยมองไม่เห็นผู้ใดที่จะช่วยพระองค์ในตอนนั้น มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่พระองค์ทรงมองเห็นว่าจะสามารถเป็นที่พึ่งของพระองค์ได้ในยามนี้ นั่นก็คือ “ความดี” ที่ทรงบำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน พระองค์มั่นใจว่า “ความดี” ที่ได้ทรงกระทำมานั้นแหละ จะสามารถช่วยพระองค์ในครั้งนี้ได้ จึงตั้งจิตอธิษฐานนึกถึง “ความดี” ที่ได้ทรงกระทำมา จนสามารถเอาชนะพญามารที่คิดจะทำร้าย ทำลายชีวิตของพระองค์สำเร็จ จนมีการสร้างพระพุทธรูปปางหนึ่งขึ้นมา เป็นปางนั่งสมาธิ พระหัตถ์วางบนพระเพลา ชี้พระดรรชนีลงพื้นดิน เรียกว่า “ปางมารวิชัย”  





ในอีกแง่หนึ่ง ตีความได้ว่า“มาร” ก็คือกิเลส ได้แก่ โลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) โมหะ (ความหลง) ที่มารบกวนพระทัยพระองค์ในขณะนั่งสมาธิ เสนามาร ก็คือกิเลสเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นบริวาร ของโลภะ โทสะ โมหะ การที่ทรงผจญมารก็คือ ทรงต่อสู้กับอำนาจของกิเลสเหล่านี้นั่นเอง 

การที่ใครสักคนหนึ่งสามารถเอาชนะจิตใจของตนเองได้ เมื่อจิตใจคิดไปในการที่เป็นอกุศล ในทางเสียๆ หายๆ แต่ยังสามารถดึงเอา “ความดี” ที่อยู่ในหัวใจ ออกมาทำหน้าที่ “ย้ำเตือน” ให้มีความหนักแน่นใน “ความดี” ที่ตัวเราได้ทำ และสามารถเอาชนะ “ความชั่ว” ด้วยการข่มใจ ไม่ให้หวั่นไหวไปกับสายลมแห่งอกุศล แล้วบอกกับตัวเองทุกครั้งที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่ออกุศลว่า “เราจะสู้กันจนถึงที่สุด”  





...วันหนึ่งขณะสอนพุทธประวัติลูกศิษย์ในตอนผจญมารว่า พระพุทธองค์ทรงมีความหนักแน่นในพระทัยมากเพียงใด เด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ยกมือแสดงความคิดเห็นว่า “ผมคิดว่าใจของผมคงไม่หนักแน่น เหมือนพระพุทธเจ้าแน่ โดยเฉพาะตอนที่พญามาร ส่งลูกสาวสามคนมารบกวนพระพุทธเจ้า ผมอาจตกเป็นลูกเขยของพญามารไปแล้วก็ได้ครับ” 

 ใครที่ไม่หนักแน่น อาจเป็นลูกเขยพญามาร เหมือนลูกศิษย์คนนี้แน่ๆ 

พระครูปลัดบัณฑิต อินฺทเมธี 

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสังข์กระจาย วรวิหาร 

ประธานสำนักปฏิบัติธรรมป่าโมกข์ธรรมาราม จ.สระแก้ว 










ขอบคุณแหล่งที่มา:dailynews.co.th 

16/9/64







แม้การออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่ผ่านมา แนวทางเลขเด็ดที่ เจ๊นุ๊ก บารมีมหาเฮง หรือ เจ๊นุ๊ก สำนักเลขเด็ด ให้มานั้นจะพลาดเป้า หลังจากที่พาปังมา 3 งวดติด แต่ก็ยังมีคอหวยให้ความสนใจ และรอติดตามแนวทางจากเจ๊นุ๊กอยู่เรื่อยๆ


ล่าสุด สำหรับออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 ก.ย. 2564 เจ๊นุ๊ก ก็ได้ให้แนวทางเช่นเคย โดยระบุว่า เป็นเลขที่ตามมานานแล้ว ขอให้มาในงวด 16 ก.ย. 64 ถูกผิดก็ต้องขออภัย ซึ่งเลขที่เจ๊นุ๊กให้เป้นแนวทางได้แก่เลข 12 , 712 , 76 และเลข 3 ตัวที่ชอบ ได้แก่ 029, 026, 847, 906













ขอบคุณแหล่งที่มา: sanook.com







หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ธนโชติจินดา สาวให้แนวทางเลขเด็ดคนดัง ได้ประกาศว่าจะของดจุดธูป 3 งวด และจะไปถือศีล 7 วัน โดยต่อมาแม่น้ำหนึ่ง ได้ไลฟ์เผยเลขเด็ดที่ชอบในการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ก.ย. 2564 โดยระบุว่าเลขว่างวดนี้ชอบ 4 ก่อนจะบอกว่า จริงๆ ชอบ 44 และบอกว่า งวดนี้เอาไปก่อนเลย 44 เพราะชอบ ให้แล้วนะ






ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2564 ได้มีการแชร์แนวทางเลขรัฐบาลไทย โดยระบุว่าเป็นเลขจากกลุ่มของแม่น้ำหนึ่ง ระบุข้อความว่า แนวทางในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไทยเท่านั้น (16/09/64)


743

74-73-43-44

ชอบ 4-3

ชอบมาก 4













ขอบคุณแหล่งที่มา: sanook.com

7/9/64







ยอมรับอาจมีพฤติกรรมขาดความสำรวมไปบ้าง แต่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง สามารถตักเตือนกันได้ เจ้าคณะเขตบางซื่อ เผย 2 พระมหาชื่อดัง มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความรู้ เจตนาดีที่ต้องการให้ประชาชนสนใจธรรมะ 

พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง กล่าวถึงกรณีพระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง ที่ร่วมกันไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ได้รับทราบเรื่องที่พระมหาทั้งสองรูปเทศน์สดผ่านเฟซบุ๊กได้รับความสนใจจากประชาชน มีทั้งกระแสที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ ยอมรับว่าวิธีการสอนธรรมะของพระทั้งสองรูปมีความเหมาะสมกับกระแสโลกในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อยู่บ้านหยุดการแพร่เชื้อ แม้พระสงฆ์เองก็เดือดร้อน หลายวัดงดกิจนิมนต์และงดรับบิณฑบาต เพื่อเป็นการป้องกันตนเองส่งผลให้พระภิกษุสามเณรภายในวัดไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ไปเรียนหนังสือก็ไม่ได้ ต้องเรียนผ่านออนไลน์ ดังนั้นการเทศนาบรรยายธรรมของพระทั้งสองรูปก็อาจเป็นแนวทางใหม่ ให้คนหันมาสนใจธรรมะ โดยไม่ต้องไปรวมตัวเป็นกลุ่มกัน เน้นไปยังกลุ่มวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว เพื่อให้คนกลุ่มนี้สนใจก่อนในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม พระทั้งสองรูป ก็อาจยังมีการแสดงออกที่ขาดความสำรวมไปบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องความผิดร้ายแรง สามารถกล่าวตักเตือนให้ท่านระมัดระวังเรื่องการวางตัวให้เหมาะสมแก่สมณสารูปได้ ทั้งนี้ วิธีการแบบที่ท่านพระมหาทั้งสองกำลังทำอยู่ ต้องทำใจยอมรับว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่โดยส่วนตัวมองว่า เรื่องใดที่ให้ประโยชน์มากกว่า ก็สามารถดำเนินการได้ โดยให้อยู่บนหลักความถูกต้องและเหมาะสมกับความเป็นสงฆ์





ด้านพระมหาสมัคร มหาวีโร เจ้าคณะเขตบางซื่อ กล่าวว่า ต้องให้เจ้าคณะผู้ปกครองโดยตรงพิจารณาถึงความเหมาะสม คือ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง แต่จากความเห็นส่วนตัว มองว่าเรื่องการเทศน์บรรยายธรรมของพระทั้งสองรูป ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่คณะสงฆ์แต่อย่างใด เพราะเป้าหมายสูงสุดของการบรรยายธรรม ก็คือให้คนสนใจในหลักธรรมพระพุทธศาสนา แต่วิธีการของท่านที่ปรากฏในสื่อ การพูดการแสดงออก มุกตลก อาจจะมีหลายคนยังรับไม่ได้ ก็ต้องมีการปรับปรุงกันไปให้เกิดความพอดี คือ มีทั้งสาระ บันเทิง และอยู่ในกรอบแห่งความพอดี และเท่าที่เคยพูดคุยกับพระทั้งสองรูป ท่านก็เป็นพระหนุ่มที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความรู้ และมีเจตนาดีที่ต้องการให้ประชาชนสนใจธรรมะ แต่ด้วยความเป็นพระหนุ่ม บางสิ่งบางอย่างที่ดำเนินการ ก็อาจมีเกินเลยไปบ้าง พระผู้ใหญ่ก็ต้องตักเตือนให้ท่านรับรู้ ส่วนท่านทั้งสองก็ต้องน้อมรับและนำมาปรับปรุง













ขอบคุณแหล่งที่มา: dailynews.co.th

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Recent Comments

Formulir Kontak

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

recent posts

flickr photos

About us

recent posts

?ิ??ี่?ี่ ????????์

Random Posts

ข่าวยอดฮิด

Follow on twitter

Follow on Fanpage

Follow Me

Recent Posts

Flag Counter

Recent Posts

Text Widget